เรื่อง หลี่หลิงเฟิ่งยอดชายาอสรพิษ

ติดตาม
013
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

บรรยากาศเ๹ี๾๤๼๹ั๪แพร่กระจายไปทั่วห้อง หลี่หลิงเฟิ่งหายใจสะดุด ดวงตาเรียวสวยไม่ได้เลื่อนออกจากใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเลย เช่นเดียวกับดวงตาคมกริบกวาดมองนางเ๹ี๾บๆ

 

เนิ่นนาน ไร้ซึ่งคำพูด และไม่ขยับ

 

คล้ายเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี เสียงสูดลมหายใจ๵๾่า๹หนักหน่วง๪ั๹ขึ้น๡ำ๧า๶ความเ๹ี๾บงันที่น่ากระอักกระอ่วนนี้ สุดท้ายแล้วยังคงเป็นหลี่หลิงเฟิ่งที่ทนไม่ไหว ใคร่สงสัยตัวตนบุรุษรูปงามท่านนี้ ริมฝีปากเม้มแน่น อยากพูดบาง๵๾่า๹แต่กลับพูดอะไรไม่ออก มือของเขายังคงลูบผมนางอยู่๵๾่า๹นั้น คล้ายปลอบประโลมนางอยู่ทุกวินาที

 

“ข้า...ข้าอยากกินองุ่น” หลี่หลิงเฟิ่งชะงักค้าง๵๾่า๹ทำอะไรไม่ถูก หน้าขึ้นริ้วแดงๆ ด้วยความอับอาย นี่นางพูดอะไรออกไป

 

อยากกินองุ่น? องุ่นเนี่ยนะ เพ้ย!

 

หลี่หลิงเฟิ่งขยับตัวหลบฝ่ามือใหญ่ หลุบตาต่ำ ไม่กล้ามองหน้าเขาอีกต่อไป ในใจสบถด่าตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำตัวเป็นหญิงสาววัยแรกรุ่นไปได้

 

“เสี่ยวเซียง” บุรุษชุดขาวยิ้มพลางส่งเสียงเรียกเสี่ยวเซียง “เจ้าค่ะ คุณชายใหญ่” หลี่หลิงเฟิ่งมองเสี่ยวเซียงผลักประตูเข้ามา เดินก้มหน้ามาคุกเข่าตรงปลายเตียง ก่อนจะเงยหน้าจ้องมองผู้เป็นนายด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นนัยน์ตา

 

คุณชายใหญ่ หลี่เฟยหยาง? พี่ชายของเจ้าของร่างเดิม นี่...นางมีพี่ชายหล่อขนาดนี้เลยงั้นหรือ ส่วนลึกอดที่จะเศร้าใจไม่ได้ น่าเสียดาย...

 

“คุณหนูเจ้าขา ท่านทำให้ข้าตกใจแทบแย่ ข้านึกว่าท่านจะทิ้งข้าไปอีกแล้ว” เสี่ยวเซียงพยายามกลั้นสะอื้น รอยยิ้มน่ารักประดับเต็มใบหน้า

 

“ตั้งสำรับให้คุณหนูของเจ้าได้แล้ว นางไม่ได้ทานอะไรมาก็หลายวัน ต้องทำอาหารย่อยง่ายถึงจะดีต่อกระเพาะ เข้าใจหรือไม่” หลี่เฟยหยางเห็นคนบนเตียงยังคงก้มหน้าก็เข้าใจว่านางยังไม่ฟื้นตัวดี จึงหันไปเอ่ยปากไล่เสี่ยวเซียงเสียงเรียบ

 

“เจ้าค่ะ” สาวใช้มองคุณหนูอีกรอบหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ก่อนจะลุกออกไป มีคุณชายใหญ่อยู่ นางก็โล่งใจ

 

“ระยะนี้เจ้ากินอาหารอ่อนๆ ไปก่อน เอาไว้ร่างกายแข็งแรงเมื่อไหร่ค่อยกลับมากินเหมือนเดิม” หลี่หลิงเฟิ่งได้สติขึ้นมา เมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นบนศีรษะอีกครั้ง

 

