เรื่อง Thunder God Emperor จักรพรรดิอัสนีเทพเจ้า
ภาคที่2 ี่79 ชี้แนะเ่าาใน
เฟิงอี้เดินเอามือไพล่หลังมาหยุดอยู่ใต้โคนต้นไม้ตนหนึ่งก่อนที่ัทอดครรลองดวงเนตรสอดส่องเ่าาในที่ำัเดินตามมาราวกับลูกเป็ด
เฟิงอี้ต้องการที่ัชี้แนะพวกาให้สามารถไขว่คว้าความแข็งแกร่งได้อย่างเข้มแข็งเพราะาในเ่านี้ัเป็นกองำัแรกของเฟิงอี้ในการขึ้นเป็นัรพรรดิหรือครอบครองอาณาัรต้าเหว่ย
“พื้นฐานของความยิ่งใหญ่ก็คือความอดทนต่อความยากลำบากและมิย่อท้อต่อการไขว่คว้าพลัง…”เมื่อเดินตามมาถึงยังที่เฟิงอี้หยุดอยู่เ่าาในก็ต่างงุนงงเหตุใดองค์ชายของพวกาจึงได้เอ่ยวาจาลึกล้ำราวกับเป็นเซียนเฒ่าก็มิปานทำให้พวกาอดมิได้ที่ัชะงักงัน
“สิ่งแรกที่้าัให้พวกเ้าทำและห้ามมิให้ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของ้าแม้แต่ผู้เดียวหากว่าพวกเ้าผู้ใดกล้าฝ่าฝืนคงัรู้ว่าอันใดัเกิดขึ้นกับพวกเ้า?”เฟิงอี้เอ่ยขึ้นพร้อมกับดวงเนตรที่เผยแววประกายเย็นเหยียบและเหี้ยมเกรียมออกมา
“จงวิ่งรอบตำหนักหนึ่งพันรอบเสีย”เฟิงอี้สั่งเ่าาในก็มิกล้าปริปากบ่นแต่อย่างใดและทำตามอย่างว่าง่ายแม้พวกาัมิเคยทำอันใดแบบนี้แต่ทว่าการวิ่งหนึ่งพันรอบก็มิได้สาหัสนักเพราะถึงอย่างไรพวกาก็แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ธรรมดานัก
“หนึ่งพันรอบ้าให้เวลาพวกเ้าแค่สามชั่วโมงเท่านั้น”สิ่งนี้ถูกเอ่ยมาเ่าาในก็มิกล้าอ้อยอิ่งเพราะพวกาจำต้องทำตามให้ได้ครบถ้วนมิเ่ั้แล้วมิรู้ว่าฟ้าจะถล่มหรือไม่?...หากองค์ชายของพวกาบันดาลโทสะ
…
หลังจากที่ออกคำสั่งให้เ่าาในวิ่งฝึกฝนร่างกายเพื่อที่ัพร้อมในการพัฒนาวรยุทธ์ของพวกเขาเฟิงอี้ก็มาสนใจกับการฝึกของตนเองต่อไป
เฟิงอี้นอนลงพร้อมกับเอามือทั้งสอง้างไปดันพื้นดินแล้วเหยียดร่างกายให้เหยียดตรงเมื่อตนเองก็ชี้แนะให้ผู้อื่นฝึกฝนร่างกายเฟิงอี้ก็มิคิดัให้ตนเองหย่อนยานเพราะการฝึกฝนยิ่งกระทำก็ัยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้นมันคือผลดีอย่างถึงที่สุด
หนึ่งร้อย…
สองร้อย…
สามร้อย…
หนึ่งพัน…
สองพัน…
สามพัน…
เวลาล่วงเลยไปถึงสามชั่วโมงแล้วในตอนนี้เฟิงอี้ฝึกฝนกายเนื้อของตนรอเ่าาในที่วิ่งหนึ่งพันรอบให้สำเร็จเสียงนับเอ่ยปากแผ่วเบาของเฟิงอี้ก็ดังเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ัลุกขึ้นยืน
หนึ่งหมื่น…
เฟิงอี้ดันพื้นเพื่อฝึกฝนพละำัของกล้ามเนื้อแขนและหน้าอกจนถึงหมื่นครั้ง!
