เรื่อง แรกแย้มวังบุปผา (NC)
“ข้า...ตอนที่เดินตามจูมามามาในตำหนักก็บังเอิญเห็นสาวใช้เดินออกไป และผู้ใดไม่รู้บ้างว่าพระราชวังหยวนฉีมีห้องแยกอยู่ทั้งสองด้าน ห้องโถงมีห้องแยกน้อยสุดห้าห้อง มากสุดเจ็ดห้อง ไม่ได้ใช้เป็นที่เก็บของหรืออาบน้ำ ดังนั้นึมีไว้สำหรับใ้นางกำนัลที่มาเข้าเวรพักผ่อน!” นางกล่าวอย่างรีบร้อน โดยกลัวว่าโม่ซีจะไม่เชื่อ
"โอ้? จริงหรือ?"
โม่ซีเลิกคิ้วพร้อมรอยยิ้มจางๆ บนริมฝีปาก "เจ้าดูคุ้นเคยกับแบบแปลนของพระราชวังหยวนฉีนะ สมกับเป็นสตรีในวังหลัง ... "
เขาพูดอย่างมีเจตนาแอบแฝง ทำใ้ฉีซีรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว
การโกหกเพื่อปกปิดความจริงกลับยิ่งเผยใ้เห็นจุดอ่อน ยิ่งพูดมากก็ยิ่งผิด เงียบไว้เสียยังจะดีกว่า!
“อย่าใ้กูต้องบอกเจ้าซ้ำๆ ว่าผู้ใดที่สามารถสวมเสื้อรัดอกสีแดงเข้มปักดิ้นทองนั้นได้ ทองคำสองร้อยแท่งก็หาได้ยากยิ่ง เว้นเสียแต่จะเป็นขุนนางผู้ร่ำรวยหรือราชวงศ์เท่านั้นที่พอจะมีได้ แม้ว่าเขตเก้าทางใต้จะเต็มไปด้วยตระกูลที่ร่ำรวย แต่กูไม่คิดว่าจะมีผู้ใดกล้าแย่งคนของกูไป เจ้าทำสัญญาเป็นนายบ่าวกับกูที่ถนนดอกไม้แล้ว เหตุใดึเปลี่ยนใจล่ะ? หลอกกูอย่างนั้นหรือ?" โม่ซีเดินไปที่เตียง
“หากเป็นเช่นนี้ ตามกฎหมายอาญาของต้าจิ้ง จะถูกตัดศีรษะทันที”
เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของเขา ฉีซีก็รู้สึกหวาดกลัว กอดผ้าห่มและหดตัวไปอีกฟากหนึ่งของเตียง พูดตะกุกตะกักว่า "...ข้าไม่ได้โกหกท่าน ข้ามีเหตุผล...”
“เหตุผลหรือ? จะใ้กูเชื่อว่าเจ้าไม่ใช่นางสนมของหยวนฉีอย่างนั้นหรือ?” ริมฝีปากของโม่ซีโค้งึ้เล็กน้อย คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ขณะที่ฉีซีรีบพยักหน้าหงึกหงัก ทว่าประโยคถัดมากลับทำใ้สีหน้าของนางซีดเผือด
“ตั้งแต่โบราณ สนมในวังหลังของอาณาจักรที่แพ้สงครามจะต้องเป็นนางบำเรอใ้กับทหารฝ่ายตรงข้ามึจะรอดชีวิต หากไม่ใช่นางสนม แต่เป็นองค์หญิง… กูก็ได้รับราชโองการใ้สังหารราชวงศ์หยวนฉีโดยไม่ต้องปราณี! "
คำพูดของเขาราวกับดาบที่ฟาดลงกลางใจอันเย็นเฉียบของฉีซี เกล็ดน้ำแข็งสาดกระเซ็นจนส่งเสียงดังกึกก้อง
โม่ซีมาถึงข้างเตียงแล้ว คุกเข่าข้างหนึ่งบนเตียง โน้มตัวไปข้างหน้า ถามสตรีที่ตัวสั่นเทิ้มด้วยรอยยิ้มจาง "เช่นนั้น บอกมาเถอะ ว่าเจ้าเป็นนางสนมหรือองค์หญิงหลิวเฟิง?"
“ข้าไม่ใช่องค์หญิงหลิวเฟิง!”
ทันทีที่พูดออกไป นางก็รู้สึกเสียใจ!