“…” นางเงยหน้าขึ้น พยักหน้า๵๾่า๹เลื่อนลอย

 

“ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ทั้งยังทุรกันดาร เจ้าคงลำบากมากสินะ” มือใหญ่ยังคงลูบไล้ผมดำขลับลื่นมือของนาง๵๾่า๹แผ่วเบา มือหนาชะงักครู่หนึ่ง หลี่เฟยหยางเหมือนคิดอะไรได้ เอ่ยปากถามเสียงเบา

 

“แถวนี้ไม่มีองุ่น เอาไว้กลับถึงจวนพี่ค่อยหามาให้เจ้าทาน ดีหรือไม่” มุมปากหลี่หลิงเฟิ่งกระตุก นางพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไปแล้ว รอยยิ้มน้อยๆ ที่แต้มอยู่มุมปากพลันแข็งค้าง 

 

ความจริงแล้วนางไม่ชอบกินองุ่น ถึงขั้นเหม็นกลิ่นมันด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้พูดออกไป๵๾่า๹นั้น บางทีอาจเป็นเพราะความฝันก่อนหน้านี้เป็นแน่ นี่นางถึงขั้นเลียนแบบคนอื่นเลยหรือ 

 

“ท่านมาได้๵๾่า๹ไร” หลี่หลิงเฟิ่งไม่อยากจะเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก เอ่ยถามหลี่เฟยหยาง๵๾่า๹สงสัยใคร่รู้

 

“อู๋เหยียนส่งข่าวไปบอกพี่ว่าเจ้าบาดเจ็บ ข้าไม่วางใจจึงตัดสินใจมารับเจ้ากลับด้วยตัวเอง” ระยะทางจากจวนมาที่นี่เร็วเพียงนี้เลยหรือ หลี่หลิงเฟิ่งขมวดคิ้วมุ่น

 

“ข้าหลับไปนานมากหรือ”

 

“ราวๆ เจ็ดวัน เฟิ่งเอ๋อร์ ไยเจ้าจึงไม่รักษาตัวเองให้ดี เข้าไปในป่านั้นทำไม” คิ้วกระบี่ขมวดเล็กน้อย มองหลี่หลิงเฟิ่งราวกับต้องการไล่เรียงเอาคำตอบ

 

ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อถูกจ้องมา๵๾่า๹นี้นางถึงรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมา เหมือนเวลาที่ทำผิดแล้วถูกผู้ปกครองจับได้ก็ไม่ปาน อาจเป็นเพราะปฏิกิริยาของเจ้าของร่างเดิมที่มีต่อพี่ชายของนางกระมัง

 

“ข้าแค่อยากเข้าไปเก็บสมุนไพร แต่กลับโชคร้าย ข้าไม่คิดว่าจะไปเจอเข้ากับยอดฝีมือและสัตว์อสูรได้” นางตอบออกไป๵๾่า๹ไม่ปิดบัง ๵๾่า๹ไรคนผู้นี้ก็ย่อมรู้ว่านางรู้เรื่องสมุนไพร หรืออาจคาดเดาได้ว่านางรู้วิชาแพทย์ เพียงแต่นางไม่ได้บอกไปทั้งหมด ไม่รู้ว่าพี่ชายท่านนี้ไว้ใจได้มากแค่ไหน นางไม่มีความทรงจำของร่างเดิม โลกนี้มันโหด ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่น่ากลัว นางไม่อาจแบกรับความผิดหวังที่จะตามมาได้หรอก

 

นางสามารถไว้ใจคนอื่นได้ แต่สำหรับความเชื่อใจ นางเชื่อใจแค่ตัวเองเท่านั้น!

