เรื่อง Thunder God Emperor จักรพรรดิอัสนีเทพเจ้า
ตอนที่26 ะั้ศีรษะ
ู!
เสียงระเบิดสะเทือนเลือนลั่นดังขึ้นมันเป็นการปะทะกันของพลังปราณที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่งฝ่ามือเข้าปะทะปัดป้องกันไปมาด้วยความเร็วที่เหนือธรรมดา
มันดูลื่นไหลและคล่องแคล่วเป็นอย่างมากเห็นได้ชัดว่าวิชาของบุรุษร่างอาภรณ์สีดำทมิฬและซ่งจางเริ่มผสานกันได้อย่างลงตัวแต่ทว่าซ่งจางเองก็มีสภาพอ่อนแรงและย่ำแย่ยิ่งนักเพราะแขนที่หายไปพร้อมกับถูกเฟิงอี้จู่โจมไปหลายคราจนเกือบสิ้นชีพลง
หากว่ามิใช่เพราะประณิธานอันแรงกล้าของซ่งจางที่ต้องการแก้แค้นให้ศิษย์น้องคงจักมิสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกต่อไปแล้ว
ในสายตาของบุรุษอาภรณ์สีดำทมิฬและซ่งจางบัดนี้มองเฟิงอี้ราวกับเป็นพญามารก็มิปานเพราะมิว่าจักเป็นวิชาการต่อสู้หรือประสบการณ์ก็ล้ำลึกยิ่งนักหากมิใช่เพราะว่าเฟิงอี้มีระดับการบ่มเพาะต่ำชั้นกว่าหลายขั้นพวกเขาคงตกตายโดยที่มิมีโอกาสรู้ตัวว่าตกตายเช่นใดเป็นแน่!
เฟิงอี้ฟาดฝ่ามือลงมาครั้งหนึ่งเมื่อบุรุษร่างอาภรณ์สีดำทมิฬต้านรับก็ถูกกดให้เท้าจมลงไปในพื้นเวทีทันทีพื้นเวทีในตอนนี้มีสภาพน่าอนาถเป็นอย่างมากมันราวกับว่าที่แห่งนี้ถูกสัตว์อสูรขนาดใหญ่ยักษ์เท่าภูเขาร่วงลงมาจากท้องนภาก็ไม่ปาน
ร่องรอยการต่อสู้ช่างน่าหวาดผวาและน่าตกตะลึงมิน้อยเลย
! !
เห็นเพียงเงาเลือนรางบุรุษร่างอาภรณ์สีดำทมิฬในตอนนี้มีสภาพยับเยินจนในตอนนี้เผยใบหน้าของเขาออกมาแล้ว
เป็นใบหน้าที่หล่อเหลามิน้อยแต่ทว่ากับมีสัญลักษณ์บางอย่างสลักเอาไว้มันเป็นอักขระที่มิใช่อักขระบรรพกาลไท่กั๋ว
เฟิงอี้เองก็มิเคยพบเจอกับอักขระประเภทนี้มาก่อนเช่นกันแต่ทว่าสัมผัสที่แผ่ออกมาจากอักขระนั้นดูชั่วร้ายเป็นอย่างมาก
“หรือว่าจักเป็นอักขระสายโลหิตพิเศษ?”เฟิงอี้ได้แต่คาดเดามิสามารถบอกได้ว่ามันคือสิ่งใดเพราะใช่ว่าเฟิงอี้จักรู้จักสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่เสียหน่อย
หรือแม้แต่เผ่าพันธ์ุที่อุบัติขึ้นมาใหม่เช่นกัน
เฟิงอี้เคลื่อนไหวติดตามไปใช่ว่าเฟิงอี้จักสามารถสังหารบุรุษร่างอาภรณ์สีดำทมิฬผู้นี้ได้เพราะความแข็งแกร่งของบุรุษร่างอาภรณ์สีดำทมิฬผู้นี้ค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าปกติไปมาก
เฟิงอี้รู้สึกราวกับว่ากำลังประมือกับระดับกำเนิดปฐพีขั้นที่3ที่มีฝีมืออยู่กลางๆเลยทีเดียว
“แม้ว่าข้าจักมีลมปราณที่บริสุทธิ์แต่ทว่าระดับมันก็ยังคงต่ำตมเกินไป”เฟิงอี้เข้าใจในจุดนี้เขาทรงพลังก็จริงแต่ทว่าก็หาใช่ว่าจักสำแดงพลังรบเช่นนี้ได้นานเท่าระดับกำเนิดปฐพีไม่
แม้ว่าลมปราณของบุรุษร่างอาภรณ์สีดำทมิฬจักมิได้บริสุทธิ์มากมายดั่งลมปราณเฟิงอี้แต่ทว่าปริมาณของมันก็ยังมากมายอยู่มิน้อย
ซ่งจางนั้นก็เช่นกันอย่างไรก็เป็นถึงผู้ฝึกตนระดับกำเนิดปฐพีหากยืดเยื้อจนเกินไปเฟิงอี้จักต้องจบลงด้วยลมปราณที่หมดลงอย่างแน่นอน
เฟิงอี้คาดว่าหากยื้อต่อไปเฟิงอี้จักสามารถต่อสู้ได้ถึงสองวันจึงจักลมปราณหมดลงซึ่งมันก็เกินกว่าผู้ฝึกตนระดับกำเนิดเส้นชีพจรขั้นที่3ทั่วไปอย่างแน่นอน
เมื่อลมปราณหมดลงเฟิงอี้จักมิสามารถสำแดงพลังรบเช่นตอนนี้ได้อีกนั่นก็คือจุดจบอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เป็นแน่เช่นนั้นแล้วเฟิงอี้จักต้องรีบจบการต่อสู้ครั้งนี้ลงเสีย!
! !
ฉับพลันเฟิงอี้เคลื่อนกายเข้าหาซ่งจางที่บัดนี้ถูกเฟิงอี้กระแทกไปจนถอยออกไปไกล
แก๊ว! แ! แ!
“ตาย!”เมื่อมาถึงระยะโจมตีเฟิงอี้ก็พลันตบฝ่ามือที่แฝงเร้นพลังเส้นสายอัสนีสีทองที่ส่งกลิ่นอายทำลายล้างที่กดดันทุกสรรพสิ่งไปยังร่างของซ่งจาง
ู!
คลื่นกระแทกอันหนักแน่นพลันถูกระเบิดออกมาหมัดที่แข็งแกร่งของซ่งจางซัดเข้าปะทะฝ่ามือที่แฝงเร้นเส้นสายอัสนีสีทองเอาไว้ฉับพลันก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นโครมคราม
พื้นเวทีที่พังเละพลันสั่นสะเทือนแต่ทว่าทั้งสองหาได้สนใจไม่โดยเฉพาะตอนนี้จักเป็นการลงมือปลิดชีพ!
เฟิงอี้ยกมือขึ้นเหนือศีรษะทันใดนั้นก็วาดมันลงมาในชั่วพริบตาซ่งจางในตอนนี้มิสามารถต้านรับได้ไหวแล้วเพราะเมื่อกี้พึ่งต้านรับฝ่ามือของเฟิงอี้ไปฉับพลันก็มีการโจมตีที่ทรงพลังยิ่งกว่าพุ่งเข้ามาอีก
ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ที่มิได้มากมายเท่าใดนักซ่งจางมิสามารถออกกระบวนท่าใดๆต้านรับได้เลย
แม้ว่าจักต้านรับไปซ่งจางก็คาดว่าคงจักต้องสิ้นชีพลงอยู่ดีเพราะการโจมตีนี้มันทรงพลังจนเกินไป!
เปรี้ยง!
ศีรษะของซ่งจางพลันหลุดกระเด็นออกจากร่างกายโลหิตก็มิอาจหลั่งไหลออกมาได้รอยตัดนั้นเรียบเนียนจนเกินไปราวกับว่าเป็นคมดาบหรือคมกระบี่ของเทพเจ้าที่วาดลงมาก็มิปาน!
นี่คือการะั้ศีรษะที่ปราณีตเป็นอย่างมาก!
ู!
แม้แต่พื้นที่เละเทะไม่น่ามองอยู่แล้วก็ยังถูกตัดแบ่งออกเป็นร่องรอยเรียบเนียนที่ทอดยาวออกไปหลายเมตรคลื่นกระบี่อัสนีสีทองพุ่งทะยานไปยังบุรุษร่างอาภรณ์สีดำทมิฬที่อยู่ห่างออกไปด้วยเช่นกันทำให้บุรุษร่างอาภรณ์สีดำทมิฬสำแดงวิชาของตนออกมาต้านรับแต่ทว่าก็ยังคงได้รับบาดแผลอยู่ดี
นี่เป็นคลื่นกระบี่ที่ทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง!
ึ! ึ! ตึง!
เพดานที่ปิดกั้นเอาไว้ถูกการต่อสู้ที่ดุเดือดกระทบเข้าอย่างมิหยุดหยอนจนในที่สุดมันก็แตกสลายลงมาทีละเล็กทีละน้อยอย่างมิอาจต้านทานได้
“อึก!”บุรุษร่างอาภรณ์ดำทมิฬกระอักโลหิตออกมาคำโตจากนั้นจึงทอดสายตามองเฟิงอี้ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมจนดำคล้ำขึ้นมา
ในตอนแรกมันคิดว่าจักลงมือเข้าช่วยเหลือซ่งจางแต่ทว่ามันมิคิดเลยว่าเฟิงอี้จักมิได้เล็งเพียงซ่งจางเพียงผู้เดียวเฟิงอี้จู่โจมมันกับซ่งจางพร้อมกัน!
นี่เป็นการคาดการณ์การต่อสู้ที่บัดซับอันใดกันเหตุใดคนผู้หนึ่งถึงได้ร้ายกาจถึงเพียงนี้!
เมื่อลงมือก็มิได้ลงมือสังหารเพียงศัตรูทีละคนแต่ทว่ากับจู่โจมด้วยประสบการณ์การต่อสู้ที่เหนือชั้นกว่าด้วยการจักสังหารศัตรูลงพร้อมๆกัน!
จบ…โปรดติดตามตอนต่อไป…
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??