โม่ซีมองนางโดยไม่พูดอะไร บรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งคู่หยุดชะงัก
ภายใต้สายตาของเขา ฉีซีรู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลซึมจากต้นคอลงมาที่แผ่นหลัง นางไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ก่อนที่โม่ซีจะยิ้มออกมา ลุกออกจากเตียง ปลดเข็มขัดรัดชุดออก เหลือเพียงเสื้อผ้าชั้นใน
ฉีซีตัวสั่น การกระทำของเขาคือวิธีตอบสนองต่อคำตอบของนางอย่างแน่นอน
เพื่อที่จะรอดชีวิต นางึรีบร้อนปฏิเสธตัวตนที่แท้จริงของตน ทว่าก็ไม่ต่างกับการยอมรับว่านางเป็นนางสนมของหยวนฉี ในสายตาของเขา นางได้เลือกระหว่างความบริสุทธิ์กับชีวิต และการร่วมหลับนอนจะต้องเกิดึ้ในคืนนี้ ทว่านางไม่ต้องการร่วมหลับนอนกับเขา! นางคือองค์หญิงแห่งหยวนฉี นางจะมีสัมพันธ์กับเขาได้อย่างไร!
ฉีซีพยายามเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ ทว่าเนื่องจากฤทธิ์ของผงหม่าเฟ่ย ึเคลื่อนไหวไม่ได้มาก นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสงบสติอารมณ์และไม่ทำใ้เขาโกรธเช่นตอนกลางวัน นางไม่สามารถตายตกอยู่ที่แห่งนี้ได้ นางแบกความคาดหวังของเสด็จแม่ไว้บนบ่า ึต้องตามหาเฝิงซื่อหลางและวางแผนใหม่!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้นางก็แทบจะหลั่งน้ำตา นางเพิ่งหมั้นกับเฝิงซื่อหลางได้ไม่นาน เหตุใดนางึไม่สามารถรักษาความบริสุทธิ์ของตนได้? หากนางมีความสัมพันธ์เช่นนั้นกับซีอ๋องแล้วจริงๆ แล้วนางจะคู่ควรกับเฝิงซื่อหลางได้อย่างไร?
นางเงยหน้าึ้มองโม่ซีที่นั่งอยู่บนเตียง
แม้ว่าจะไม่เห็นสีหน้าของเขา ทว่าก็ยังหวังว่าจะมีโอกาสรอดพ้นจากเงื้อมมือของเขาได้
นางถามด้วยเสียงสั่นเครือ "ซีอ๋อง ท่านช่วยเลื่อนการร่วมหลับนอนไปก่อนได้หรือไม่? ตอนนี้แขนขาข้ารู้สึกไร้เรี่ยวแรง ึไม่สามารถปรนนิบัติท่านได้อย่างเต็มที่... "
หากสามารถซื้อเวลาเพิ่มได้ ก็จะมีพื้นที่สำหรับการเปลี่ยนแปลง!
นางจะหนีออกจากตำหนักแห่งนี้ก่อนการร่วมหลับนอน!
โม่ซีหยุดชะงัก หยุดถอดรองเท้าแล้วหันกลับมามองนางด้วยสายตาซับซ้อน ไม่นานก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า "ไม่ได้"
“การร่วมรักระหว่างบุรุษและสตรีไม่จำเป็นต้องใช้แขนข้างที่เจ็บของเจ้า เจ้าอยู่ด้านล่าง กูอยู่ด้านบน เจ้าไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงมากนักหรอก” โม่ซีกล่าวอย่างจงใจ
ฉีซีตกตะลึง พวงแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
แม้จะรู้ว่าเขาอาจจะปฏิเสธ ทว่าไม่คาดคิดว่าคำตอบของเขาจะชัดเจนและไม่น่าฟังถึงเพียงนี้ บุรุษผู้นี้ช่างไร้ยางอาย!
ฉีซีเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เจตนาฆ่าของนางึปรากฏออกมา สายตากวาดไปรอบเตียงเพื่อค้นหาสิ่งที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ ทันใดนั้นก็นึกถึงปิ่นปักผมบนศีรษะึ้มาได้ นางพยายามขยับแขนเพื่อเอื้อมไปแตะศีรษะ ทว่าสิ่งที่สัมผัสได้กลับเป็นเรือนผมดำสนิท ปิ่นปักผมหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่อาจรู้
นางกัดริมฝีปาก จ้องแผ่นหลังของเขา ยังคงได้ยินเสียงเขาถอดรองเท้าและึ้มาบนเตียง เขากล่าวเสียงเรียบ "เก็บเจตนาฆ่าของเจ้าเสีย คนที่ขยับยังทำไม่ได้ แล้วจะฆ่าผู้ใดได้?"
ฉีซีหวาดกลัว เขารู้ได้อย่างไร? หรือว่าเขาจะมีดวงตาอยู่ด้านหลัง?
