เรื่อง เกิดใหม่มาเป็นแพทย์สาวชาวนาผู้ร่ำรวย (ด้วยตัวเอง) [แปลจบแล้ว]

ติดตาม
เล่มที่ 2 ตอนที่ 58 ไห่อู่เย่ว์
เล่มที่ 2 ตอนที่ 58 ไห่อู่เย่ว์
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

        เรื่องในเรือนแม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ควรทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ การที่เจ้าอยากจะปลูกเรือนที่นี่ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ข้าขอแนะนำเจ้า เจ้าลองฟัง” ท่านจ้าวเดินวนรอบที่ดินของซ่งอวี้และที่ดินผืนที่ซื้อ พอจะมีความคิดบางอย่างในใจแล้ว เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโถง ท่านจ้าวก็พูดขึ้น

        ซ่งอวี้รีบเงี่ยหูฟัง

        "ที่ดินผืนที่เจ้าซื้อและเรือนของเจ้าในตอนนี้กว้างขวางยิ่งนัก วันข้างหน้าเจ้าต้องง่วนอยู่กับการแปรรูปสมุนไพรและต้องร่ำเรียนหลักการแพทย์ เจ้าย่อมไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดเรือนอย่างแน่นอน"

        ท่านจ้าวยกถ้วยขึ้นดื่มน้ำชา

        "เจ้าไปหาคนค้าทาสดูว่ามีคนที่เหมาะสมหรือไม่ เลือกซื้อมาสักสองคน ให้พวกนางช่วยเจ้าแบ่งเบางานในเรือนเจ้าจะได้วางงานบ้านงานเรือนได้อย่างแท้จริง ตั้งใจร่ำเรียน เจ้าหนูซ่ง ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนมีความคิด คาดว่าเจ้าน่าจะพิจารณาเรื่องซื้อทาสแล้ว แค่ว่าไม่เคยมีประสบการณ์จึงไม่อาจวางใจในการทำใช่หรือไม่?"

        โดยคร่าวๆ ท่านจ้าวล้วนพูดถูกทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้ซ่งอวี้จึงไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า

        แต่ตอนนี้สำหรับเรื่องการซื้อทาส นางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจจริงๆ ดวงวิญญาณที่มาจากโลกยุคปัจจุบันได้รับการปลูกฝังว่ามนุษย์นั้นเท่าเทียมกัน จะเคยคิดได้อย่างไรว่าวันหนึ่งตนจะเดินทางข้ามเวลามายังยุคสมัยที่ไม่รู้จักและกลายเป็นนายคน?

        โปรดอภัยที่นางยังไม่อาจเตรียมใจ เรื่องนี้ทำให้นางกระอักกระอ่วนใจจริงๆ

        ท่านจ้าวเข้าใจเพียงว่านางไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ ในเรือนก็ไม่มีผู้อาวุโสคอยดูแล ดังนั้นจึงลังเลเช่นนี้ ท่านจ้าวอดไม่ได้ที่จะปวดใจ น้ำเสียงอ่อนโยนลงเล็กน้อย

        "โบราณกล่าวไว้ นับถือเป็นอาจารย์เพียงหนึ่งวันคือบิดาชั่วชีวิต ในเมื่อข้าดื่มน้ำชาของเจ้าแล้ว เช่นนั้นข้าก็เป็นเหมือนบิดาของเจ้า เรื่องซื้อทาสให้ข้าเป็นคนจัดการให้เจ้าเถอะ"

        เมื่อนึกถึงร้านยาถงอัน ท่านจ้าวก็พูดเสริม "๯า๲ใ๥เ๭๬ะ เรื่องนี้เป็นความต้องการส่วนตัวของข้าไม่เกี่ยวกับร้านยาถงอัน ข้าเองก็จะไม่ให้พวกเขายัดเยียดคนให้เจ้า เจ้ากับข้าไปหาคนค้าทาสด้วยกัน เจ้าคอยดูว่าข้าเลือกสาวใช้อย่างไร"

        ซ่งอวี้ขอบตาร้อนผ่าวอย่างไม่อาจหักห้าม ขณะที่นางกำลังกังวลไม่อาจเชื่อใจผู้ใด ท่านจ้าวก็พิจารณาถึงความกังวลทั้งหมดของนางแล้ว ทั้งยังวางแผนได้ดียิ่งนัก แล้วนางจะไม่ตื้นตันได้อย่างไร

        ในเวลาเดียวกัน หลี่เฉิง ไ๣่๱ิ เวลานี้ควรจะเรียกชื่อจริงของเขาแล้ว เฟิงเฉิงและเยี่ยสุยเดินเข้าไปในสวนแห่งหนึ่ง

        "คุณชายกลับมาแล้วหรือขอรับนายท่านรอคุณชายมานานแล้ว คุณชายโปรดตามข้าน้อยมา"

