เรื่อง Dark Whispers เสียงกระซิบจากเงามืด
………………………..
ผมใช้เวลาเดินทางอยู่นานพอดู เพราะสตูดิโอดังกล่าวอยู่นอกเมือง แถมภูมิอากาศก็ไม่สู้อำนวย ด้วยช่วงนี้เข้าสู่หน้าหนาว เลยมีหิมะตกเป็นระยะ มิหนำซ้ำ ผมยังใช้จีพีเอสได้ไม่คล่อง จึงกดผิดถูกอยู่หลายครั้ง
“ -่าเอย ทำไมใช้ยากใช้เย็นนักวะ เดี๋ยวพ่อกระทืบทิ้งซะเลยนี่” ผมสบถ หลังหาปุ่มบอกทิศทางไม่เจอ ใจยอมรับว่ามันยากกว่า…เปิดคลิปโป๊นับล้านเท่า
ทว่าทุกสิ่งล้วนไม่พ้นความพยายาม ผมคลำทางจนถึงจุดหมายในเวลาทุ่มเศษ แต่สิ่งที่ชวนให้เอ๊ะ!ขึ้นมาก็คือ……ตำแหน่งที่ตั้งของสตูดิโอ ซึ่งเป็นโกดังใหญ่ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวขจี แถมยังห่างไกลจากถนนใหญ่เกือบกิโล ทำให้ผมรู้สึกลังเล
“ เอ……ใช่ที่นี่หรือเปล่านา…..หรือว่าเราจะดูผิด”
ขณะที่ผมก้มลงมองโลเกชั่นในมือถือสลับบรรยากาศโดยรอบ เสียงโทรเข้าก็ดังขึ้น
“ รมโลฮอปรอปรวน ป้องมุนฮาเซิปเพรี้ยโรย โอนชำรวยเจียนมวนแมฮวยโฮย ออยบองซุนกำเปลียง”
ถึงผมจะเป็นอเมริกัน แต่หัวใจกลับนิยมแร็ปต่างถิ่นที่มาจากชาติเล็กๆแถวอาเซียน ทว่าผมไม่กล้าการันตีว่าคนชาตินี้แต่งทำนองขึ้นมาเอง เพราะพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องเคลมของคนอื่นมาเป็นของตัวเองแบบหน้าด้านๆมานับพันปี และเมื่อยืนฟังจนเป็นที่พอใจ จึงกดรับสายโดยพลัน
“ สวัสดี ผมคือ..บราวน์โคตรจะยุ่ง ใครพูดสายครับ”
ปลายสายนิ่งอยู่อึดใจ ก่อนจะตอบกลับมาเบาๆด้วยเสียงผู้หญิงที่เกือบสดใส
“ สวัสดีค่ะ นี่ลูน่าพูดนะคะ คุณบราวน์รออยู่ที่หน้าสตูดิโอแล้ว ใช่มั้ย”
ผมถึงกับสะดุ้งตกใจ ยัยลูน่ารู้ได้ไงว่าผมมาถึงแล้ว แต่พอสงบจิตได้ครู่หนึ่ง ก็เลยได้คิดว่าหล่อนน่าจะเห็นรถของผมจากกล้องวงจรปิด จึงเหลียวซ้ายแลขวา เพื่อมองหาอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนั้น ทว่าก็พบแค่สิ่งก่อสร้างที่คล้ายโกดังเท่านั้น
“ เอ…..กล้องอยู่ไหนนา….”
“ กล้องวงจรปิดที่คุณบราวน์มองหา เป็นรุ่นพิเศษที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน เลยไม่อาจสังเกตเห็นได้ง่ายๆ” ลูน่าเริ่มอธิบายในสิ่งที่ผมติดใจ กระนั้นกลับทำให้สงสัยยิ่งกว่าเดิม ด้วยนังหน้าสวยคนนั้นล่วงรู้ในสิ่งที่ผมคิดได้ยังไง แต่เจ้าหล่อนดันรีบตัดบท
“ เข้าไปในโกดังกันเถอะค่ะ จะได้เริ่มบลีฟงานแรกกันเลย”
“ อ่า…ครับ” ผมจำเป็นต้องเออออไปตามสถานการณ์ เพราะถ้าขืนเรื่องมาก อาจชวดงานแรกที่มีมูลค่าถึง1 ล้านเหรียญ
……………………………..
ภายในสตูดิโอค่อนข้างกว้าง หลังคาเป็นรูปทรงโดม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใต้ท้องเรือขนาดมหึมา สุดปลายทางมีบ้านไม้ขนาดเล็กประดับอยู่ อันน่าจะเป็นฉากที่ใช้ถ่ายทำคลิป นอกจากนี้ยังมีทีมงานอีกนับสิบชีวิตยืนเรียงรายอยู่โดยรอบ
“ สวัสดีค่ะ มาสายไปสิบนาทีนะคะ คุณบราวน์” ลูน่าเดินเข้ามา วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสม่วงรัดรูป เผยให้เห็นรูปร่างที่ชวนให้เหล่าชายนึกกระสัน เพราะมันเป็นทรวดทรงที่สมบูรณ์ทั้งล่างและบน นั่นทำให้ผมต้องกระแอมเบาๆ เพื่อแก้อาการเคอะเขิน
“ ฮะ แฮ่ม…..อา ขอโทษด้วย ก็ผมไม่รู้ทางนี่ครับ”
ลูน่าจ้องมองผมอยู่อึดใจ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเมินไป พร้อมเดินนำทางและกล่าวตัดบท
“ ช่างมันเถอะค่ะ เดี๋ยวจะพาคุณไปพบกับนายทุนของเรา โปรดตามดิชั้นมา”
ผมยอมรับว่าไม่พอใจเล็กน้อย เพราะนังหน้าสวยคนนี้ดันเมินใส่ แต่พอสบกับบั้นท้ายโด่งงอนของเจ้าหล่อนที่สะบัดไปมาตามจังหวะก้าวเดิน หัวใจที่รุ่นร้อนด้วยไฟแค้นก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นไฟตัณหาอย่างน่าอัศจรรย์
“ อืม….หุ่นแม่นี่ช่างน่าฟัดชะมัด คอยดูไปเถอะ กูจะหาทางเล่นนางให้ได้ก่อนจบงานนี้อย่างแน่นอน” ผมให้สัญญากับตัวเอง พร้อมเดินตามสาวหน้าสวยไปติดๆ
…………………………..
เจ้าหล่อนนำพาไปยังห้องรับแขกที่สร้างจากตู้คอลเทรน์เนอร์ขนาดเล็ก พอเปิดเข้าไป ผมก็พบกับชุดโซฟาหนังที่เลิศหรูอลังการ บุคคลที่นั่งอยู่บนนั้นเป็นชายร่างท้วมในชุดสูทดำ ทว่าไม่อาจรู้ชัดว่าเขาคือใคร เพราะมีหน้ากากหมูป่าปกปิดใบหน้าอยู่
“ เอ๊ะ! ” ผมสะดุ้งเล็กน้อย เพราะไม่ได้เตรียมใจมาพบกับชายที่สวมหน้ากากประหลาดแบบนี้ แต่ลูน่ากลับผายมือให้รู้จักบุรุษทั้งสองรู้จักกัน ราวกับว่าเธอไม่สนว่าผมจะตกใจเพียงใด
“ ท่านผู้นี้คือ…. คุณบี ผู้เป็นนายทุน และนี่คือ….คุณบราวน์ โคตรจะยุ่งค่ะ”
ผมยอมรับว่าทำตัวไม่ถูก เพราะคาดว่าบุคคลที่ได้พบ น่าจะเป็นมหาเศรษฐีชราที่สามารถเผาเงินล้านเล่นได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายดันมาเจอตัวประหลาดที่ดูท่าทางปัญญาอ่อน กระนั้นก็พยายามฝืนยิ้ม พร้อมทักทายกลับอย่างสุภาพที่สุด เท่าที่คนถ่อยอย่างผมจะทำได้
“ อ่า…..สวัสดีครับ ผะ….ผมบราวน์ โคตรจะยุ่ง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
แต่ก่อนจะเข้าไปสัมผัสมือตามธรรมเนียม ลูน่าก็เข้ามาขวาง พร้อมเอามือยันอกแน่นๆของผม ปากก็ร้องทัดทาน
“ คุณช่วยหยุดไว้แค่นี้ เพราะคุณบีไม่ชอบให้ใครถูกตัว”
ผมยอมรับว่าหมั่นไส้ และอยากเตะไอ้หมอนี่มาก เพราะแม่งโคตรจะถือตัวเลย แต่ก็พยายามยั้งใจเอาไว้ ด้วยไอ้อ้วนปัญญาอ่อนนี่กำลังจะแจกเงินล้านให้ผมนี่นา
“ คะ…ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
“ ดีค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจ งั้นก็เชิญนั่ง จะได้เริ่มบลีฟงานกันซักที” ลูน่ายิ้มเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าของเธอดูสวยซึ้งตรึงใจขึ้นเป็นกอง แน่นอนว่ามันทำให้ชายชาตรีอย่างผมอ่อนระทวยลงเช่นกัน ความคิดไม่ดีผุดขึ้นมาในสมองเป็นระยะ
“ อืม….ยัยนี่สวยชะมัด ถ้าได้ซักที จะเป็นพระคุณ”
พอเข้าประจำที่ ยัยลูน่าก็เป็นฝ่ายอธิบายรายละเอียดของคลิปแรกให้ผมรับฟัง ซึ่งก็เป็นเรื่องราวที่โคตรอุบาทว์ในแบบที่ผมเคยทำมาก่อน ผิดก็แต่ว่าตัวแสดงหรือตัวโดน ไม่ใช่ไอ้บ๊อบหรือเหล่าเดรัจฉานในสวนสัตว์มนุษย์ กลับเป็น….ตัวของผมเอง
รายละเอียดของงานแรกคือ…..พอเริ่มเปิดคลิป ผมต้องโดนพวกรุมซ้อม แน่นอนว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะลงมือแค่หอมปากหอมคอ ประมาณว่าพอให้รู้สึกว่าน่วมหน่อยๆ ซึ่งผมก็ไม่มายด์ เพราะถึงยังไง มันก็ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก แต่ที่ชวนให้แคลงใจจริงๆเป็นฉากสองที่ต้องแสดงต่างหาก ด้วยลูน่าบอกว่า….ผมจะต้องถูกบังคับให้กินบางอย่าง
“ แล้วไอ้บางอย่างที่ผมต้องกินคืออะไร” ผมถาม
“ ไม่มีอะไรมาก มันก็แค่ขี้หมาเท่านั้นเองค่ะ” ลูน่าตอบเรียบๆ แต่ถ้อยคำนั้นกลับทำให้ผมสตั้นอยู่อึดใจ ก่อนที่จะระเบิดเสียงตะโกนออกมา
“ ฮ้า….ว่าไงนะ คุณจะให้ผมกินขี้หมาเหรอ…..”
“ ใช่ค่ะ คุณได้ยินไม่ผิดแล้ว” ลูน่ายังคงยืนกรานคำเดิม และนั่นก็ทำให้ผมหมดความอดทน พร้อมผุดลุกขึ้นยืน
“ โอเค ผมไม่พอใจ คุณให้ผมทำคลิปบ้าบออะไรแบบนี้ ผมขอยกเลิกสัญญา และจะกลับเดี๋ยวนี้”
ทว่าก่อนที่ผมจะจรลา ยัยลูน่าก็รีบขยับเข้ามาขวาง พร้อมเอามือบางยันอกของผมอีกครั้ง ปากก็กล่าวขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“ ใจเย็นๆสิคะ สิ่งที่คุณต้องกิน มันก็แค่ขี้หมาก้อนเดียวเอง ไม่มีอันตรายต่อร่างกายแต่ประการใด”
ถึงผมจะดูอ่อนลง เพราะได้รับรสสัมผัสจากฝ่ามือนุ่มนิ่มที่อุ่นร้อน แต่ก็ไม่อาจดับไฟโทสะที่อยู่ในใจ จึงตะคอกใส่เสียงขุ่น
“ เธอก็พูดได้นี่ เพราะตัวเองไม่ได้เป็นคนกิน ไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ คิดว่าใหญ่มาจากไหน ไม่รู้หรือไงว่าการกระทำแบบนี้ มันทำลายศักดิ์ศรีความเป็นคน”
“ เอ…..ดิชั้นเองก็นึกว่าคุณชอบซะอีก เพราะที่ผ่านมา คุณเองก็ทำคลิปทำนองนี้มาแล้วหลายครั้ง”
ผมถึงกับสะอึกจนพูดไม่ออก ด้วยสิ่งที่ลูน่ากล่าวมา ย้อนรอยถึงผมโดยตรง เพราะถ้าคิดว่าการทำคลิปแบบนี้ เป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ ผมเองก็ไม่ต่างจากไอ้พวกนี้ บางทีอาจเลวร้ายยิ่งกว่า เนื่องจากเป้าหมายที่ผมนำมาร่วมงานก็คือ…..คนไม่สมประกอบที่ไร้ทางสู้
“ ว่ายังไงคะ จะทำหรือไม่ทำ ถ้าล้มเลิกตอนนี้ คุณก็ต้องกลับไปนอนซมในห้องมืดแบบพวกขี้แพ้เหมือนเดิม แต่ถ้าเดินหน้าต่อ ล้านเหรียญจะรอคุณอยู่ตรงหน้า” ท่าทางลูน่าคงรำคาญที่เห็นผมนิ่งอึ้ง เธอเลยกระตุ้นด้วยคำพูด
ผมนิ่งไตร่ตรองอย่างหนักหน่วง เพราะตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยกินขี้หมามาก่อน แต่พอขบคิดได้พักนึง ผมก็ตัดสินใจเด็ดขาด
“ โอเค เอาก็เอาฟะ ไอ้บ็อบยังทำได้เลย แล้วคนอย่างเรา ทำไมจะทำไม่ได้ แค่ยัดเข้าปาก แล้วกลืน มันไม่ถึงตายหรอกว่ะ”
“ เป็นอันว่า…ตกลง ใช่มั้ยคะ” ลูน่ายิ้ม ผมเลยฝืนทำหน้าบาน ก่อนจะลั่นคำกร้าว
“ ครับ ทำก็ทำ เริ่มกันเลยมั้ย”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/darksidewriter.versionend.of.the.alley
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??