โม่ซีไม่หันกลับมา ทว่าเห็นสีหน้าตกตะลึงของนางสะท้อนของกระจกทองแดง ึอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา จากนั้นหันกลับมาและยกขาเพื่อึ้ไปบนเตียง เขานอนเอามือประสานกันรองศีรษะ มองนางที่โกรธจนหน้าแดงก่ำ ทว่าในแววตาแฝงความหวาดกลัว เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือออกไปทางนาง
ฉีซีหวาดกลัวมากจนร่างกายชาและกรีดร้อง "ไม่! ไม่! อย่าแตะต้องตัวข้านะ!"
โม่ซีหยุดมือค้างอยู่กลางอากาศ จากนั้นเอื้อมมือไปข้างหน้าอีกครั้ง คว้าผ้าห่มผ้าในมือของฉีซี แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ผู้ใดบอกว่าอยากสัมผัสเจ้ากัน? ผ้าห่มมีผืนเดียว เหตุใดึยึดไปไว้ผู้เดียวล่ะ?”
ฉีซีถูกเขาทำใ้หวาดกลัวมากจนหลั่งน้ำตา เมื่อเห็นเขามาแย่งผ้าห่ม ึไม่กล้าปล่อยมือและจับผ้าห่มใ้แน่นึ้
โม่ซีคิดว่าแม้จะไม่แน่ใจเกี่ยวกับตัวตนของสตรีที่อยู่ตรงหน้า ทว่าการที่นางไม่สามารถซ่อนอารมณ์ได้นั้นน่าสนใจมาก
พฤติกรรมของนางเต็มไปด้วยช่องโหว่ เห็นได้ชัดว่านางไม่เคยผ่านโลกมาก่อน หากอยู่ในตำหนักต่ออีกสองสามวัน นางอาจจะเปิดเผยตัวตนออกมาก็ได้
หากจะกล่าวหาว่าเขาหลงใหลในเรือนร่างงดงามเย้ายวนใจของนาง ก็คงไม่เท่ากับที่เขารู้สึกขบขันกับความงุ่มง่ามของนาง ทว่าหากนางไม่ได้งดงามโดดเด่นและมีรูปลักษณ์คล้ายหลี่อวิ๋นเจินเขาจะสนใจนางได้อย่างไร?
เขาแค่นเสียงเย็น หัวเราะเยาะตัวเอง หัวเราะเยาะหลี่อวิ๋นเจิน และหัวเราะเยาะแม้กระทั่งสตรีตรงหน้า ทว่าเขาไม่ได้รู้สึกมีความสุขแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ?
เขาพอจะเดาตัวตนที่แท้จริงของนางได้แล้ว ทว่าเขาไม่รีบร้อนที่จะเปิดเผยตัวตนของนาง กลับกันเขาอยากรู้ว่านางจะสามารถทำใ้เขาพอใจได้มากเพียงใดก่อนที่นางจะเปิดเผยตัวตนของนาง แน่นอนว่ารวมถึงความสุขบนเตียงด้วย
“หากยังไม่ปล่อย กูจะร่วมหลับนอนกับเจ้าจริงๆ ”
“ถ้าข้าปล่อย ท่านจะไม่แตะต้องตัวข้าใช่หรือไม่?” ฉีซีมองเขา ปลายนิ้วของนางจิกลงในผ้าห่มผ้า ความกระวนกระวายใจทำใ้นางฟื้นเรี่ยวแรงึ้มาก ดึงผ้าห่มแย่งกับเขา ทว่าเขาก็แย่งไปไม่ได้
“เหตุใดเจ้าึต่อรองกับกูล่ะ?” โม่ซีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย
"เฮ้!" ฉีซีกลิ้งเข้าไปในอ้อมแขนของเขา เรือนผมยาวของนางพันกันจนยุ่ง
โม่ซีใช้นิ้วปัดเรือนผมดำที่ยุ่งเหยิงออกจากใบหน้าของนาง เลิกคิ้วแล้วกล่าวกับนางว่า "เจ้าต่างหากที่มีแต่ความคิดเรื่องการหลับนอนอยู่ในหัว แต่กลับไม่ยอมรับ"
คำพูดของเขาราวกับเข็มชี้ใ้เห็นข้อเท็จจริง พวงแก้มของฉีซีร้อนผ่าว เถียงไม่ออกเสมือนมีก้อนคำพูดติดอยู่ในลำคอ รู้สึกอึดอัดจนแทบจะอาเจียนออกมา ผู้ใดกันที่จับหน้าอกนาง? ผู้ใดกันที่ถอดเสื้อผ้าต่อหน้านาง? นางจะไม่คิดไปในทางนั้นได้อย่างไร?
“ไม่! ไม่ใช่เด็ดขาด! อย่ามาแตะต้องตัวข้านะ!” นางตอบอย่างเขินอายและร้อนรน ่ตัวเองใ้แน่นึ้อีก
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??