เรื่อง เทพมารจอมราคะ กำเนิดใหม่พร้อมกับระบบพระพุทธองค์ไร้พ่าย
การปรากฏัขึ้น่าไม่คาดฝันราชันย์ุอัสนี เ่ยกงนั้น ราวกับเป็นการฉีกขาดความจริงที่ดำรงอยู่ ทำลายทุกกฎแห่งสามัญสำนึกที่มนุษย์เคยรับรู้
เทียนจุนที่พึ่งจะหลบพ้นจากการผ่าฟาดสายฟ้าสีทองเมื่อครู่นี้
ยังไม่ทันได้ฟื้นลมหายใจให้สมบูรณ์ ร่างกายก็หล่นกระแทกลงมายังพื้นหิน่าแรง กลิ้งไปตามแรงตกกระแทกเพียงเล็กน้อย
ก่อนจะตั้งหลัก หยุดนิ่งและแหงนหน้าขึ้นมองสู่ท้องฟ้าด้วยแววตาเบิกกว้าง
ราวกับไม่อาจเชื่อสายตาตนเอง
ภาพเบื้องหน้านั้นคือเงาร่างชายชราในชุดคลุมที่ขาดวิ่น ผอมแห้งราวกับซากศพที่ยังคงเดินได้ ทุกย่างก้าวเขาแผ่พลังที่ทรงอำนาจเหนือจินตนาการ
ความกดดันที่ปะทุออกมานั้น เปรียบเสมือนยอดเขาที่ไม่มีใครสามารถปีนถึงได้
มันไม่ใช่เพียงพลังผู้ฝึกตนธรรมดา ไม่ใช่เพียงบัญญติเทพหรือระดับเสมือนเทพ แต่นี่คือแรงกดดันเทพที่แท้จริงขั้นสิบ่าสมบูรณ์
เทียนจุนรู้ดีถึงสิ่งที่ตนกำลังเผชิญ
ชายหนุ่มไม่ได้ตกใจเพียงเพราะอำนาจอีกฝ่าย แต่เพราะเขาคือคนเดียวที่เคยเข้าไปยังสถานที่หลับไหลเ่ยกง และรับรู้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สถิตอยู่ภายในนั้น
หากไม่ได้รับแผนที่โบราณซึ่งถูกส่งมาจากระบบภารกิจ การเดินทางไปยังส่วนลึกเทือกเขาอัสนีในครั้งนั้นก็ไม่มีทางสำเร็จได้เลย
“นึกไม่ถึงจริงๆ.. ว่าไอ้วิชาอุบาต์นั่นจะไปกระตุ้นพลังที่หลับใหลอยู่ในส่วนลึกเทือกเขา และปลุกัตนที่จบสิ้นไปแล้วขึ้นมาอีกครั้ง!”
เทียนจุนพูดกับตนเองด้วยเสียงอันสั่นเบา ถึงจะพยายามฝืนให้ตนเองนิ่งเฉย แต่หัวใจที่เต้นกระหน่ำราวกับกลองศึกก็ไม่อาจโกหกได้
หากเป็นในสถานการณ์ปกติ การที่เ่ยกงปรากฏัออกมาเช่นนี้ นั่นอาจกลายเป็นหายนะระดับฝันร้ายแคว้นใหญ่นับสิบ
และหากชายชราคนนี้คิดจะลงมือ่าแท้จริง นั่นย่อมหมายถึงต้าเหยียน หรือทวีปมังกรสวรรค์ก็อาจถึงคราวต้องสั่นคลอน
เ่ยกงในยุคเขาเคยเป็นัตนระดับตำนาน ถึงขนาดที่ภาคีมังกรสวรรค์ก็ยังต้องเคารพยำเกรง
หรือต่อให้ตอนนี้ภาคีมังกรสวรรค์จะระดมยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่เข้ารุมล้อม มันก็ย่อมต้องเกิดความเสียหาย เพราะเขาคือยอดุอัสนีบาตที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานเลยก็ว่าได้
ในตอนนี้ พลังอัสนีบาตสีทองที่แผ่ออกมาจากร่างได้ปกคลุมท้องฟ้าทั้งผืน เสมือนม่านสายฟ้าที่ปิดบังแสงอาทิตย์
มันเปล่งเสียงแผ่วเบา่าต่อเนื่อง ราวกับเสียงกระซิบจากสวรรค์เก่าแก่ที่กล่าวโทษทุกชีวิตที่อยู่ด้านล่าง
แรงกดดันที่แผ่ขยายออกมานั้นมิใช่เพียงพลังธรรมดา แต่เป็นอำนาจเทพระดับสูงสุดที่กระหน่ำใส่ผืนปฐพีในรัศมีกว่าสี่ร้อยจั้ง
อาณาเขตแห่งเมืองหนานปิงทั้งเมืองสั่นไหวคล้ายกับว่าจะถล่มลงในพริบตา
ปุถุชนธรรมดาที่มิได้ฝึกตนล้วนทรุดลงกับพื้น และต้องคุกเข่า ประหนึ่งกำลังโดนพลังแห่งสวรรค์กดไว้ให้หมอบกราบ หายใจแทบจะไม่ออกจนริมฝีปากเขียวคล้ำ
“นะ..นะ..นี่มัน..”
เจ้าเมืองหนานปิงยังต้องกัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้ร่างทรุดลงกับพื้น ใบหน้าซีดเผือดจนขาวราวกระดาษ ขณะที่เหล่าทหารรับจ้างต่างก็มิอาจซ่อนความกลัวที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างได้
บางคนหยุดหายใจ บางคนเผลอปล่อยอาวุธในมือตกลงพื้น เพราะเพียงแค่มองเห็นเงาร่างเขาที่ก้าวย่างผ่านอากาศเข้ามา่าเชื่องช้า มันก็ทำให้จิตใจทุกคนยุบสลาย
ชายหนุ่มผู้ถือกระบี่ ผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างถึงกับพูดไม่ออก ท่ามกลางเสียงอัสนีที่คำรามอยู่รอบั เขาก็อุทานออกมาด้วยเสียงสั่นราวกับคนกำลังฝันร้าย
“อะ.. อะไรกันซากศพตนนั้น..”
“เป็นแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวมากเกินไป! ราวกับท้องฟ้าทั้งใบจะถล่มลงมาทับพวกเรายังไงยังงั้น!”
ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ปลายนิ้วที่ถือกระบี่อยู่สั่นระริก่าควบคุมไม่ได้ ขณะที่ในใจกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง่าที่สุด
ไม่ต้องพูดถึงเทียนจุนที่กลายเป็นเป้าหมาย และสัมผัสได้่าชัดเจนถึงแรงสั่นสะเทือนที่ส่งมา่าไร้รูป
ทุกอณูในร่างกำลังเตือน่าร้ายแรง หากเ่ยกงตั้งใจจะทำลาย ตนเองจะไม่มีแม้แต่เศษเถ้าให้เหลืออยู่เลยด้วยซ้ำ
ในตอนนั้น เ่ยกงที่บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นเพียงซากศพที่ไร้วิญญาณแต่มิได้ไร้พลัง ยังคงย่ำผ่านชั้นอากาศลงมา่าเชื่องช้า
จนมาหยุดอยู่เหนือศีรษะเทียนจุนไม่ไกลนัก แรงกดดันอันน่าสะพรึงเทพระดับเก้าที่ถูกโอบล้อมด้วยอัสนีบาตจากท้องฟ้า ม้วนกายลงราวกับเป็นเทพแห่งสายฟ้าที่ลงทัณฑ์
สายตาว่างเปล่าไร้ชีวิตเ่ยกง ทอดมองลงมายังร่างชายหนุ่มที่ยืนอยู่เพียงลำพังท่ามกลางแรงอัสนีที่ฟาดผ่า่าไร้ปรานี
ความรุนแรงพลังเหล่านั้นสามารถทำลายผู้ฝึกตนระดับสูงให้กลายเป็นเพียงเถ้าธุลีได้ แต่เทียนจุนกลับยืนอยู่กลางใจพายุสายฟ้าโดยไม่ก้าวถอย ถึงสีหน้าจะแฝงไปด้วยความตึงเครียด ทว่าสายตาก็แน่วแน่ไม่สั่นไหว
จู่ๆน้ำเสียงแหบแห้งก็ดังขึ้นจากริมฝีปากชายชราร่างซูบผอม
“ขะ.. ข้าสัมผัสได้ถึง.. คัมภีร์ุอัสนีบาตเก้าชั้นฟ้า.. จากัเจ้า.. ทำไม.. เจ้าถึงมีวิชามหาอำนาจข้า…”
คำถามนั้นไม่ได้เปล่งออกมาด้วยความเมตตาหรือความสงสัย่าอ่อนโยน
แต่มันคือเสียงที่แฝงด้วยความขุ่นเคือง ล้ำลึกยิ่งกว่าไฟโทสะ
เทียนจุนเองถึงกับขมวดคิ้วแน่น
และไม่คาดคิดว่าซากศพที่ฟื้นคืนชีพจากความตาย จะสามารถพูดคุยได้่ามีสติสัมปชัญญะถึงเพียงนี้
แต่แล้ว ความรู้สึกบาง่าก็พลันก่อัขึ้นในจิตชายหนุ่ม
“หรือว่าัตนที่ฟื้นขึ้นมานี่จะไม่มีความทรงจำในชีวิตก่อน?”
“..ไม่ใช่สิ.. ถ้าไม่มีความทรงจำ เขาจะสามารถใช้ปราณเซียนได้่าไร? แล้วเขาจะรับรู้ถึงคัมภีร์ัเองได้ยังไงกัน?”
เทียนจุนพยายามเรียบเรียงสิ่งที่เกิดขึ้น่ารวดเร็ว ทว่าด้วยแววตาไร้เหตุผลซากศพเ่ยกง ชายหนุ่มตอนนี้ก็เข้าใจได้ทันที
เพราะไม่ว่าคำตอบจะเป็น่าไร มันคงไม่มีความหมายในตอนนี้
สายตาชายชรานั้นบ่งบอกชัดเจนว่า เขาไม่ได้มาด้วยสติ แต่มาด้วยความบ้าคลั่งซากศพผู้สูญสิ้นความเป็นมนุษย์
เทียนจุนสูดลมหายใจลึก แล้วกล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ แต่หนักแน่น
“ท่านผู้อาวุโส.. ”
“ท่านจำไม่ได้หรือยังไงว่าท่านได้ทิ้งมรดกตนเองเอาไว้ในเทือกเขาอัสนี!”
“ทั้งวิชามหาอำนาจ ทั้งทรัพยากร รวมถึงบ่อน้ำสายฟ้า ข้าเป็นคนที่ไปพบเจอด้วยตนเอง และนำคัมภีร์ุท่านออกมา!”
คำตอบเขานั้นมิได้หวังให้ความทรงจำอีกฝ่ายฟื้นกลับมา หากแต่เป็นการกล่าวตามความจริงที่ได้ประสบมากับตนเอง
หากอีกฝ่ายยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง บางทีอาจหยุดความบ้าคลั่งนี้ได้
ทว่าเมื่อคำพูดนั้นดังจบ ซากศพเ่ยกงกลับนิ่งงันไปเพียงครู่เดียว
ใบหน้าอันไร้เนื้อหนังเขากลับมีริ้วรอยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านปะทุขึ้นทันใด
ดวงตาสีขาวซีดที่ปราศจากชีวิตกลับเรืองแสงแห่งความโกรธแค้น
“เจ้า.. หัวขโมย.. ข้าไม่เคยนำมรดกตนเองฝากไว้กับผู้มีชีวิต!”
“ข้าคือเ่ยกง.. ผู้แข็งแกร่งที่สามารถสั่นสะเทือนทวีปมังกรสวรรค์ได้.. ข้ามิใช่คนที่จะทิ้งสิ่งใดไว้ให้เจ้า.. เจ้าหัวขโมยผู้มีชีวิต.. ”
“ข้าจะสังหารแก.. ข้าจะกัดกินแก.. กระชากแขนแกออกเป็นชิ้นๆ.. และเอาคืนมา.. เอาวิชามหาอำนาจข้าคืนมาซะ!!”
เสียงเขาระเบิดออกมาพร้อมกับพายุสายฟ้าที่พลุ่งพล่านไปทั่วทั้งท้องฟ้า
ทันใดนั้น เมฆครึ้มเหนือหัวเมืองหนานปิงก็ปั่นป่วนบิดเบี้ยว กลายเป็นก้นหุบแห่งอัสนีที่กำลังดูดกลืนแสงสว่างทั้งหมด
สายฟ้าหลายพันเส้นทะลุผ่านอากาศลงมา พลังอัสนีระดับเทพสาดกระหน่ำราวกับ-่าฝน ความรุนแรงมันทำให้ผืนฟ้าดูเหมือนจะถูกฉีกออก พายุฝนฟ้าคะนองเริ่มโหมกระหน่ำพัดผ่านทั่วเมือง พร้อมกลิ่นอายการทำลายล้างที่ไม่อาจต้านทานได้
เทียนจุนที่ยืนอยู่ใต้สายฟ้าอันเกรี้ยวกราดนั้นถึงกับอึ้งงันไปเล็กน้อย และก็สัมผัสได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เ่ยกงที่เคยรับรู้จากคัมภีร์
ไม่ใช่เทพอัสนีผู้มีปัญญาและวาจาคมกริบ ผู้เคยฝากฝังเรื่องราวในมรดกตนไว้ในสถานที่หลับใหล
นี่คือัตนที่ถูกปราณแห่งความตายกลืนกิน สายฟ้าที่เคยใช้ปกป้องแผ่นดิน บัดนี้กลับกลายเป็นแรงอาฆาตไร้สติ
มรดกที่ควรถูกสืบทอด กลับถูกมองเป็นที่ถูกขโมย ไม่มีแม้แต่ร่องรอยจิตสำนึกแห่งความภาคภูมิที่เคยฝากไว้
เทียนจุนเองก็ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา่าหนัก
“เฮ้อออ ท่านผู้อาวุโส.. ”
“ข้าไม่อยากทำเช่นนี้เลยนะ! แต่ในเมื่อท่านกลายมาเป็นซากศพที่มีชีวิตแล้ว.. ”
“ข้าจะขอพิพากษาท่านเอง!”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??