เรื่อง Thunder God Emperor จักรพรรดิอัสนีเทพเจ้า
ตอนที่18 พฤกษาเื
สวบ! สวบ!
เฟิงอี้ไม่ลังเลแม้แต่น้อยในการพุ่งเข้าไปหาพฤกษาเื
ื้! ื้!
เสียงดังโครมครามดังขึ้นเถาวัลย์มากมายสีเขียวเข้มเริ่มเคลื่อนไหว
มองดูแล้วราวกับว่าเป็นงูหรืออสรพิษกำลังเคลื่อนกายก็มิปานทันใดนั้นก็มีเถาวัลย์หลายเส้นพุ่งจู่โจมมาทางเฟิงอี้
“ถอยไป!”เฟิงอี้คำรามลั่นก่อนที่กลิ่นอายทำลายล้างของัีจักแผ่กระจายออกไปรอบกายของเฟิงอี้ปรากฏเส้นสายัีมากมาย
แ๋! แ๋! แซด!
พฤกษาเืนั้นแม้จะมีัน่าหวาดหวั่นแะสามารถจัดการกับสิ่งมีชีวิตอื่นได้อย่างง่ายดายแต่ทว่ามันก็มีสิ่งที่แพ้ทางเช่นกัน
พฤกษาเืนั้นแพ้ทางััี! แพ้ัทำลายล้างแะชำระล้างัั่้าของัี!
ััีเป็นสิ่งที่พวกมันเกลียดยิ่งนักเป็นสิ่งที่พวกมันหวาดกลัวแะมิอาจต้านทานได้ยิ่งััีที่มีัทำลายล้างสูงส่งมิน้อยของเฟิ้งอี้ยิ่งไม่มีทางเลยที่พฤกษาเืจะต้านทานได้ไหว
ฮู่ว!
เสียคำรามทุ้มต่ำดังขึ้นมันราวกับเสียงของวิญญาณร้ายกำลังค่ำครวญเถาวัลย์ถอยห่างออกจากเฟิงอี้ทันทีมันมิกล้าที่จักโจมตีเฟิงอี้อีกต่อไป
"พฤกษาเืมันยังเกรงกลัวััีมิเคยเปลี่ยนหึหึ"เฟิงอี้ทอดตามองไปรอบๆในครรลองพบว่าบัดนี้ตนอยู่ในของพฤกษาเืมันมีพฤกษาเืเป็นร้อยต้น!หรือหลายร้อยต้น
เรียกได้ว่าเป็นพฤกษาที่น่าสยดสยองอย่างแท้จริง
"พฤกษาเืพวกนี้ดูเหมือนว่าอายุจักราวร้อยกว่าปีได้สีของมันยังคงเป็นแค่สีเขียวเข้มเท่านั้น"พฤกษาเืนั้นตามที่เฟิงอี้เคยพบพวกอายุหนึ่งพันปีถึงหนึ่งหมื่นปีพวกมันมีสีม่วงแะสีดำทมิฬัของพวกมันน่าหวาดหวั่นกว่านี้มิรู้ตั้งกี่เท่า
ัรัดพันของมันก็เหนียวแน่นมหาศาลหากว่าเป็นผู้บ่มเพาะศาสตร์ที่มิใช่ผู้ฝึกฝนศาสตร์ัีแล้วมันคือฝันร้ายที่ผู้ใดก็มิอยากเจอแม้แต่ผู้ฝึกฝนศาสตร์อัคคีที่มีัที่พฤกษาเืก็แพ้ทางอยู่มากเช่นกันก็ยังต้องหวาดหวั่นเมื่อต้องพบกับพฤกษาเืพันปีหรือหมื่นปี
เป็นกันที่รู้โดยทั่วไปว่าศาสตร์ัีแะศาสตร์อัคคีมีัทำลายล้างที่สูงส่งแต่ทว่าศาสตร์อัคคีก็มีความแตกต่างจากศาสตร์ัีตรงที่มิได้มีัทำลายลึกถึงจิตวิญญาณดั่งศาสตร์ัี
ศาสตร์ัีนั้นสามารถกำหราบัั่้าได้ทั่วสารทิศ!