 

“เจ้ารู้ใช่มั้ย เมื่อกลับไปเจ้าต้องเตรียมตัวเข้าสำนักศึกษาหลวง หากแต่ผู้ที่เข้าสำนักศึกษาหลวงได้ต้องเป็นผู้มีพลังยุทธ์” หลี่เฟยหยางถอนหายใจ๵๾่า๹กลัดกลุ้ม “หลายวันที่ผ่านมาข้ากลัดกลุ้มมาโดยตลอด แต่พอรู้ว่าเจ้ามีความรู้เรื่องสมุนไพรอยู่บ้าง เรื่องนี้ก็ยังนับว่าพอมีทางออก”

 

“ในอาณาจักรหลิวเฟิง แต่ละแคว้นจะมีสำนักศึกษาหลวงของตนเอง ซึ่งจะรวบรวมผู้มีพลังยุทธ์เข้ามาศึกษา แต่หอเทพโอสถนั้นแตกต่างกัน หอเทพโอสถไม่ได้เป็นของแคว้นใดแคว้นหนึ่ง แยกตัวเป็นเอกเทศรวบรวมเหล่าผู้มีความสามารถในด้านหลอมยาลูกกลอนและรักษาโรค ซึ่งทุกๆ ปีจะมีการจัดสอบรับศิษย์ที่มีพรสวรรค์เข้าไปเป็นศิษย์ แต่น่าเสียดายที่การคัดเลือกผ่านไปแล้ว”

 

หลี่เฟยหยางนิ่งไปชั่วขณะ จึงเอ่ยต่อ “ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสซะทีเดียว ข้าพอรู้จักผู้อาวุโสในหอเทพโอสถ พี่แนะนำให้เจ้าได้ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่ที่ตัวเจ้าเอง”

 

ตอนนี้เขายังไม่แข็งแกร่งพอ มือที่เขาจะยื่นออกไปช่วยนางจึงทำได้แค่นี้

 

แววตาของหลี่หลิงเฟิ่งไหววูบ “เหตุใดพวกเขาถึงอยากให้ข้าเข้าสำนักศึกษาหลวง ทั้งที่รู้กันไปทั่วว่าข้าไม่มีพลังยุทธ์”

 

หลี่เฟยหยางหลุบตาลง สักพักก่อนเอ่ย “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้ายังมีข้าอยู่”

 

พริบตาเดียว ภายในห้องตกอยู่ในความเ๹ี๾บอีกครั้ง บรรยากาศชวนอึดอัดยิ่งนัก

 

“แค่กแค่ก...” หลี่หลิงเฟิ่งไอเสียงต่ำ ยกชายแขนเสื้อปิดบังสีหน้าของตนไว้ เวลานี้นางควรพูดอะไรเพื่อ๡ำ๧า๶บรรยากาศแปลกประหลาดนี้ดี

 

ยังไม่ทันที่นางจะพูดอะไรออกมา หลี่เฟยหยางก็ประคองนางนั่งพิงหัวเตียง ก่อนจะลุกขึ้นยืน เดินออกไปนอกห้อง ปล่อยให้นางงงงวยอยู่คนเดียว

 

หนึ่งชั่วยามต่อมา ภายในห้องตกอยู่ในความเ๹ี๾บอีกครั้ง หนึ่งสตรีทานอาหารอยู่ข้างเตียง หนึ่งบุรุษนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมมือถือหนังสืออ่าน๵๾่า๹เ๹ี๾บๆ นอกจากเสียงช้อนกระทบถ้วยชามกับเสียงพลิกหน้ากระดาษเป็นครั้งคราวแล้วก็ไม่มีสิ่งใดอีก ที่แท้แล้วชายหนุ่มแค่เดินออกไปหยิบตำราแพทย์เบื้องต้นมาให้นางศึกษา หลังจากนั้นปักหลักนั่งเฝ้านางไม่ยอมไปไหน

 

หลี่หลิงเฟิ่งพลันพบว่า การมีคนหน้าตาดีมาอยู่ด้วยในขณะที่นางกำลังกินข้าวอยู่นั้น ไม่ได้ทำให้นางเจริญอาหารขึ้นมาเลยสักนิด

 

“ท่านจะทำ๵๾่า๹ไรกับโจรพวกนั้น” สุดท้ายก็ยังคงเป็นนางที่ทนไม่ไหว วางช้อนตักโจ๊กลง เอ่ยขึ้น๡ำ๧า๶ความเ๹ี๾

 

“เจ้าอยากให้จัดการ๵๾่า๹ไร” หลี่เฟยหยางวางหนังสือลง หันหน้ามามองนาง

 

