เรื่อง ข้ามมิติมาเป็นสาวน้อยนักทำฟาร์ม [แปลจบแล้ว]
บุรุษทั้งสองคนเองก็รู้ว่ากวนซูเยวียนมีอะไรอยากะถามเิเี้ยนหราน ดังนั้นจึงรีบจัดการกับซุปตรงหน้าให้เรียบ แล้วรีบออกไป
รอจนกระทั่งไม่มีใครแล้ว กวนซูเยวียนก็รีบเข้ามาจับมือของเิเี้ยนหรานไว้ “แม่หนู เจ้ารีบคิดเลยนะ ในช่วงี้ประจำเดือนของเจ้ามีอะไรผิดปกติหรือไม่? ถ้าหากไม่ผิดปกติ จากประสบการณ์ของข้า อาการของเจ้าเกินครึ่งคือท้องแล้ว หากท้องิๆ ะทำอย่างไรล่ะ? โจวอ้าวเสวียนะต้องไม่แต่งเจ้าแน่ๆ เรื่องี้มันร้ายแรงมากิๆ นะ?”
พูดไปกวนซูเยวียนก็ร้อนใจ เิเี้ยนหรานเองก็คิดย้อนกลับไป
พอนึกย้อนไปดีๆ หลังจากออกมาจากเรือนของโจวอ้าวเสวียน ประจำเดือนก็ไม่เคยมาเลยสักครั้งนี่?
ไม่ใช่ว่านางไม่ระวังตัว แต่เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ประจำเดือนของนางมาไม่ค่อยะตรงเท่าไร
สองเดือนมาี้ ทุกวันก็อยู่ในสภาวะกดดันงานยุ่งอยู่ตลอด ทั้งยังมีเรื่องต้องออกจากเรือนมาอีก
ทั้งยังต้องหาที่ปักหลักอาศัย แล้วก็มายุ่งอยู่กับการทำหัวบุก ทำของหวานเย็น ทำสวนผัก...
ตอนี้ก็ยังมาทำขนมไหว้พระจันทร์ พระเจ้า นางลืมเรื่องที่สตรีอย่างนางะต้องมีทุกเดือนไปเลย!
“ท่านป้า” เิเี้ยนหรานจู่ๆ ก็เสียงเครือจับกวนซูเยวียนเอาไว้ “ข้า เหมือนประจำเดือนของข้าะไม่มาตลอดสองเดือนกว่าี้เลย”
กวนซูเยวียนรู้สึกว่าฟ้าพลิกไปแล้ว
นางถลึงตาใส่เิเี้ยนหราน อยากะหยิกให้ตายเสียจริง
“เจ้า เจ้า เจ้าเด็กคนี้ เรื่องเช่นี้ทำไมถึงไ้ไม่ระวัง หา ทำไมเจ้าถึงไม่ระวัง พระเจ้า เรื่อง เรื่องี้ะทำอย่างไรล่ะ ที่นี่หากมีลูกทั้งๆ ที่ยังไม่แต่งงาน ะถูกโยนทิ้งลงน้ำ ต่อไปะทำเช่นไรดีล่ะ? แม่หนูะทำอย่างไรดี? เจ้า เจ้า เจ้าพูดสิ....อั้ยา....”
กวนซูเยวียนเดินวนเป็นวงกลมอย่างร้อนรน พลางตำหนินางไป แล้วก็กังวลแทนนางไปด้วย
เิเี้ยนหรานเองก็ถึงกับเบลอไป นางมาคิดอย่างละเอียดอีกที หวนนึกไปถึงวันเวลาที่อยู่กับโจวอ้าวเสวียน นางดื่มยาคุมไปแล้วิๆ นะ มันเกิดผิดพลาดขึ้นมาไ้อย่างไร?
แต่ว่า ประจำเดือนก็ไม่ไ้มานานแล้ว เรื่องี้ะอธิบายอย่างไร?
ไม่มาสองเดือนกว่า ทั้งยังอาเจียนแห้ง อาการแพ้ท้อง เป็นใครก็ะคิดไปถึงการตั้งครรภ์
พอคิดถึงตรงี้เิเี้ยนหรานก็ปวดหัว
นางนวดขมับ “ท่านป้า พวกเราอย่าเพิ่งคิดเลย ข้าคิดว่ารอพวกเราจัดการเรื่องขนมไหว้พระจันทร์ให้เสร็จก่อนค่อยคิดเถิด เรื่องี้ ทำงานหาเงินก่อนเป็นหลัก”
กวนซูเยวียนฉุน ชี้หน้านางโดยที่เรี่ยวแรงะด่าก็ยังไม่มี “เิเี้ยนหราน เจ้าเด็กบ้า นี่มันเรื่องคอขาดบาดตาย เจ้ายังคิดเรื่องหาเงินอีก อั้ยา มัน่าโมโหิๆ”
เิเี้ยนหรานแบมือออกอย่างช่วยไม่ไ้ “ท่านป้า หากท้องิๆ เช่นนั้นข้าเองก็ไม่สามารถทำให้มันไม่มีไ้ เฮ้อ หลายวันมาี้เรื่องเยอะเกินไปแล้ว รอจนทำงานเสร็จแล้วค่อยว่ากันเถิด เชื่อข้าเถิด ท่านป้า พวกเรานอนกันก่อนเถิด หากฟ้าะถล่มลงมา ก็ยังมีข้าคอยรับไว้นะ ฮ่าๆ หากมีิๆ ล่ะก็ พวกเราก็คลอดเขาออกมา เด็กเล็กๆ ดีะตาย”
นางหัวเราะ ถึงแม้กวนซูเยวียนะกังวลใจ แต่ว่าก็กอดโชคดีเล็กน้อยี้ไว้ บางทีเิเี้ยนหรานาะท้องไม่ดีถึงไ้ทำให้อาเจียนแห้งก็ไ้
เิเี้ยนหรานนอนอยู่บนเตียง ไม่ไ้ผ่อนคลายอย่างที่อยู่ต่อหน้ากวนซูเยวียน
นางเองก็กังวล หากท้องิๆ นางะทำเช่นไร?
มือวางลงไปที่ท้อง ข้างในี้มีหนึ่งชีวิตเล็กๆ ิๆ หรือ? นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า นางะมีลูกกับโจวอ้าวเสวียน
บุรุษคนนั้น มีคุณค่าพอให้นางคลอดลูกิๆ หรือ?
“ท่านพี่ นอนกัน!” ในตอนนั้นเอง น้องหกที่นอนอยู่ด้านในพูดออกมา เปลือกตากะพริบปริบๆ จากนั้นก็หลับสนิทไปเลย
“ช่างเถิด ไม่คิดแล้วล่ะ ไม่คิดแล้ว เรื่องเช่นี้ คิดไปก็ทำอะไรไม่ไ้ หากมีลูกิๆ ข้าก็คลอดออกมาิๆ ฮ่าๆ...”
วันต่อมา เิเี้ยนหรานตื่นเช้าเป็นปกติ
หนิวซื่อตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าเสร็จนานแล้ว พอเห็นนางตื่นเช้าเช่นี้ ซึ่งชัดเจนมากว่านอนไม่พอ ทั้งยังหาวออกมาอีก จึงบ่นนางด้วยความเป็นห่วง “นายหญิง ท่านก็ิๆ เลย ตื่นเช้าขนาดี้ทำไมเจ้าคะ เมื่อคืนก็นอนกันดึกขนาดนั้น ตอนี้ก็ไปนอนต่ออีกหน่อยเถิด ยังสาวขนาดี้ แต่จิตใจไม่แจ่มใส เป็นเช่นี้ต่อไปผิวเสียขึ้นมาะทำเช่นไร?”
หลังจากหนิวซื่อเริ่มคุ้นเคยขึ้นก็ไม่ไ้เรียบร้อยสงวนถ้อยคำอีกแล้ว กลับกัน นางยังชอบจับตามองเิเี้ยนหรานกินข้าวเอย เข้านอนเอย
จากที่าหวงพูด หลายปีก่อนหนิวซื่อเคยมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง แถมความสัมพันธ์พี่น้องก็ดี แต่่าเสียดายที่ต่อมาน้องสาวก็ตายจากไปเาะโรคร้าย ตั้งแต่นั้นมาหนิวซื่อก็เงียบลงไปเยอะ
แล้วบังเอิญ อายุของเิเี้ยนหรานกับน้องสาวที่ตายจากไปของหนิวซื่อพอๆ กัน าะเป็นเาะเช่นี้ าของาคนี้ถึงไ้เป็นห่วงเิเี้ยนหรานมาก
“แฮะๆ พี่สะใภ้หวง ข้าไม่เป็นอะไร ไปล้างหน้าข้าก็ตื่นแล้ว ไม่ไ้ ข้าะต้องเี้ครอบครัว ข้าะต้องหาเงินให้ไ้เยอะๆ ถึงะสามารถเปิดแปลงเกษตรของข้าไ้ ไม่พูดแล้ว ข้าไปล้างหน้าก่อน”
โยนเรื่องท้องไม่ท้องไปด้านข้าง ก่อนที่พวกเิเี้ยนหรานะเริ่มงานยุ่งกันอีกครั้ง