ดั่งเช่นเมื่อเหล่าเทพปีศาจต้องต่อสู้กับผู้บ่มเพาะมนุษย์ในระดับเทพศาสตร์ัีพวกเขาจักมิมีทางต่อสู้ตัวต่อตัวโดยลำพังต้องประสานงานกันจึงจักสามารถรับมือกับระดับเทพมนุษย์ที่ฝึกฝนศาสตร์ัี
หากว่ามนุษย์มีผู้ฝึกฝนศาสตร์ัีมากมายแล้วล่ะก็เกรงว่าต่อให้จักบอกว่าเทพปีศาจน่าหวาดหวั่นแค่ไหนหรือทรงัเท่าใดก็เกรงว่าจักต้องดับสูญไปหมด!
ผู้ที่ฝึกฝนศาสตร์ัีได้สำเร็จนั้นมีน้อยจนน่าอดสูอย่างแท้จริงในแสนคนเห็นจักมีอยู่แค่สามสิบถึงสี่สิบคนเท่านั้น
แะยิ่งมิต้องพูดถึงว่าคนที่สามารถฝึกฝนศาสตร์ัีก้าวเข้าสู่ระดับเทพได้นั้นว่าจักเป็นเช่นใดมันแทบจักมิมีเลย…
ในประวัติศาสตร์มีเพียงเจ้าสวรรค์ที่มีนามว่าเฟิงอี้!ที่เป็นระดับเทพผู้โดดเด่นสะดุดตาที่สุด!
เหล่าเทพปีศาจก็ยังหวาดเกรงเมื่อได้ยินชื่อนี้!
ทว่าศาสตร์อัคคีนั้นก็หาได้น่าดูแคลนได้มันเองก็ทรงัเป็นอย่างมากสามารถเผาผลาญเทพปีศาจผู้ที่มีจิตวิญญาณที่อ่อนแอให้มอดไหม้ได้เช่นกัน
ยิ่งแล้วหากผู้ที่ฝึกฝนศาสตร์อัคคีเข้าถึงอัคคีผลาญสวรรค์ได้นั่นก็เป็นฝันร้ายของเหล่าเทพปีศาจเช่นกันในอัคคีผลาญสวรรค์นั้นมีัทำลายล้างลึกถึงจิตวิญญาณเช่นกันมันสามารถเผาผลาญทำลายจิตวิญญาณ
แม้จักฟังดูเหมือนสูงส่งแะยิ่งใหญ่แต่ทว่าการเข้าถึงอัคคีผลาญสวรรค์ให้ได้นั้นยากเย็นยิ่งนักแม้แต่ระดับเทพขั้นที่7หรือขั้นที่8ที่ฝึกฝนศาสตร์อัคคีก็ยังมิมีผู้ใดเขาถึงอัคคีผลาญสวรรค์ได้สักคนเดียว
มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าถึงเศษเสี้ยวของอัคคีผลาญสวรรค์ได้แะคนเหล่านั้นก็ทรงัมิน้อยเลยเหล่าเทพปีศาจเองก็ยังต้องระแวดระวังตัวอย่างยิ่งเมื่อต้องต่อสู้กับระดับเทพของมนุษย์ผู้ฝึกฝนศาสตร์อัคคีที่เข้าถึงอัคคีผลาญสวรรค์ได้เพียงเศษเสี้ยว
“แต่ทว่ามันข้อเสียใหญ่ๆของศาสตร์อัคคีเลยก็คือมันทื่อเกินไปทั้งยังยากลำบากกว่าจักสำแเดชัที่ทำลายล้างถึงจิตวิญญาณได้”
“หากระดับเทพมนุษย์ที่ฝึกฝนศาสตร์อัคคีต่อสู้กับเทพปีศาจแล้วล่ะก็เกรงว่าหากยังมิเข้าถึงเศษเสี้ยวของอัคคีผลาญสวรรค์คงยากเย็นนักที่จักสังหารให้เทพปีศาจตายสนิทแม้จักทำลายกายหยาบของเทพปีศาจได้แต่มิอาจดับจิตวิญญาณของเทพปีศาจได้เป็นแน่”
“ดั่งเช่นข้าแม้จักถูกสังหารแต่ทว่าข้าก็หลบหนีด้วยจิตวิญญาณที่มิดับสนิททั้งตอนนี้ข้าก็ได้กายหยาบใหม่ที่ยอดเยี่ยมอีกเสียด้วย”
กายหยาบของเฟิงอี้นั้นแปลกประหลาดมันช่างลึกลับน่าค้นหามันสัมพันธ์กับัแทบจักทุกชนิด!