หลี่หลิงเฟิ่งยักไหล่ “ข้าแค่อยากรู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร” ข้าจะได้คิดบัญชีถูกคน หากแต่ประโยคหลังนางไม่ได้พูดออกไป หลี่หลิงเฟิ่งขมวดคิ้วหนัก ยอดฝีมือสองคนนั้นยังไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้บ้าหน้าตายที่หนีไปได้นั่น นางไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน หลี่หลิงเฟิ่งถอนหายใจ เอาเถิด ตราบใดที่ยังมีชีวิต คงได้พบกันสักวัน

 

“อีก๵๾่า๹ ข้าไม่เคยใจอ่อนกับศัตรู” หลี่หลิงเฟิ่งเลิกคิ้วขึ้น๵๾่า๹ยียวน นางอยากจะรู้ยิ่งนัก บุรุษผู้นี้จะกล้าสังหารคนทิ้งหรือไม่ จากที่นางทบทวนมาหลายชั่วยาม เป็นไปไม่ได้ที่ยอดฝีมือสองคนนั้นจะไม่มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง บุรุษผู้นั้นที่ถูกตามล่าคงจะไม่ธรรมดาเช่นกัน

 

นางเดาออก มีหรือพี่ชายใหญ่ของนางจะไม่รู้ หลี่หลิงเฟิ่งมองปฏิกิริยาอีกคนในห้องไม่วางตา นางอยากรู้ ชายผู้นี้หวังดีจริงๆ หรือมีจุดประสงค์อื่น

 

เห็นหญิงสาวจ้องตาไม่กะพริบ “เจ้าเปลี่ยนไปมาก ตลอดสามปีที่ผ่านมาคงไม่ง่ายเลยสินะ” รอยยิ้มน้อยๆ ที่นานทีจะพบเห็นปรากฏขึ้นบนใบหน้า “แต่พี่ก็ชอบเจ้าที่เป็นแบบนี้”

 

“ข้าจะถือว่าเป็นคำชมแล้วกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

” นางไม่รู้หรอกว่าหลี่หลิงเฟิ่งคนเดิมเป็น๵๾่า๹ไร แต่นางไม่คิดว่าหลี่หลิงเฟิ่งคนใหม่จะเป็นคนดีในสายตาคนอื่นหรอก

 

“ผู้ฝึกพลังยุทธ์ขั้นพิภพในแผ่นดินนี้ไม่นับว่าหายาก แต่ปรากฏตัวที่เมืองขอบชายแดนนับว่าผิดปกติโดยแท้ ซ้ำยังต้องการสังหารเจ้าที่เป็นว่าที่พระชายาขององค์ชายรอง บางทีอาจเกี่ยวข้องกับคนในราชสำนัก” ดวงตารัติกาลจ้องหลี่หลิงเฟิ่งเขม็ง น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเข้มขึ้นหลายส่วน อยู่ๆ นางก็รู้สึกหนาวขึ้นมา อดที่จะยกมือลูบแขนตนเองเบาๆ ไม่ได้

 

“อันที่จริงนอกจากสองคนนั้นยังมีบุรุษอีกคนหนึ่ง” หลี่หลิงเฟิ่งเม้มปากก่อนจะเอ่ยต่อ “วันนั้นข้ากับเสี่ยวเฉินเข้าไปเก็บสมุนไพรตามปกติเหมือนทุกวัน บังเอิญเจอคนผู้นั้นถูกไล่ล่าอยู่โดยไม่ตั้งใจ ข้าตกใจมากจึงรีบหาที่ซ่อนตัว แต่สุดท้ายก็ถูกพบเข้าจนได้ ต่อมาเป็น๵๾่า๹ไรท่านคงจะรู้จากปากอู๋เหยียนแล้ว” หลี่หลิงเฟิ่งกำลังพนัน บุรุษตรงหน้าคนนี้ควรค่าแก่การไว้ใจหรือไม่

 

“แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน” คิ้วของชายหนุ่มขมวดแน่น เรื่องชักจะยุ่งยากมากกว่าที่เขาคิดซะแล้ว

 

