เรื่อง ข้ามมิติมาเป็นสาวน้อยนักทำฟาร์ม [แปลจบแล้ว]
ต้าหลางตาสว่างวาบ “เมืองหลวง? นั่นคือใต้เท้าขององค์ชายเลยนะ าสามารถทำุิให้ไปถึงที่นั่นได้ ชาตินี้ข้าก็พอใจแ้”
กวนซูเยวียนมองทุกคนอย่างไ่เข้าใจ สุดท้ายก็หัวเราะออกมา “เมืองหลวงหรือ ข้าอยู่ในที่เล็กๆ นี่ก็ดีแ้ ทั้งยังสามารถทำุิได้อย่างปลอดภัย นั่นก็เป็นอะไรที่อมิตาพุทธแ้ เฮ้อ ที่เมืองหลวงนั่นนะทั้งหรูหรา ใครๆ ก็อยากจะเข้าไป แต่ข้าได้ยินมาว่าที่นั่นอยู่ยาก ถึงจะเป็นร้านของสกุลโจว ก็เป็นเพียงร้านเล็กๆ เทียบไ่ติดกับุิในเมืองหลวงเลย"
“สกุลโจวน่ะ เป็นุิใหญ่อันดับหนึ่งถึงสองของเขตเราเชียวนะ ไ่เพียงแค่ที่นี่ จากที่ได้ยินมาที่เขตฮวายห่าย สกุลโจวก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก พวกเจ้าน่ะใสซื่อกันเกินไปแ้ จะมีความฝันสักหน่อยก็ได้ แต่ข้ากลับให้ความสำคัญกับขนมไหว้พระจันทร์ตอนนี้มากกว่า ตอนนี้ทำขนมไหว้พระจันทร์ให้ดีก่อน ุิใหญ่ๆ น่ะ รอพวกเราแก้ไขเรื่องกินเรื่องเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนค่อยว่ากัน”
เฉินจื่อหมิงฟังภรรยาตนพูดเช่นนี้ ไฟที่เดิมลุกโชนอยู่ในแววตาก็ค่อยๆ นิ่งสงบลง สุดท้ายก็ไปทำไฟต่อแต่โดยดี
กลับเป็นต้าหลางที่ดวงตาสุกใส แรงที่มือก็ออกแรงมากกว่าเดิม
เมืองหลวง เขาตัดสินใจแ้ เป้าหมายของชีวิตนี้ ก็คือทำุิให้ไปถึงเมืองหลวง
สกุลโจวทำไ่ได้ ไ่ได้หมายความว่าเขาก็ทำไ่ได้ ุิเป็นเรื่องที่ต้องลงมือทำออกมา เขายังเด็ก เขายังมีเวลาทั้งชีวิตที่ต้องไปต่อสู้
ทำขนมไหว้พระจันทร์ติดต่อกันสิบสองวัน ในสิบสองวันนี้ ทุกคนได้นอนกันเพียงสี่ห้าชั่วโมง หลังจากลืมตากินข้าวแ้ ก็เริ่มนวดแป้ง ปั้นแป้ง อบ
ุิภายในร้านมีสองมามีภรรยาหวงซื่อมาช่วยเหลือ แ้ยังมีพวกเด็กๆ คอยนั่งอยู่ด้วย จึงำใ้พวกเขาไ่ต้องกังวลใจ
หลังจากที่หนิงต้าหรานมาหาเรื่องครั้งก่อน ก็ไ่เคยมาหาอีกเลย
สำหรับบทสรุปเช่นนี้ เฉินเนี้ยนหรานก็ถือว่าจ่ายเงินให้เทพเจ้าโชคร้ายยอมออกไปเท่านั้น
หลังจากส่งขนมไหว้พระจันทร์ชุดสุดท้ายไปแ้ ทุกคนก็ต่างผ่อนคลายลง ต้าหลางก็นอนแบอยู่บนเก้าอี้อย่างหมดสภาพ “ทำเสร็จเสียที ปีหน้าค่อยทำต่อ ในที่สุดปีนี้ก็ได้หายใจแ้ ถึงแม้ตอนที่ประทับตราดอกไม้บนขนมไหว้พระจันทร์ ข้าก็คิดว่าเงินน่าจะมากกว่านี้ แต่ว่า ข้าทำไ่ไหวแ้จริงๆ เหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ”
เด็กคนนั้นโอดครวญไ่หยุด ฟังเสียงหัวเราะของพวกเฉินเนี้ยนหราน แต่ว่าก็ไ่มีเรี่ยวแรงจะไปพูดคุยด้วย เพราะว่าความแข็งแกร่งในสิบสองวันนี้ได้มาถึงขีดจำกัด ำใ้ทุกคนเหนื่อยล้าเป็นที่สุด
เฉินเนี้ยนหรานกุมท้องตัวเองอย่างไ่สบายท้อง โบกมือใส่ทุกคน “ไ่ไหวแ้ ข้ากลับเรือนแ้ กลับเรือนดีกว่า อีกสองวันค่อยลงเขาไปคิดบัญชีในอำเภอกับท่านลุง ข้าง่วงมากแ้ จะไปนอนแ้”
ง่วงจนหนังตาทนไ่ไหว า่นี้ำใ้นางืเือาการะืะจะอาเจียน ิ่เรื่องก่อนหน้านี้ทีู่่าจะเชิญมาก็ลืมไปเสียสนิท
พอกลับไปถึงเรือนในหมู่บ้านเล็กๆ ของตนเอง เฉินเนี้ยนหรานก็ล้มตัวลงนอนหลับยาว
พวกเด็กๆ ก็รู้ว่าพี่สาวของพวกนางเหนื่อยมาก จึงทำตัวดีๆ ไ่ส่งเสียงดังรบกวนนาง
ม้าก็ถูกพวกนางจูงกลับมาด้วย ตอนที่น้องห้ากับน้องหกจูงเดินออกไปก็ได้รับสายตาอิจฉาจากคนในหมู่บ้าน
“โอ้ สกุลเฉินที่เพิ่งจะย้ายมาใหม่ เพิ่งจะย้ายมาได้ไ่นานก็ซื้อม้ากลับมาแ้ ุิจะต้องไปได้สวยแน่ๆ”
มีคนถอนหายใจด้วยความอิจฉา ในสายตามีความริษยาที่ปิดเอาไว้ไ่มิด จะต้องรู้ว่า ในหมู่บ้านของพวกเขา จนถึงตอนนี้มีอยู่สามครอบครัวที่มีวัวกับม้า
และนี่ก็ยังนับครอบครัวเฉินเนี้ยนหรานที่ย้ายเข้ามาใหม่ด้วย สองครอบครัวก่อนหน้านี้มีแค่วัวสองตัว
“นี่คือสิ่งที่พวกเราแลกมาด้วยความลำบากเจ้าค่ะ” น้องหกประกาศออกไปด้วยความตื่นเต้น ุิในช่วงนี้ำใ้นางชอบมาก โดยเฉพาะตอนที่นับเงิน นางิ่รู้สึกถึงความปลอดภัยมาก
ตอนนั้นจึงถูกพวกคนในหมู่บ้านชมเปราะ เด็ กน้อยเองก็ไ่ได้มีการระวังตัว จึงได้พูดคำพูดเช่นนี้ออกไปอย่างภูมิใจ
นางเป็นเด็กเล็กไ่สามารถห้ามตัวเองได้ แต่เหล่าผู้ใหญ่ไ่เหมือนกัน
พอได้ยินว่าพวกนางหาเงินมาได้ในช่วงนี้ ก็มีคนเริ่มมีความคิดไ่ดี
“หยา เด็กน้อยของสกุลเฉินนี่เก่งจริงๆ นะ น้องหกใช่ไหม บอกป้าได้ไหมว่าพวกเจ้าสามารถหาเงินได้วันหนึ่งเท่าไรหรือ? ข้าเห็นุิของพวกเจ้าไ่เลว น้ำแข็งหนึ่งถ้วยคงจะได้เงินมาไ่น้อยเลยใช่ไหม?”
น้องหกกำลังจะตอบ น้องห้าก็ยกมือขึ้นมาหยิกเอวนาง “น้องหก พวกเราพาม้าไปกินหญ้าเถิด”
พี่สี่เคยพูดไว้ว่า ทำอะไรจะต้องถ่อมตน อย่าทำตัวมักใหญ่ ไ่เช่นนั้นจะตายอย่างไรก็ไ่รู้ โดยเฉพาะพวกนางที่เพิ่งจะย้ายมา ดังนั้นจะต้องถ่อมตนไว้ก่อน
เพียงแต่น้องห้าไ่ได้สังเกตเห็นว่าหลังจากพวกนางจูงม้ากลับไปแ้ สายตาหลายคู่ได้มองไปยังเรือนของพวกนาง
และตอนนี้ สายตาที่เต็มไปด้วยความละโมบโลภมากหลายคู่ ก็ิ่จ้องมองม้าตัวนั้นตาไ่กะพริบ เงินตราำใ้คนสนใจ ตั้งแต่โบราณมา มีไ่กี่คนที่สามารถทนต่อความเย้ายวนของเงินตราได้
“ท่านป้า เรื่องได้เงินเท่าไรนั้นน้องหกไ่รู้แน่ชัด อย่างม้าตัวนี้เป็นพวกเราที่หามาได้” น้องหกรู้ว่าไ่สามารถพูดอะไรออกมาไ่คิดได้ อยากจะปลีกตัวออกมา
แต่รอจนถึงตอนที่พวกนางเงยหน้าขึ้น กลับพบว่าตรงหน้ามีคนกลุ่มหนึ่งมาขวางทางเอาไว้
ในตอนนั้นเด็กทั้งสองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
“จุ๊ๆ ข้าขอดูเจ้าม้าตัวนี้หน่อย สีขนไ่เลว แถมยังเป็นม้าตัวเมีย าปีหน้าถึงฤดูผสมพันธุ์ ตอนที่ถึงฤดูผสมพันธุ์ของม้า ก็ลากมันออกไปผสมกับม้าตัวผู้ที่หมู่บ้านข้างๆ เช่นนั้นก็กลายเป็นม้าแม่พันธุ์เลยนะ ไ่เลว ไ่เลว...”
คนแก่คนหนึ่งขวางอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน ดวงตาจ้องไปที่ตัวม้าอยู่ตลอด มองไปก็ประเมินไป
คนในหมู่บ้านพวกนั้นพอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็ิ่ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉามองไปที่ตัวของม้า ตอนนี้น้องห้ากับน้องหกเองก็มองออกแ้ว่า ม้าของพวกนางเหมือนจะำใ้หลายคนริษยาแ้!!!
“พวกเราจะไปปล่อยม้ากินหญ้าแ้ ท่านลุงท่านป้าทั้งหลาย ม้าตัวนี้พวกเราลำบากหาเงินมานั้นไ่ผิด แต่หาเงินมาก็ไ่ง่ายเลย พี่สาวของพวกเราตอนนี้เหนื่อยจนตอนนี้ยังนอนอยู่ที่เตียง” น้องห้าขอให้ทุกคนเปิดทางให้อย่างน่าสงสาร
“เอาล่ะ เอาล่ะ ถอยหลังไปให้หมด อย่ามามองด้วยสายตาอยากได้อีก แน่จริงพวกเจ้าก็หาเงินด้วยตัวเอง เขาเป็นแม่ม่ายตัวคนเดียวยังสามารถหาเงินได้ พวกเจ้ามีมือมีเท้าทำไมถึงจะหาไ่ได้” พี่สะใภ้ฟางที่อยู่ข้างเรือนเห็นคนกลุ่มใหญ่มาล้อมเด็กทั้งสองไว้ จึงรีบมาพูดปัดความคิดของคนพวกนี้
เดิมทีนางเองก็เป็นสตรีที่ดุอยู่นิดหน่อย ตอนนี้มาพูดเช่นนี้ ทุกคนกลับไ่รำคาญนาง เพียงแค่หัวเราะแ้พูดล้อเล่นออกมาด้วยความขำขัน
“โอ้ นั่นสกุลฟางไ่ใช่หรือ เจ้ากล้าู่าเจ้าไ่อิจฉาสิน่าแปลก ข้าดูแ้ ในใจของเจ้าจะต้องคิดว่าาม้าตัวนี้เป็นของเรือนเจ้าก็คงจะดีมาก”
“แน่นอน ข้าคิดว่าาเรือนของข้ามีม้าสักตัว การทำงานก็จะสะดวก ออกไปไหนก็ยังสามารถใส่คู่กับรถม้าได้ นี่ิ่ไ่ำใ้คนอิจฉาตายหรือ ข้าอยากมี แต่ว่าก็ต้องเป็นสิ่งที่ข้าหามาได้เอง าคนอื่นเข้ามาในเรือนของข้าอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ ข้าก็ไ่อยากได้แ้ กลัวว่าวันใดไ่ทันระวังมีคนเข้ามาหาอยากได้ของของข้าราวกับมาทวงหนี้ ในใจมันก็รู้สึกไ่ดี เอาล่ะ เอาล่ะ รีบกลับเรือนไป ไ่ต้องมาใช้สายตากระหายอยากได้ มีความสามารถก็หามาเอง”
“ได้ ที่เรือนข้ามีหญ้ายังไ่ได้ถอน รีบมาถอนหญ้าไปเร็ว”
“ฮ่าๆ เรือนข้าก็ยังจุดไฟอยู่ ไอ๊หยา ต้องไปดูหน่อยแ้”
ทุกคนต่างแยกย้ายกันออกไป ใครจะรู้ว่าตอนนี้กลับมีคนหนึ่งเดินออกมา
“สองคนที่จูงม้าน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้”
เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความดุดัน ทำเอาสองพี่น้องตกใจสะอึกอย่างแรง น้องหกถูกตกใจจนคว้ามือพี่สาวมาจับไว้ “ท่านพี่ ข้ากลัว”
คนในหมู่บ้านได้ยินว่ามีละครให้ดู มีหรือจะยอมไป
ดังนั้นทุกคนก็รีบกลับมาล้อมเอาไว้
คนที่เรียกสองพี่น้องเอาไว้ไ่ใช่ใครอื่น เป็นจ้าวชุนฮวา เจ้าของไก่ที่วิ่งเข้ามาออกไข่ในเรือนแ้ถูกน้องห้าฆ่าตายในตอนนั้น
ทุกคนพอเห็นจ้าวชุนฮวายิ้มเย็น คนที่ยืนอยู่รอบๆ ก็ตะโกนออกมา
“โย่ว นั่นมันสกุลจ้าวไ่ใช่หรือ ชุนฮวาเอ๋ย เจ้าไ่ปลอบลูกอยู่ที่เรือน แ้วิ่งมาที่นี่หรือ ได้ยินมาว่าเด็กสองคนนี้มีเรื่องกับเจ้าหรือ? ท่าทางดุดันของเจ้าเหมือนคนจะมาไถเงินอย่างไรอย่างนั้น ฮ่าๆ....”
“ใช่ ใช่ ...ชุนฮวาเจ้ารีบพูดสิ ให้พวกเราฟังเรื่องราวสักหน่อย”
แม่นางฟางขมวดคิ้วแน่น รีบมองสตรีที่เชิดคางขึ้นอยู่ตรงหน้า สตรีคนหนึ่งที่ไ่ยอมลดราวาศอก ตอนนี้มาเรียกสองพี่น้องให้หยุด จะต้องไ่ใช่เรื่องดีแน่
“จ้าวชุนฮวา ครั้งที่แ้ไก่ของเจ้าวิ่งเข้าไปกินอาหารในเรือนคนอื่น แถมยังทำลายข้าวของเรือนเขา ถึงแม้คนสกุลเฉินจะพลังมือฆ่าไก่เจ้า แต่ว่าพวกนางก็ได้จ่ายค่าชดเชยที่มากกว่าในตลาดให้เจ้าแ้นี่ ตอนนี้เจ้ามาเรียกสองพี่น้องให้หยุดทำไม? อย่ามาำใ้เด็กตกใจเลย” นางได้ยกเรื่องที่จ้าวชุนฮวามีเรื่องกับเฉินเนี้ยนหรานในตอนแรกขึ้นมา และก็เป็นการเตือนพวกคนในหมู่บ้านว่าเรื่องนี้เป็นจ้าวชุนฮวาที่ไปโกรธเขา
จ้าวชุนฮวากลอกตา จ้องแม่นางฟางเขม็ง “แม่ไก่ของข้าถูกฆ่าตาย ข้าที่เป็นผู้ใหญ่ก็พอจะยอมรับเรื่องนี้ได้ แต่นางจ่ายเงินมาให้ ยังไ่พอค่าไข่ที่ไก่ตัวนั้นจะออกเลย เหอะ ไก่ที่ออกไข่อยู่ดีๆ ใครจะไปยอมเอามันออกมาขาย ถูกนางฆ่าตายไปแ้เดิมทีควรจะจ่ายชดเชยมากกว่านี้ ส่วนเจ้าไปเกี่ยวข้องอะไรกับนาง ถึงได้มาช่วยนางพูดน่ะ ถุย ไ่ใช่ว่าข้าไ่รู้ความคิดของเจ้านะ วันนี้เรื่องที่ข้าอยากจะพูดไ่ใช่เรื่องไก่ เรื่องที่ข้าจะพูดมันเกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ของทุกคนในหมู่บ้านพวกเรา และเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับสกุลเฉินที่เพิ่งจะย้ายเข้ามา”
นิ้วอ้วนๆ ของนางชี้มาทางน้องห้า น้องหกที่ยืนอยู่ไ่ไกล ทำเอาน้องหกตกใจร้องไห้ออกมา
“ท่านพี่ ข้ากลัว...ข้ากลัว...พวกนางจะทำอะไร...พวกเราทำไมหรือ? ฮือ...ท่านพี่ ทำอย่างไรดี....”
เดิมทีแม่นางฟางไ่สะดวกที่จะพูดอะไรมากอีก ตอนนี้เห็นจ้าวชุนฮวาำใ้เด็กตกใจจนร้องไห้สะอื้น ก็ทนไ่ได้ แ้เข้าไปดึงเด็กทั้งสองคนมาอยู่ด้านหลังของตนเองอย่างปกป้อง “จ้าวชุนฮวา เจ้าจะมาพูดธุระก็พูดมา อย่ามาชี้ใครมั่วซั่ว เด็กสองคนนี้ทำไม? ถึงแม้พวกนางจะทำเรื่องใหญ่อะไรไป นั่นก็เป็นแค่เด็กสองคน เจ้ามาชี้เด็กสองคนนี้ด้วยท่าทางกรุ่นโกรธเพื่อพูดเรื่องบ้าอะไร? ข้ามีความคิดไ่ดีต่อพวกนางหรือ? ถุย ข้าจะไปมีความคิดไ่ดีได้อย่างไร? ข้ายังเห็นว่าเด็กสองคนนี้น่าเอ็นดู ข้ายอมเข้าไปใกล้ชิดพวกนาง ทำไม? เจ้าไ่พอใจ? าเจ้าไ่พอใจ เจ้าก็คลอดลูกที่น่าเอ็นดูออกมาสองคนสิ ให้ข้าดูและอยากจะปกป้องน่ะ!”
แม่นางฟางโกรธขึ้นมา ปากก็ร้ายไ่แพ้ใคร
“ตอนนี้ข้าขี้เกียจมาคิดเล็กคิดน้อยกับเจ้า สะใภ้ฟาง อีกเดี๋ยวเจ้าไ่ต้องเข้ามาคลุกคลีคุยธุระกับพวกเราก็พอ” จ้าวชุนฮวาปรายตามองแม่นางฟางอย่างพออกพอใจ ราวกับได้วางแผนเอาไว้อยู่ก่อนแ้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??