แต่ทว่าเฟิงอี้ก็ยังมุ่งเน้นไปในเส้นทางของตนไม่วอกแวกมุ่งในศาสตร์ัีอย่างจริงจังหากจักให้เฟิงอี้ฝึกฝนศาสตร์อื่นด้วยเกรงว่าก็คงจักเป็นการฝึกเพื่อเสริมัให้กับศาสตร์หลักเท่านั้น
แกร๊ก!
เฟิงอี้มิได้ให้ความสนใจกับพฤกษาเือีกต่อไปเขามุ่งหน้าตรงผ่านพฤกษาเืไปอย่างราบเรียบ
ยิ่งเดินไปมากเท่าไหร่เฟิงอี้ก็พบว่ายิ่งพบกับพฤกษาหลากหลายชนิดยิ่งขึ้นแต่ทว่ามันมิได้มีพฤกษาต้นใดที่มีประโยชน์เลยมีแต่พฤกษาที่จ้องจักสังหารสิ่งมีชีวิตอย่างเดียวเช่นหญ้าทมิฬที่เกิดอยู่ทั่วพื้นพวกมันมีสีดำทมิฬมันมีพิษที่หากกลืนกินเข้าไปจักทำให้โลหิตในกายแปรเปลี่ยนเป็นสีดำแะจากนั้นก็จักแข็งตัวในทันที
เฟิงอี้เดินผ่านเหยียบย่ำหญ้าทมิฬไปอย่างมิได้หวาดเกรงเลยแม้แต่น้อยเพราะศาสตร์ัีของเขาสามารถชำระล้างแะขัดจัดมันออกจากร่างกายได้โดยง่ายทั้งยังมีลมปราณที่บริสุทธิ์มาก
พิษของหญ้าทมิฬไม่ได้เป็นอันใดเลยกับตัวตนอย่างเฟิงอี้ี่ทำให้เห็นถึงความน่าเกรงขามของผู้ฝึกฝนศาสตร์ัีได้สำเร็จเป็นอย่างดีแทบจักมิมีกฎเกณฑ์อันใดที่สยบศาสตร์ัีได้อย่างแท้จริง!
บู้ววว!
เมื่อเดินผ่านทุ่งหญ้าทมิฬออกไปแล้วเฟิงอี้ก็ได้ยินเสียงหอนคำรามของิ้ดังขึ้นหลายตัวมันดังระเบ็งเซ็งแซ่ด้วยความปิติยินดี
“หืม? ี่มันพฤกษาิ้เขียว!”เฟิวอี้ขมวดคิ้วทันทีเพราะพึ่งจักฟื้นฟูลมปราณไปมินานเท่าไหร่ก็ต้องมีเรื่องให้ต้องใช้ลมปราณอีกแล้วหรือ
พฤกษาิ้เขียวนั้นมันพิเศษกว่าพฤกษาเือย่างหนึ่งคือมันมิได้เกรงกลัวััี!
มันเป็นพฤกษาอสูรที่กระหายโลหิตแะการต่อสู้ยิ่งนักยิ่งหากพวกมันอยู่กันเป็นฝูงก็ยิ่งกระหายโลหิตอย่างมหาศาลพวกมันจักมิเกรงกลัวศัตรูเลยแม้แต่น้อย!
จบ…โปรดติดตามตอนต่อไป…
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??