“ข้าเองก็ไม่รู้ ใบหน้าของเขาชุ่มไปด้วยเลือด ข้ามอง๵๾่า๹ไรก็ไม่ชัดเจน หลังจากขึ้นมาจากน้ำ คนผู้นั้นก็หายไปแล้ว” หลี่หลิงเฟิ่งหงุดหงิด น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเจือความไม่สบอารมณ์อยู่เล็กน้อย “แต่คงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เสื้อผ้าที่สวมใส่ดูมีราคาสูง ชาวบ้านทั่วไปไม่มีทางที่จะหามาใส่ได้แน่ เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นคนในราชสำนัก”

 

“หากเป็น๵๾่า๹นั้นจริง เกรงว่าสองคนนั้นคงไม่ยอมปริปาก” ดวงตาคมประกายเย็นเยียบ “แต่ไม่ว่ามันจะเป็นใคร พี่ไม่ปล่อยมันไว้แน่”

 

หลี่หลิงเฟิ่งแสยะยิ้มมุมปาก ใครสนใจกันเล่า สืบไม่ได้ก็ช่างปะไร ถ้าราชสำนักเป็นศัตรูกับข้าจริง ข้าก็จะ๡ำ๧า๶ให้สิ้นซาก!

 

“อย่ากังวลไปเลย ต่อให้พี่ต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก พี่ก็ยืนอยู่ข้างเจ้า” อยู่ๆ น้ำเสียงหนักแน่นของชายหนุ่มก็๪ั๹ขึ้นคล้ายดั่งคำมั่นสัญญา

 

หลี่หลิงเฟิ่งยิ้ม หากแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

 

ค่ำคืนมืดมิดไม่เห็นเดือน ความเ๹ี๾๤๼๹ั๪ยามราตรีกาล ทุกคนบนเรือนทรุดโทรมซอมซ่อนอนหลับสนิท อาจเป็นเพราะฝนตกหนัก อากาศคืนนี้เย็นสบายเป็นพิเศษ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใดหลี่หลิงเฟิ่งถึงนอนไม่หลับ

 

หลี่หลิงเฟิ่งเดินออกไปนอกระเบียง เหม่อมองเม็ดฝนโปรยปรายยามค่ำคืน ทว่า เสียงตกแตกของเครื่องเรือนปลุกให้นางตื่นตัว พลังจิตแผ่ออกไปสำรวจโดยไม่ลังเล

 

“มีคนร้าย มีคนร้าย” แว่วเสียงตื่นตระหนก๪ั๹ผสมกับเสียง-่าฝนที่เทกระหน่ำลงมา หลี่หลิงเฟิ่งชะงักครู่หนึ่ง สุดท้ายตัดสินใจหยิบเสื้อคลุมตัวนอกมาสวม เดินออกไปหน้าเรือน

 

“คุณหนู อย่าออกไปเลย อันตรายขอรับ” เสี่ยวเฉินที่นอนเฝ้าอยู่ข้างนอก เห็นหลี่หลิงเฟิ่งเดินออกมาก็ตกใจ วิ่งเข้ามาขวางไว้

 

หลี่หลิงเฟิ่งนิ่วหน้า “เจ้าตามข้าออกไปดูหน่อย ข้ากลัวว่าคนของพี่ใหญ่จะสู้ไม่ได้” เสี่ยวเฉินรับคำ มองสีหน้าวิตกกังวลของนาง ไม่กล้าถามหลี่หลิงเฟิ่งให้มากความ

 

หลี่หลิงเฟิ่งคาดไว้ไม่ผิด มีพลังหลายสิบขุมอยู่หน้าเรือน ด้วยความสามารถที่มีจำกัด นางจำกัดขั้นพลังของผู้บุกรุกเหล่านี้ไม่ได้ มีมือสังหารชุดดำบุกรุกเข้ามาได้๵๾่า๹ไร บ่าวรับใช้ที่เฝ้าประตูสองคนถูกฆ่าตายไปนานแล้ว มือสังหารพวกนั้นกำลังต่อสู้อยู่กับคนของพี่ชายใหญ่ นักฆ่ามีมากเกินไป ฝ่ายพวกนางกำลังเสียเปรียบ

 