เพียงแต่ ทำขนมไหว้พระจันทร์ตอนี้ไม่ไ้มีความสุขดั่งเช่นเมื่อวาน
ทั้งสี่คนตื่นเช้าทำงานกันหน้าดำคร่ำเคร่งอยู่สามวัน ก็ส่งขนมไหว้พระจันทร์หนึ่งพันชิ้นรอบแรกส่งไปที่รถม้าส่งของ
จากคำของต้าหลางที่เล่าให้ฟังหลังกลับมา บอกว่าพอมีป้ายอาญาสิทธิ์ที่โจวอ้าวเสวียนให้มา สินค้าที่คนพวกนั้นขนขึ้นรถม้าล้วนแต่เป็นของรอบแรก เห็นไ้ชัดว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับสินค้ารอบแรกของเิเี้ยนหรานแค่ไหน
เรื่องคิดบัญชีพวกี้เิเี้ยนหรานไม่กังวล อย่างไรมีโจวอ้าวเสวียนผู้ยิ่งใหญ่อยู่ นางก็ไม่กลัวว่าะหนีไป
ทั้งสี่คนถอนหายใจ ก่อนะกลับไปทำงานต่อ
ในวันที่สี่ ทำไปสักพักกวนซูเยวียนก็ถอนหายใจยาว
หลายวันมาี้นางร้อนใจมาตลอด ทั้งๆ ที่เห็นเงินอยู่ แต่กลับไม่สามารถหามาไ้หมด นางรู้สึกหงุดหงิดในใจ
สำหรับอารมณ์เช่นี้ของนาง เิเี้ยนหรานกลับไม่ค่อยไ้ใส่ใจเท่าไร แต่ในตอนที่พวกเขาทำไ้ถึงครึ่งทาง หนิวซื่อก็นำความมาบอกว่า มีสตรีคนหนึ่งพาเด็กอ้วนๆ อายุประมาณสิบปีมาหาเิเี้ยนหราน
พวกนางไ้ยินก็หยุดงานในมือกันทั้งหมด
ซึ่งเิเี้ยนหรานเองพอคิดไ้ว่าคนคนี้คือใคร สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
กวนซูเยวียนโยนก้อนแป้งในมือ พูดกับเิจื่อหมิงเสียงดัง “พ่อ เจ้าดูตรงี้นะ ข้าะไปจัดการสตรีนางนั้น”
เิจื่อหมิงพยักหน้าด้วยสีหน้าลำบากใจ แล้วไม่ลืมที่ะกำชับหนึ่งประโยค “เจ้าก็ใจเย็นหน่อย อย่าคุยแล้วฉุนขาดล่ะ เฮ้อ เรื่องี้ไม่ว่าะพูดอย่างไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน”
พาเด็กอ้วนอายุสิบขวบมาหาในตอนี้ นอกจากแม่ในนามของเิเี้ยนหรานแล้ว ยังะมีใครไ้
พอคิดถึงหนิงซื่อ สีหน้าของเิเี้ยนหรานก็ถมึงทึง
ความจริงแล้วนางเองก็เคยคิดว่าครอบครัวนั้นยากจนจนถึงขั้นหวาดกลัว
ดังนั้นเมื่อมีแหล่งเงินก็ต้องคิดหาวิธีที่ะไ้มันมา แต่ว่าแม้พวกนางะยากจนแค่ไหน ก็ไม่ควรเอาความคิดี้มาลงที่บรรดาลูกสาวตัวเอง ก่อนหน้าี้ก็พี่สาวคนโต พี่คนรอง ต่อมาก็เป็นนาง หากน้องสาวทั้งสองไม่ไ้ถูกนางพามาด้วย เกรงว่าตอนี้คงะถึงคราวของน้องห้า
พอคิดถึงสีหน้าขาวซีดของน้องห้าตอนที่พูดถึงหนิงซื่อในวันนั้น ความโกรธในใจของเิเี้ยนหรานก็ลุกโชน
คนที่มาหาเป็นหนิงต้าหรานิๆ
วันนั้นนางมาที่เขตเพื่อเอาไข่ไก่มาแลกเงิน คิดไม่ถึงว่าะเจอกับพวกน้องห้าที่จูงม้ามากินหญ้า
ตอนที่เห็นม้าลักษณะดี หนิงต้าหรานก็คิดถึงเงิน
ม้าที่มีขนเงางามเช่นนั้นหากเอาไปคิดเป็นเงิน ะไ้เท่าไรกัน?
ถึงะไม่เปลี่ยนเป็นเงิน จูงม้าตัวนั้นเดินเข้าไปในหมู่บ้านรอบหนึ่งก็ไ้หน้าแล้ว จากที่พูดคุย หลังจากที่ไ้รู้ว่าม้าตัวี้เป็นเิเี้ยนหรานซื้อมา ในใจของนางก็ตกตะลึงจนไม่สามารถใช้คำไหนมาบรรยายไ้
เิเี้ยนหรานพาน้องสาวสองคนออกมาสองเดือนกว่า แต่กลับใช้ชีวิตจนถึงขั้นมีม้า ไม่ต้องพูดเลยว่า ะต้องเป็นเงินที่ไ้ตอนออกมาจากจวนสกุลโจวเป็นแน่
เวลาสองเดือนกว่า นางะไปเอาเงินจากไหนมาซื้อม้า?
ยิ่งคิดหนิงต้าหรานก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่ จึงเค้นถามน้องห้า
น้องห้าเองก็รู้ว่านิสัยของมารดาตนเองเป็นเช่นไร หลังจากถูกเค้นถามว่าม้าตัวี้คือพี่สี่เป็นคนซื้อ ในใจของนางก็รู้สึกผิดในใจมากมายนัก พอถูกหนิงต้าหรานเค้นถามอีก จึงไม่ตอบอีก
ตอนนั้นหนิงต้าหรานฉุนขาด ทั้งข่มขู่ทั้งยังทำให้หวาดกลัว และยังพูดว่าะลากนางไปขาย อย่างไรน้องห้าก็เป็นเด็กอายุสิบสามปี ทั้งยังเห็นหนิงซื่อเอาพวกพี่สาวของตนออกไปขายราวกับสินค้าเองกับตา
พอไ้ยินนางพูดเช่นี้ก็ตกใจร้องไห้ลากม้าวิ่งหนีไป
ถึงแม้หนิงต้าหรานะถามแล้วไม่ไ้เรื่องที่มีประโยชน์อะไร แต่นางก็ไม่ใช่คนโง่ เห็นสีหน้าของลูกคนี้ดีกว่าเมื่อสองเดือนก่อนมากแล้ว ทั้งยังมีม้าให้เี้ ก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว วันเวลาที่นางอยู่กับเิเี้ยนหรานะต้องมีชีวิตที่ดีมากแน่
หลังจากนางรีบนำไข่ไปขายในเขตแล้ว ก็คิดหาวิธีไปสอบถามที่ร้านค้าของกวนซูเยวียนว่ามีเรื่องของเด็กๆ พวกี้ไหม
ะว่าไปแล้ว นางก็เป็นมารดาที่แปลกิๆ ลูกสาวสามคนออกจากเรือนไปเกือบสามเดือนแล้ว นางถึงเพิ่งะมาสอบถามว่าชีวิตความเป็นอยู่ของพวกลูกสาวเป็นอย่างไรบ้าง!
จากที่สอบถาม ถึงไ้รู้ว่าช่วงี้หน้าร้านของกวนซูเยวียน มีเด็กสาวมาขายหวานเย็นิๆ
แถมธุรกิจนั้นยังโด่งดังมากเสียด้วย
ซึ่งพวกที่มีจิตใจริษยารุนแรงหน่อยก็ะเล่าเรื่องให้มันเกินจริงไป จากที่พวกนางคาดเดาด้วยสายตา รายไ้ที่สามพี่น้องออกมาขายหวานเย็นวันหนึ่งอย่างน้อยก็ไ้หนึ่งถึงสองตำลึง
ทั้งในช่วงนั้นพวกนางออกมาขายของอยู่หนึ่งเดือนครึ่ง
ช่วงเวลานั้นคำนวณออกมาแล้วก็ะมีสี่สิบวัน ถึงจำนวนวันะน้อยไปหน่อย แต่หนึ่งวันเท่ากับหนึ่งตำลึง ะอย่างไรก็ไ้ตั้งสี่สิบกว่าตำลึงเชียวนะ
หนิงต้าหรานคำนวณไปก็ร้อนใจมาก รู้สึกเหมือนเงินสี่สิบกว่าตำลึงที่อยู่ในกระเป๋าที่เอวของตน จู่ๆ ก็ถูกคนอื่นแย่งไปด้วยเหตุผลอื่นอย่างไรอย่างนั้น
นางกลับไปที่เรือน ยิ่งคิดก็ยิ่งงุ่นง่านใจ
เป็นนางที่คลอดพวกลูกสาวออกมา และก็เป็นนางที่เี้พวกนาง ในตอนี้ลูกสาวที่เติบโตขึ้นจนสามารถหาเงินไ้แล้ว พวกนางกลับไปหาเงินให้กับกวนซูเยวียน
จากที่นางคิด เงินทั้งหมดเกรงว่าะถูกครอบครัวของกวนซูเยวียนฮุบไปจนหมด
“ไม่ไ้ ข้าะต้องไปคิดบัญชีกับกวนซูเยวียน นางกล้ามาหลอกเอาเงินของข้าไป ข้ากับนางไ้เห็นดีกันแน่ เหอะ กวนซูเยวียนเอ๋ยกวนซูเยวียน เห็นปกติเจ้ามักะทำท่าทางเชื่อฟังเป็นมิตรกับผู้คน คิดอยู่นาน ที่แท้ก็หมายหัวครอบครัวของข้า ถุย ข้าหนิงต้าหรานไม่จบกับเจ้าแน่"
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??