มันทำให้เฟิงอี้นั้นรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง
แฮ แฮ
เสียงเหนื่อยหอบดังใกล้เ้าาให้เฟิงอี้ได้ยินเห็นได้ชัดเจนว่าำัมีร่างของสตรีหลายคนที่ร่างโชกเหงื่อำัเคลื่อนกายเ้าาหามองดูแล้วก็ดูเจริญตาได้อยู่บ้างเลยทีเดียวแม้ว่าพวกาัมิได้งดงามมากนักแต่ก็ยังแผ่กลิ่นอายของสตรีอันเย้ายวนออกมามากมายเลยทีเดียวทว่าเฟิงอี้หาได้ลุ่มหลง
ดวงเนตรและสีหน้าที่เรียบเฉยมิสั่นคลอนแม้แต่น้อยพลันเอ่ยปากขึ้นอย่างราบเรียบ
“้าให้เวลาพวกเ้าพักห้านาที”เมื่อเ่าาในได้ยินก็กระพริบตาแป๋วอย่างขัดขืนมิได้
“เ้ามีนามว่าอันใด?”เฟิงอี้ชี้ไปยังสตรีาในผู้หนึ่งซึ่งามีรอยไฝเล็กอยู่ใต้ตาซ้ายผิวกายของาขาวเนียนใบหน้าก็ดูดีอยู่มิน้อยเ้าขั้นหญิงงามผู้หนึ่ง
“กระหม่อมมีนามว่าฮวาถงเพคะ”าเอ่ยก่อนที่ัคำนับเฟิงอี้หนึ่งครั้ง
“แล้วเ้าล่ะ? พวกเ้าทุกคนนาม้าาเสีย”เ่าาในมิกล้าอ้อยอิ่งก็นามของตนให้เฟิงอี้รับรู้พวกามีกันอยู่สิบคนเฟิงอี้ก็ได้ทราบนามของพวกาทั้งหมดแล้วในตอนนี้
“ฮวาถงเ้ามีระดับพลังสูงส่งกว่าผู้อื่นเฉกเ่ั้แล้ว้าัแต่งตั้งให้เ้าเป็นหัวหน้ากองำัของ้า”เฟิงอี้เอ่ยขึ้นก็ทำให้ฮวาถงและเ่าาในที่เหลือใจสั่นสะท้านในทันที
กองำั? ้กันเ่หรือไง? นี่ัให้พวกาเป็นกองำัทหารให้เ่ั้หรือ?
เ่าาในรู้ดีว่าความหมายของคำว่ากองำัคืออะไรสำหรับองค์ชายพวกาัต้องเป็นกองำัที่ต้องเ้าห่ำหั่นกับกองำัขององค์ชายคนอื่นๆ
“เอ่อ…คือว่าขอบังอาจเพคะ...องค์ชายพวกระหม่อมมิใช่ว่าัอยากขัดใจท่านแต่พวก้านี่หรือที่ัเป็นกองำัให้ท่านเกรงว่า…”ฮวาถงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าหนักใจาก็แค่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดชีพจรขั้นที่4ัให้เอาอันใดไปสู้กับพวกหมาป่าโหดร้ายอย่างพวกทหารของกองำัอื่นๆ
“หึหึ…”เฟิงอี้เผยเสียงหัวเราะขบขันเล็กน้อยก่อนที่ัแผ่รัศมีอันทรงพลังออกไปฉับพลันนั้นก็ทำให้เ่าาในแข่งขาอ่อนยวบลงและสั่นสะท้านอย่างมิอาจต้านทาน
“น่าขบขันยิ่งนัก…พวกเ้าคิดว่า้าผู้นี้เป็นผู้ใดรึ? พวกเ้าเป็นกองำัของ้าคิดื่า้าัมิมีวิธีทำให้พวกเ้าแข็งแกร่งขึ้นมาได้?”เฟิงอี้มิได้เอ่ยโป้ปดเพราะเพียงแค่ประสบการณ์ต่างๆในอดีตของเฟิงอี้เองก็สามารถที่ัชี้แนะให้พวกากลายเป็นผู้แข็งแกร่งเหนือผู้ใดได้อย่างมิยากเย็นนัก
ีอย่างเคล็ดวิชาที่อาณาัรเล็กๆอย่างอาณาัรต้าเหว่ยมิมีทางได้ครอบครองก็มีอยู่มากมายหลายหมื่นหลายพันกว่าเคล็ดวิชาในความทรงจำของตัวเฟิงอี้เอง
หรือรวมไปถึงการใช้เทคนิคการส่งเสริมให้ผู้อื่นทะลวงขั้นเฟิงอี้ก็มีมันและสามารถทำมันได้ีด้วยเพียงแค่ัสร้างนักรบระดับกำเนิดปฐพีเหตุใดเฟิงอี้ัทำมิได้?