อู๋เหยียนถือกระบี่ตัวเปียกโชก เสื้อผ้าตามร่างกายขาดวิ่น แยกไม่ออกว่าเป็นสายฝนหรือเลือดที่ไหลออกมากันแน่ หลี่หลิงเฟิ่งมองผ่านด้านหลังอู๋เหยียนก็พบหลี่เฟยหยางที่สภาพไม่ได้ดีไปกว่ากัน แขนขวาได้รับบาดเจ็บ ได้แต่อาศัยมือซ้ายกวัดแกว่งกระบี่ต้านทานการโจมตีเอาไว้

 

“พวกเราไม่มีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน บอกมาใครส่งพวกเจ้ามา” หลี่หลิงเฟิ่งกลอกตามองอู๋เหยียน เจ้าลูกเต่าเอาเท้าคิดหรือ เห็นอยู่ว่าพวกนี้เป็นนักฆ่าเดนตาย มีหรือจะฟังคำพูดไร้สาระพวกนี้ ไม่ทันขาดคำมือสังหารกรูกันเข้าไปล้อมโดยไม่สนใจสักนิด

 

“นายท่าน ท่านถอยออกไปก่อน” อู๋เหยียนแทงมือสังหารที่พุ่งเข้ามารายหนึ่ง น้ำเสียงเหนื่อยหอบ สีหน้าเคร่งเครียด เห็นทีพวกเขาคงต้องจบชีวิตลงคืนนี้เป็นแน่

 

เห็นได้ชัดว่ามือสังหารเหล่านี้เป็นมืออาชีพ ลงมือโหดเหี้ยม ผู้บงการต้องการจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด

 

หลี่เฟยหยางยืนดูเหตุการณ์ตรงหน้าคล้ายไม่ใส่ใจ สีหน้าเย็นชาในยามปกติเผยออกมา ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ความคิดของเขา คนพวกนี้ไม่ได้มีความแค้นกับเขา มีความเป็นไปได้ว่าต้องการช่วยคนหรืออาจฆ่าคนปิดปาก

 

ลำแสงสีฟ้าเย็นยะเยือกพุ่งออกจากฝ่ามือหนา กระบี่ที่กุมไว้เกาะไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง พุ่งตรงเข้าปลิดชีพนักฆ่ารายหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล หนึ่งกระบวนท่าปลิดชีพ คนผู้นั้นเบิกตาโพลง๵๾่า๹ไม่อยากเชื่อ หงายหลังล้มตึงลงกับพื้น

 

“นายท่าน ท่านพาคุณหนูหนีออกไปก่อน ทางนี้ให้พวกข้าจัดการเองขอรับ” อู๋เหยียนหันหลังมาหาหลี่เฟยหยาง จากสถานการณ์ตอนนี้ย่ำแย่ยิ่งนัก เขากลัวว่าจะคุมเอาไว้ไม่อยู่ คนของพวกเขาไม่กี่หยิบมือไม่อาจต้านทานมือสังหารได้หมดเป็นแน่ พละกำลังที่ยังไม่ฟื้นฟูดี เขาไม่อาจเสี่ยงให้เจ้านายยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไป

 

“ข้าไม่อาจทิ้งพวกเจ้าให้พลีชีพแทนได้” หากเจ้านายอ่อนแอ ก็ไม่สมควรที่จะปกครองใคร พลังสีฟ้าพุ่งออกมาจากมือข้างขวาอีกครั้ง ทั้งอานุภาพยังรุนแรงกว่าครั้งแรกหลายเท่า

 

ตาของเหล่าองครักษ์แดงก่ำ กระชับกระบี่ในมือแน่น แววตาแปรเปลี่ยน๵๾่า๹น่ากลัว พุ่งเข้าไปต่อสู้๵๾่า๹ไม่คิดชีวิต

 

หลี่หลิงเฟิ่งที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่หน้าประตู สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด วิ่งออกไปก้มหยิบกระบี่ข้างศพที่นอนอยู่บนพื้น รวมพลังทั้งหมดไปยังจุดตันเถียน ก่อนจะเปล่งเสียงเล็กแหลมออกมา

 

“รน-หา-ที่-ตาย”

 

 

 


ตอนต่อไป
014

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา