เรื่อง ETHER สงครามดาวนรกซอมบี้คลั่ง
1.12ยักษ์สีม่วง
ในเงามืดที่ทอดตัวไปตามถนน เขาเห็นชายร่างใหญ่ผิวดำในเงาตะคุ่ม
มือของชายคนนั้นสั่นส่ายไปมาอย่างหวาดกลัว “ปังๆ ปังๆ”เปลวไฟจากปลายกระบอกปืนวูบวาบสะท้อนเงาร่างของสิ่งมีชีวิตร่างใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้เขาเรื่อย ๆ เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นทำให้กันึเกะรู้ว่ามันไม่ได้หยุดเิเลย
เขาพยายามเพ่งสายตาเข้าไปในาื หัวใจเต้นระรัว เหงื่อจากมือที่ไหลออกมาทำให้ต้องขยับมือจับปืนให้กระชับขึ้น
“พระเจ้าช่วย..” แสงจากภายนอกสะท้อนให้เห็นหยาดเหงื่อที่ไหลผ่านข้างแก้มของเขาลงมาที่ปลายคาง นัยน์ตาของเขาเบิกโพลงเมื่อเห็นสิ่งนั้นโผล่ออกมาจากมุมมืด
ร่างของมันใหญ่โตเหมือนนักมวยปล้ำกล้ามงามหัวล้าน ความสูงที่น่าจะเกินสองเมตรทำให้ชายผิวดำที่อยู่ตรงหน้าของมันกลายเป็นคนแคระ และเมื่อรู้ว่ากระสุนปืนพกทำอะไรมันไม่ได้ชายผิวดำก็หันหลังและเริ่มวิ่ง
มันเิตามเขาไปอย่างไม่รีบร้อนราวกับว่าชายคนนั้นเป็นลูกไก่ที่อยู่ในกำมือ ซึ่งภาพที่เห็นต่อมาก็ทำให้กันึเกะขนลุกไปทั้งตัว ซอมบี้สามตัวที่อยู่แถวนั้นวิ่งกรูกันเข้ามาจับร่างชายผิวดำคนนั้นไว้
..จับ...แต่ไม่กัดเหรอ..กันึเกะแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ซอมบี้สามตัวนั้นอยู่ดีๆ ก็ดูเหมือนจะฟังคำสั่งของสิ่งมีชีวิตร่างสูงที่กำลังเิเข้าไปาชายผิวดำคนนั้น
แสงไฟสีเหลืองอ่อนส่องสะท้อนผิวสีม่วงของมันเปล่งประกาย มันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ไม่ใส่เสื้อผ้า สีผิวม่วงเข้มและเต็มไปด้วยเส้นเลือดรูปร่างประหลาดเหมือนไม่มีหนังหุ้มเนื้อ
ซอมบี้สามตัวปล่อยมือจากชายผิวดำเมื่อเจ้ายักษ์ม่วงเิมาถึง มันบีบคอ ยกร่างของชายผู้โชคร้ายลอยขึ้นจากพื้น
กันึเกะเห็นชายผิวดำพยายามหนีบคอขัดขืน เขาใช้มือข้างหนึ่งบีบข้อมือของเจ้ายักษ์ม่วงไว้ ก่อนจะล้วงมืออีกข้างหยิบปืนลูกซองสั้นที่อยู่ด้านหลัง
“ตูม..” กระสุนลูกโดดพุ่งทะลุดวงตาข้างขวาของเจ้ายักษ์ม่วงออกไปพร้อมกับเศษเนื้อราวหนึ่งกำมือที่แตกกระจุย
กันึเกะผงะถอยหลังเมื่อเขาเห็นว่ามีบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายหนอน ออกมาจากแผลเหวอะหวะของเจ้ายักษ์นั่น
ไม่นานใบหน้าของมันก็กลับมามีสภาพดังเดิมเหมือนย้อนเวลาไปตอนก่อนที่จะถูกยิง
ชายผิวดำดิ้นกระแด่วเหมือนคนที่ถูกแขวนคอ เขาอ้าปากกว้างเพราะกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย
เจ้ายักษ์ม่วงดึงร่างที่อ้าปากนั้นเข้ามาหาปากของมันเหมือนจะจูบแต่ไม่ใช่ กันึเกะแน่ใจว่ามีบางอย่างวิ่งเข้าไปในปากของชายผิวดำคนนั้น ก่อนที่มันจะปล่อยร่างเขาลงไปนอนกับพื้น
ไอ้หนุ่มขาเหล็กตัวแข็งทื่อ เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
“เกิดอะไรขึ้น” เสียงกระซิบของมาริที่ยืนเกาะขอบประตูห้องอยู่ ทำให้กันึเกะยกมือขึ้นมาห้ามให้เธอหยุดอยู่ตรงนั้น โดยไม่หันไปมอง
ชายผิวดำดิ้นเหมือนปลาช่อนถูกทุบหัว เขาอาเจียนเอาเลือดออกมาจนนองพื้น พร้อมกับส่งเสียงครวญครางดังลั่นแต่ไม่มีซอมบี้ตัวไหนที่อยู่แถวนั้นสนใจเขาเลย
“ฉิบ..” กันึเกะรีบหมุนตัวเข้ามาเมื่อรู้ึกว่าเจ้ายักษ์ม่วงกำลังหันมาทางเขา
สีหน้าซีดเผือดที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อของกันึเกะทำให้มาริรู้ึกหวาดกลัว ลำคอตีบตันจนพูดอะไรไม่ออก
“ชู่...” เขาหายใจหอบตอนที่ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ริมฝีปาก เมื่อสังเกตเห็นว่าสีหน้าของมาริกำลังจะพูดอะไรออกมา
แววตาของมาริเบิกโพลงเธอกลืนน้ำลายลงลำคออึกหนึ่งก่อนจะพยักหน้า
...เราอาจคิดไปเองว่ามันหันมา... กันึเกะคิดพลางกำหนดลมหายใจให้สงบลง ก่อนจะสอดนิ้วมือไปแง้มผ้าม่านอย่างระมัดระวัง
บนถนนว่างเปล่า มีเพียงร่างของชายผิวดำในชุดแจ็กเกตสีน้ำตาลสวมทับกางเกงยีนส์นอนแน่นิ่ง ไม่มีวี่แววของเจ้ายักษ์ม่วง และไม่มีซอมบี้ตัวไหนที่อยู่ตรงนั้นเข้ามาหาร่างของชายผิวดำเลย
กันึเกะก้มลงมองดูปืนเอ็มโฟร์ในมือของตัวเอง หลังจากเห็นว่ากระสุนลูกโดดระยะเผาขนจากลูกซองสั้น ไม่สามารถระเบิดหัวเจ้ายักษ์นั่นให้ตายได้ เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ากระสุนแบบปกติธรรมดาในปืนของเขาจะทำอะไรมันได้หรือเปล่า
“นี่พวกคุณ คิดจะล่ามฉันไว้แบบนี้ทั้งคืนเลยเหรอ” เสียงของสาวผม
บลอนด์ทำให้มาริในชุดนักเรียนญี่ปุ่นเวอร์ชั่นขัดใจครูปกครองหันไปมอง
กันึเกะรีบสาวเท้าก้าวเิออกไป ครั้งนี้เขาไม่สนว่าจะเหยียบหรือจะข้ามศพสาวที่นอนคว่ำหน้าอยู่
“เงียบ!..มีบางอย่างอยู่ข้างนอกนั่น” เขากระซิบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
มอลลี่อยากจะพูดสวนคืนว่า ฉันรู้น่าว่ามีพวกซอมบี้อยู่เต็มไปหมด แต่สีหน้าอันซีดเผือดและเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อของกันึเกะก็มากพอจะทำให้เธอหุบปาก
…ถ้าชายคนนี้สามารถฆ่าซอมบี้ได้ เขาคงไม่รู้ึกกลัวและเสียขวัญขนาดนี้ เพียงแค่เห็นว่ามีซอมบี้โง่ๆ เิอยู่บนถนน.... มอลลี่คิด
“โครม………” บางอย่างกระแทกประตูม้วนเหล็กที่อยู่ด้านล่างดังสนั่น
มาริที่ร่างสั่นเทาวิ่งเข้ามาเกาะหลังกันึเกะแน่นเหมือนลูกแมว
กันึเกะยกพันท้ายปืนขึ้นประทับบ่า พร้อมเล็งเป้าเรดดอทสีแดงจ่อไปที่ประตูกระจกด้านล่างที่เปิดอ้าไว้
บรรยากาศในห้องเงียบสงัด จนกันึเกะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง
เขาไม่นึกเสียดายชีวิตเลยสักนิดหากมันจะช่วยให้สองสาวที่อยู่ด้านหลังรอดไปได้
“ไอ้สารเลวแกฆ่าเพื่อนช้านนน....” เสียงตะโกนของชายคนหนึ่งดังมาพร้อมกับเสียงรถและปืนกลจากฝั่งขวาของถนนหน้าตึก
“ปัง ๆๆๆๆๆๆ..” -่ากระสุนบางส่วนพุ่งทะลุผ่านประตูม้วนเหล็กเข้ามากระทบกับสิ่งของที่อยู่ชั้นล่างเกิดเป็นประกายไฟแตกกระจุย
กันึเกะและมาริหมอบลงแทบจะทันที ส่วนมอลลี่ที่ถูกมัดอยู่ก็กรีดร้องดังลั่น
“โครก..” เสียงคำรามอันน่าสยดสยองของบางสิ่งที่อยู่หน้าประตูม้วน ทำให้มอลลี่กลั้นฉี่ไว้ไม่อยู่
“ตึง...ตึง...ตึง..” ฝีเท้าอันหนาหนักวิ่งเหยียบพื้นถนนตามเสียงของรถไป
เสียงปืนและรถค่อยๆ ดังห่างออกไปจากตึกที่พวกเขาอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งความเงียบกลับเข้ามาอีกครั้ง
กันึเกะที่หมอบอยู่เริ่มขยับตัว เขาเห็นมาริใช้มือปิดหูก้มหมอบอยู่ด้านข้าง ถัดไปเป็นสาวผมบลอนด์ที่กำลังบิดตัวร้องไห้
“มันไปแล้ว” เขาส่งเสียงกระซิบพลางยื่นมือไปแตะไหล่มาริ ทำให้เธอลืมตาขึ้น ก่อนจะขยับตัวเข้าไปาสาวผมบลอนด์เจ้าของบ้านและวางปืนลง
“ขอโทษด้วยที่ต้องทำกับเธอแบบนี้” เขากระซิบขณะไขกุญแจมือให้เธออย่างรวดเร็ว พลางหรี่ตาลงไปมองน้ำฉี่สีเหลืองอ่อนที่เจิงนองอยู่บนพื้น กระเบื้อง โดยพยายามไม่แสดงสีหน้าใด ๆ เพื่อรักษาขวัญกำลังใจของเธอ กลิ่นฉี่ของเธอฉุนแต่ก็ไม่ฉุนมากจนแสบจมูก
“หมอบต่ำๆ ไว้” เขากระซิบบอกเธอที่กำลังสั่นกลัวให้ก้มต่ำลง ก่อนจะเคลื่อนที่ลงไปยังชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
กันึเกะเคลื่อนไหวเงียบเีในาื กระสุนที่พุ่งเข้ามาทำให้หลอดไฟด้านล่างแตก เขาส่องไฟฉายจากปลายกระบอกปืนผ่านรอยกระสุนบนกำแพงและเศษซากหลอดไฟที่กระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ไปยังประตูม้วนเหล็กที่เต็มไปด้วยรูกระสุน สภาพที่ยังมั่นคงแข็งแรงทำให้เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะเิขึ้นไปาสาวๆ หมอบอยู่้า
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??