        บ่าวรับใช้ในสวนดูสนิทสนมกับเฟิงเฉิงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นเฟิงเฉิงมาก็ไม่แสดงสีหน้าตกใจแต่อย่างใด คอยเดินนำทางอย่างเป็นธรรมชาติ

        เฟิงเฉิงขมวดคิ้วเป็นปม ทว่าไม่ได้พูดสิ่งใด บ่าวรับใช้เดินนำเขาไปยังศาลาหูซินที่อยู่ในสวน ในศาลามีชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งดื่มสุราอยู่ตามลำพัง เป็นภาพที่แลดูโดดเดี่ยวเล็กน้อย

        ชายวัยกลางคนได้ยินเสียงฝีเท้าจึงหันหน้าไปมองแล้วคลี่ยิ้มบางๆ "เฉิงเอ๋อร์มาหรือมานั่งด้านในก่อน พวกเราสองคนลุงหลานไม่ได้นั่งดื่มด้วยกันนานแล้ว วันนี้เจ้าบังเอิญมาได้จังหวะจริงๆ นี่คือสุราร้อยพันคราที่เพิ่งเปิดใหม่ เจ้าลองลิ้มรสดูเล่าว่าเป็นเช่นไร"

        ชายวัยกลางคนที่ดื่มสุราตามลำพังคนนี้ เห็นชัดว่าคือท่านลุงของเฟิงเฉิง ไห่อู่เย่ว์

        เขาเป็นเสมือนผู้อาวุโสทั่วไปในตระกูลสามัญชน กล่าวทักทายผู้น้อยด้วยความใจดี มีเพียงเฟิงเฉิงเท่านั้นที่จะได้รับสายตารักใคร่และเอ็นดูจากเขา และสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณที่บิดเบี้ยวไปนานแล้วในแววตาคู่นี้

        "เจ้าออกไปรอข้าด้านนอก" เฟิงเฉิงออกคำสั่งให้เยี่ยสุยออกไปแล้วย่างกายเข้าไปในศาลาหูซิน

        ทิวทัศน์ที่นี่งดงามยิ่งนัก ต้นหลิวเขียวขจีที่อยู่ริมทะเลสาบพริ้วไหวไปตามกระแสลม น้ำในทะเลสาบทอประกายงดงาม ศาลาหูซินตั้งอยู่กลางทะเลสาบ ราวกับอยู่ในภาพวาด ทำให้คนอาวรณ์ไม่อยากกลับไป

        ไห่อู่เย่ว์หมุนจอกสุราแล้วหยัดกายลุกขึ้น มองทิวทัศน์ที่งดงามแล้วทอดถอนใจ

        "ครั้งหนึ่งมารดาของเจ้าเคยโปรดปรานทิวทัศน์ที่นี่อย่างมาก ยามหม่นหมองใจก็จะมาพักที่นี่หลายวัน เมื่อมาค้างอ้างแรมที่นี่แล้วก็ไม่ยอมกลับไป ทำตัวเหมือนเด็กอย่างไรอย่างนั้น จนข้าไม่รู้จะทำอย่างไรกับนาง"

        พูดถึงเรื่องราวในอดีต ใบหน้าของไห่อู่เย่ว์ฉายรอยยิ้มอ่อนโยน ทอดสายตามองออกไปไกล ราวกับมองเห็นหญิงสาวคนนั้นผ่านกาลเวลา ยืนอยู่ตรงนั้น หัวเราะเสียงดังราวกับเด็กน้อย

        เฟิงเฉิงยืนฟังเงียบๆ ไม่ขัดจังหวะไห่อู่เย่ว์ที่กำลังหวนคิดถึงเรื่องในวันวาน ดวงหน้าของซ่งอวี้ฉายในความคิดของเขาอย่างไม่รู้ตัว นางแตกต่างกับสตรีทั่วไป มองเขาอย่างเหม่อลอยและเขินอายยามเผชิญหน้ากับเขา ทั้งที่เป็นหญิงกำพร้าไร้ที่พึ่งพิงทว่ากลับเข้มแข็งกว่าทุกคน

        ในตัวนางคล้ายมีดวงวิญญาณแข็งแกร่งที่ไม่อาจยอมแพ้ต่อโชคชะตาสิงสถิตอยู่

        "ท่านลุง ท่านจำต้องให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ทำให้ทุกคนตายก่อนหรือ จึงจะพอใจ?" เฟิงเฉิงเก็บความคิดของตนเรื่องซ่งอวี้ลงไป แล้วถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