การที่ัเ้าร่วมการชิงบัลลังก์เฟิงอี้จำเป็นต้องมีกองำันักรบระดับกำเนิดปฐพีเป็นของตนเองตั้งแต่สิบคนเป็นต้นไป
และเฟิงอี้ก็ัเ่ตามกฏนี้เมื่อเวลามาถึงเหตุใดัต้องมาแหกกฏกับแค่การแย่งชิงในอาณาัรเล็กๆล่ะจริงหรือไม่?
อาจัี ห้าสิบ หรือ ิ ปี ืไ่็ ร้อยปี เฟิงต้าหมิงก็คงัสละบัลลังก์เองเป็นแน่แท้แม้ัยังมีพละำัมหาศาลอยู่ก็ตามเพราะตัวมันก็คงมิอยากตายไปกับบัลลังก์และเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดบ่อปราณสวรรค์อย่างแน่นอน
ตัวเฟิงต้าหมิงก็คงัออกไปท่องโลกเพื่อแสวงหาโอกาศในการบรรลุขั้นพลังต่อไป...
เฟิงอี้เองก็คาดคิดไว้ว่าเมื่อถึงตอนนั้นระดับพลังของตนก็คงัสามารถกอบกุมอำนาจและยึดครองอาณาัรต่างๆได้มิยากและัมุ่งหน้าไปยังดินแดนเซียน…
หลังจากที่จัดแจงยัดเยียดให้เ่าาในกลายเป็นกองำันักรบของตนแล้วเฟิงอี้ก็มิได้นิ่งเฉยถ่ายทอดเคล็ดวิชาที่ดีกว่าให้พวกาในทันที
เคล็ดวิชาที่พวกาได้รับนั้นแน่นอนว่าเฟิงอี้มิได้หึงหวงวิชาระดับเซียนเลยแม้แต่น้อยถ่ายทอดให้พวกาอย่างมิรู้สึกรู้สา
“นี่…”ฮวาถงเป็นคนสุดท้ายที่เฟิงอี้ถ่ายทอดวิชาระดับเซียนให้เ่าาในคนที่เหลื่อต่างนั่งลงขัดสมาธิเ้าไปในภวังค์แห่งการบ่มเพาะของตนในทันทีพวกาเหมือนกับตัดขาดจากโลกนี้ไปเลยก็มิปาน
มิว่าัเป็นเสียงนกกาลมพัดหรือแมลงไต่ตอมก็มิทำให้พวกาสนใจเลยแม้แต่เล็กน้อย
ออร่าพลังปราณอันทรงพลังเริ่มแผ่ออกมาจากร่างของแต่ละคนอย่างน่าอัศจรรย์กระทั่งมีการฝ่าด่านหรือทะลวงขั้น
นั่งขัดสมาธิอยู่ผู้ที่ทะลวงระดับพลังฝึกตนได้ก่อนผู้ใดคือสตรีนามหยวงหยี่คราแรกามีระดับกำเนิดชีพจรขั้นที่สองแต่บัดนี้กลายเป็นกำเนิดชีพจรขั้นที่สี่แล้ว!
มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งการกระทำของเฟิงอี้แต่ละอย่างช่างช่วนน่าตื่นตะลึงและราวกับเทพเซียนเป็นผู้กระทำก็มิปานมิว่าัเป็นการถ่ายทอดวรยุทธ์ด้วยการแตะหน้าผากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ฮวาถงเมื่อได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาจากเฟิงอี้าเองก็มิต่างจากคนอื่นๆเ้าสู่ภวังค์แห่งการบ่มเพาะในทันที…
อาณาัรต้าเหว่ยที่เงียบสงบบัดนี้ได้เป็นจุดเริ่มต้นของนักรบอันสะเทือนนภาสะท้านปฐพี!
จบ…โปรดติดตามตอนต่อไป….
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??