        ไห่อู่เย่ว์ยิ้ม ทว่ารอยยิ้มที่มุมปากของเขาเลือดเย็นจนทำให้คนอดไม่ได้ที่จะหนาวสั่น แต่เสียงของเขายังคงอ่อนโยนราวกับสามารถสกัดน้ำออกมาได้ "เหตุใดข้าต้องสนใจความเป็นความตายของชาวบ้านในใต้หล้าด้วยข้าไม่มีครอบครัวแล้ว คนในตระกูลของข้าตายหมดแล้ว แล้วข้าจะสนใจคนในใต้หล้าเพื่อการใดหากพวกเขาไปถึงยมโลก เพียงเอ่ยชื่อของข้าให้ยมบาลฟังก็พอแล้ว"

        น้ำเสียงของเขาไม่ขึ้นลงแม้แต่น้อย ราวกับพูดเรื่องทั่วไป แต่เมื่อสังเกตให้ดีจะพบว่าเขาบีบจอกสุราในมือจนกลายเป็นผุยผงแล้ว นิ้วมือที่อ้าเล็กน้อยมีฝุ่นผงปลิวไปตามแรงลม

        เฟิงเฉิงรู้สึกหดหู่อย่างมาก บุรุษที่เลี้ยงดูตนตั้งแต่เล็กจนโต เกรงว่าจะวิปลาสไปแล้ว

        "ท่านลุง ท่านบ้าไปแล้วหรือแม้ท่านจะจับคนทั่วหล้าเข้าคุก นางก็..." นางก็ตายไปแล้ว ตายไปหลายปีแล้ว

        ริมฝีปากของเฟิงเฉิงสั่นเทาเล็กน้อย สุดท้ายก็กลืนคำพูดนั้นลงไป

        ตอนที่ซ่งอวี้พยักหน้าซื้อทาสกลับเรือนสองคน ท่านจ้าวก็ให้คนไปติดต่อคนค้าทาสในอำเภอทันที หญิงชราคนนี้ถูกเรียกว่าหญิงค้าทาส ทาสที่อยู่ในการดูแลของนางล้วนไม่ใช่คนที่ถูกลักพาตัวมา แต่เป็นคนที่ยากไร้จนไม่มีเงินกินข้าว มาที่นี่เพื่อเอาชีวิตรอด

        พูดอีกทางหนึ่งก็คือทาสในการดูแลของนาง ล้วนเป็นคนที่ยินดีขายตนเป็นทาส แบ่งเงินกับหญิงค้าทาสหนึ่งต่อเก้า หญิงค้าทาสหนึ่ง พวกนางเก้า ถือว่ายุติธรรมที่สุดแล้ว

        หลังจากซ่งอวี้รู้เช่นนี้ นางก็โล่งอกยิ่งนัก

        การซื้อทาสกลายเป็นเรื่องแน่นอนแล้ว แต่นางไม่อยากให้คนที่นางซื้อมาเป็นคนที่กลายเป็นทาสเพราะถูกลักพาตัว ต้องให้สมัครใจทั้งสองฝ่ายจึงจะเป็นการดี

        ท่านจ้าวไม่รู้ว่าซ่งอวี้กระอักกระอ่วนใจเรื่องใด เขาเพียงรู้สึกว่าทาสรับใช้ต้องสมัครใจจึงจะตั้งใจทำงาน จึงจะจงรักภักดี จึงมาซื้อทาสกับหญิงค้าทาสที่ทุกคนแนะนำ ถือเป็นความบังเอิญ

        สองชั่วยามให้หลัง ซ่งอวี้และคนอื่นนั่งรถม้าตรงไปที่เรือนของหญิงค้าทาส ด้านในมีชายและหญิงสาวยืนเรียงราย อย่างน้อยๆ ก็มีประมาณหนึ่งร้อยคน

        ซ่งอวี้มองสีหน้าของคนพวกนี้ เมื่อพวกเขารู้ว่านางคือนายที่มาเลือกทาสรับใช้ ต่างก็มองมาที่นางด้วยดวงตาทอประกายเปี่ยมไปด้วยความหวัง ราวกับว่านางเป็นความหวังสุดท้ายในชีวิตของพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น

        ซ่งอวี้ถอนหายใจเล็กน้อย เห็นความโหดร้ายของโลกอีกครั้ง เดิมทีนางคิดว่าการหาเงินเป็นเรื่องง่าย แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่เช่นนั้น

        บนโลกใบนี้มีคนหิวโหยมากมาย นางหาเงินได้เพราะนางมีความรู้มากกว่าคนทั่วไป เคยออกไปเปิดหูเปิดตามากกว่าคนทั่วไป มิเช่นนั้นหากตอนที่นางเพิ่งมาถึงนางว่างเปล่าไม่มีความรู้ใดๆ ไม่แน่ว่าสุดท้ายก็อาจจะมีจุดจบเช่นนี้

ตอนต่อไป
เล่มที่ 2 ตอนที่ 59 อาฝูและเสี...

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา