เรื่อง เส้นทางอสุรา
บที่ 40 ไพ่ลับกลับกระดานหมาก
ี่หอไม้ชั้นเดียวกลางสระบัว บุรุษชุดคลุมขาวกลางหลังปักลวดลายหงส์ทองโบยบิน มันรับสาส์นจากนกพิราบตัวหนึ่ง ทันใดนั้นหมากสีขาวสองตัวบนกระดานก็ถูกมันปัดทิ้งไปด้วยสีหน้าี่เจือโทสะ หัวคิ้วขมวดเป็นปมราวกับว่าสิ่งี่เกิดขึ้นนั้นอยู่นอกเหนือจากี่มันควบคุม มันเสียหมากขาวี่เป็นสำนักคุ้มภัยได้ แต่มันไม่ควรเสียหมากขาวี่เป็นทหารม้าเกราะเงินี่สุดสำคัญของตน กว่าจะมีเส้นสายเข้าถึงตัวตนสำคัญซึ่งสามารถบัญชากองกำลังทหารม้าบางส่วนได้ มันต้องแลกสิ่งี่มีค่าไปไม่น้อย ทว่าเพียงเบี้ยนอกกระดานี่ไร้คุณค่ามิน่าจดจำหมากหนึ่ง กลับพลิกกระดานทำลายหมากขาวสุดสำคัญขอันได้อย่างเหนือความคาดหมาย
“เจ้าสวะนั่นไม่ว่ามันจะเป็นใคร จงทำลายมันให้ย่อยยับไปพร้อมกับนายผู้เดินหมากดำของพวกมัน!”
เสียงี่กอปรรวมไปด้วยโทสะดังขึ้นพร้อมกับการวางหมากขาวสุดสำคัญอีกสามหมาก ทหารม้าเกราะเงินนับว่าเป็นหมากไพ่ตายขอันี่หวังใช้ปิดฉาก แต่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน มันจำเป็นต้องเผยหมากลับสุดท้ายของตน นี่คือสามหมากขาวี่ดีี่สุดในตอนนี้ี่มันถือครองไว้ในมือ หมากทั้งสามก็คือผู้ี่อยู่บนรถม้าสามคันี่ไปจอดประจันท่ามกลางซากศพของเหล่าทหารม้าเกราะเงิน!
เมื่อรับรู้ได้ถึงสิ่งี่คุกคามตนได้มากกว่าบุรุษผู้ถือทวนบนหลั้าซึ่งคุมกำลังทหารม้าเกราะเงินมา หัวคิ้วของซุนหลงก็พลันขมวดพร้อมกับนัยน์ตาี่ลืมตื่น มันไม่สามารถทำสมาธิฟื้นฟูพลังและอาการบาดเจ็บได้อีกต่อไปแล้ว บุรุษหนุ่มี่เป็นความหวังขอันบัดนี้ไม่ทราบเป็นตายร้ายดี เพราะมันได้ถูกหนึ่งในคนี่อยู่ภายในรถม้าซัดพลังจิตวิญญาณี่ผสานกับพลังจิตวิญญาณสรรพสิ่งคู่กายเข้าใส่ ซึ่งพลังจิตวิญญาณี่สัมผัสได้จากหนึ่งการโจมตีก่อนหน้านี้ เป็นพลังจิตวิญญาณเหนือสามัญระดับหนึ่งเช่นเดียวกันกับมัน และเมื่อประเมินพลังการโจมตีี่เกิดจากการผสานจิตวิญญาณกับอาวุธคู่กาย ดูเหมือนคนในรถม้าอาจมีพลังต่อสู้แทบทะยานไปจนถึงพลังจิตวิญญาณเหนือสามัญระดับสองแล้ว
เพียงหนึ่งคนก็ดูเหมือนจะยากรับมือ แต่นี่พวกมันมีถึงสามคน!
“เป็นยอดฝีมือท่านใด มิคิดว่าท่านจะลดตัวมาเป็นเบี้ยในกระดานหมากได้"
ซุนหลงอาศัยการสนทนาเพื่อพิสูจน์ตัวคนี่อยู่ภายในรถม้า อีกทั้งก็เพื่อเปิดโอกาสให้หวังเถาผู้เป็นสหายได้เข้าไปช่วยเหลือเฉินซือหยางี่ติดอยู่ในซากปรักหักพังของร้านค้าอาวุธตน
หวังเถาจึงค่อยๆ ถอยฉากอย่างระมัดระวัง เมื่อยังไม่มีเสียงใดดัา มันค่อยหมุนกายหวังเข้าไปค้นหาร่างและช่วยเหลือชายหนุ่ม ทว่าเพียงขาย่างออกไปไม่ถึงก้าว เสียงดุดันของบุรุษี่คล้ายจะย่างสู่วัยชราก็ดังก้องขึ้น พร้อมกันนั้นเสียงเครื่องดนตรีประเภทดีดก็ดังขึ้นตึงเดียว เสียงนี้ไม่มีจังหวะ ไม่มีทำนอง มีเพียงเส้นสายแห่งพลังปาฏิหาริย์ี่อาจเทียบเทียมพลังจิตวิญญาณเหนือสามัญระดับสองแผ่พุ่งเข้าหาหวังเถาอย่างหนักหน่วง เสียงตูมดังสนั่นพร้อมร่างท้วมี่กลิ้งหลายตลบอัดเข้าใส่ซากปรักหักพังค่อยหยุดลง
“มีใครอนุญาตให้เจ้าเคลื่อนไหว"
ซุนหลองตามสหายเห็นว่าไม่ถึงกับตกตายแต่ก็บาดเจ็บสาหัสไม่ใช่น้อย ทว่ายากี่มันจะเข้าไปช่วย เพราะว่ามันมิอาจละสมาธิจากรถม้าทั้งสามคันได้เลย อีกหนึ่งพลังการโจมตีเมื่อครู่เป็นสิ่งยืนยัน คนทั้งสามบนรถม้าน่าจะมีระดับพลังี่ทัดเทียมกัน เป็นระดับี่เทียบเท่ากับตน แต่พวกมันมีกันถึงสาม อีกทั้งยังสามารถผสานจิตวิญญาณกับอาวุธคู่กายได้
แม้ไม่เห็นแต่ก็พอได้ยิน อาวุธี่พวกมันใช้เป็นอาวุธคู่กายล้วนเป็นเครื่องดนตรี อาวุธชิ้นแรกี่ใช้โจมตีเฉินซือหยางคือเครื่องดนตรีประเภทเป่า อาวุธของคนอีกผู้ี่จู่โจมหวังเถาเป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด หากให้เดาอีกหนึ่งอาวุธี่เหลือของคนี่อยู่บนรถม้าอีกคันคงเป็นเครื่องดนตรีประเภทตีแล้ว
คิดเช่นนี้ซุนหลงก็พลันกล่าวขึ้น
“ี่แท้พวกท่านก็คือสามสรรพเสียงแห่งขุนเขา ได้ยินชื่อเสียานาน ไม่คิดว่าจะมาเจอในสถานการณ์เช่นนี้"
เสียงี่ย่างใกล้วัยชราอีกเสียงดัาจากรถม้าี่จอดอยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งเสียงเครื่องดนตรีประเภทเป่าระลอกแรกี่จู่โจมเฉินซือหยางเกิดจากมันผู้นี้
“กระบี่เหนือพิรุณหูตากว้างไกล หากเจอในสถานการณ์อื่นพวกเราคงได้ดื่มกันอย่างถูกคอ"
ซุนหลงลุกยืนขึ้นถือกระบี่ไขว้หลัง
“ี่จริงสถานการณ์เช่นนี้ก็ดื่มได้"
เสียงดุดันจากรถม้าฝั่งขวาซึ่งเป็นผู้ใช้เครื่องดนตรีประเภทดีดกล่าวขัด
“เหลวไหล คืนเดือนมืดอันอัปมงคล ควรมีการตายมากกว่าการดื่ม ซึ่งพวกเจ้าควรตายตั้งแต่ตอนนี้"
เสียงจากรถม้าฝั่งซ้ายกล่าวขึ้น
“ขออภัยแทนศิษย์พี่ของข้าี่ไร้ซึ่ารยาท ทว่าคำกล่าวขอันเมื่อครู่นับว่าถูกต้อง พวกข้ามาี่นี่ในคืนเดือนดับย่อมมิใช่มาเพื่อดื่ม...แต่มาเพื่อเอาชีวิตคน”
ซุนหลงจ้องเขม็งไปี่รถม้าทั้งสามคัน
“มันมอบสิ่งใดจึงสามารถดึงดูดพวกท่าน”
“เมืองแห่งนี้… ท่านว่าน่าล่อตาล่อใจหรือไม่"
ซุนหลงได้ฟังคำตอบก็ผงกศีรษะ
“จริงสินะ แคว้นหมื่นขุนเขาประกอบด้วยเก้าเมืองใหญ่ เมืองจรดเมฆาแห่งนี้นับเป็นเมืองใหญ่ี่เหมาะสมในด้านต่างๆ เป็นอันดับต้นๆ อยู่แล้ว มิแปลกี่มันจะต้องการ และพวกท่านเองก็ด้วย ทว่าเมืองนี้มีเพียงหนึ่ง พวกท่านมีถึงสาม มันจะแบ่งอย่างไร"
“ท่านบอกเองไม่ใช่หรือ แคว้นหมื่นขุนเขามีถึงเก้าเมืองใหญ่…”
เสียงบุรุษี่นั่งในรถม้าฝั่งขวามือพลันกล่าวขัดผู้ี่นั่งอยู่บนรถม้าฝั่งซ้าย
“อย่าปากมาก"
ซุนหลงจึงได้มั่นใจขึ้นมาในทันที ี่แท้หมากกระดานนี้มิใช่เพียงเมืองจรดเมฆาจริงๆ
“มันคิดการใหญ่เช่นนี้อาจเรียกได้ว่ากบฏ พวกท่านยังกล้าี่จะเสี่ยง"
“คนตายมิอาจพูดได้ เมื่อไม่พูดใยจะมีคำว่ากบฏ"
ซุนหลงกำชับกระบี่ไว้แน่น นัยน์ตาี่จ้องเขม็งทอแววโกรธขึง
“เจ้าพวกชั่วช้า"
เสียงจากรถม้าฝั่งซ้ายดัา
“ยังคิดจะสู้อีกหรือ ยอมตายไปเสียตอนนี้ย่อมสบายกว่า ลำพังคนี่บาดเจ็บสาหัส พลังยังไม่ฟื้นฟูดี อีกทั้งกรำศึกหนักมาตลอดทั้งคืนเช่นท่านจะต่อกรกับพวกเราทั้งสามได้อย่างไร"
ซุนหลงแหงนมองฟ้า ก่อนหันมามองพวกมันอีกครั้ง
“นั่นก็ไม่แน่"
เสียงจากรถม้าฝั่งขวากล่าวขัด
“มันไม่มีทางเลยต่างหาก”
หลังวาจาประโยคดังกล่าว เป็นเสียงเครื่องดนตรีี่ดังตามมา คนในรถม้าี่จอดอยู่ฝั่งซ้ายลือก่อน เมื่อเป็นซุนหลงพวกมันย่อมไม่เก็บงำพลังฝีมือ เสียงจากเครื่องดนตรีจึงดังต่อเนื่องและเป็นท่วงทำนอง ทำให้รู้ว่าอาวุธประจำตัวขอันก็คือขลุ่ยเลาหนึ่ง
เสียงขลุ่ยบรรเลงเป็นท่วงทำนอง ก่อเกิดภาพพลังปาฏิหาริย์รูปตัวอักษรเลือนลางเคลื่อนี่ไปพร้อมกับสายลมพริ้ว พลังรูปตัวอักษรเคลื่อนไปตามจังหวะและทำนองเพลงขลุ่ย มีทั้งรวดเร็วและเชื่องช้าตามการบรรเลง อานุภาพทุกหนึ่งตัวอักษรี่บรรลุเข้าหาคนแฝงพลังี่หนักหน่วงจนสั่นคลอนไปทั่วบรรยากาศี่เคลื่อนผ่าน ซุนหลงต้องผนึกพลังจิตวิญญาณของตนมาไว้ี่หมัด ในเมื่อมันผสานจิตวิญญาณกับกระบี่ในมือไม่ได้ มันต้องอาศัยร่างกายเป็นตัวกลางในการส่งผ่านพลัง ส่วนกระบี่ก็อาศัยพลังจำเพาะี่อยู่บนตัวกระบี่เข้าหักหาญ การต่อสู้เช่นนี้กับคนี่มีพลังจิตวิญญาณทัดเทียมกันแต่สามารถเข้าสู่ขั้นการผสานจิตวิญญาณกับอาวุธคู่กายนับเป็นความเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ยัิต้องนับในเรื่องจำนวนของฝ่ายตรงข้ามี่มีมากกว่า หากสู้ตัวต่อตัวกับคนเพียงคนเดียว ซุนหลงยังพอมั่นใจว่าจะสามารถยืนหยัดต่อกรจนถึงเช้าวันใหม่ได้ แต่พวกมันมีถึงสาม โอกาสี่จะเอาชนะย่อมลดทอนลงไป ปัจจัยเสริมี่มันรออยู่เนิ่นนานก็ยังไม่ปรากฏเสียที
พลังจิตวิญญาณแห่งท่วงทำนองเพลงขลุ่ยี่อยู่ในขั้นการผสานจิตวิญญาณมุ่งฝ่าอากาศปะทะเข้าใส่ร่างของซุนหลงอย่างไม่ออมรั้ง จู่โจมอย่างรวดเร็วและพุ่าจากทั่วทุกสารทิศ ซุนหลงต้องชกทั้งหมัดส่งพลังจิตวิญญาณี่ราวกับธารน้ำห่อหุ้มเข้าต้านรับ พร้อมหมุนกายฟันกระบี่สีเงินวาวนำพลังจิตวิญญาณแห่งสรรพสิ่งบนตัวกระบี่ปะทะหักหาญพลังรูปตัวอักษรี่ลอยละลิ่วไปมา
เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นทั่วตรอกซอยอีกครั้ง พร้อมกับเสียงเพลงขลุ่ยอันไพเราะี่ขับขานท่ามกลา่านราตรีมืดดำอันเป็นอัปมงคล อาณาบริเวณจึงกระหึ่มอึงอนไปด้วยสรรพเสียงการต่อสู้และพลังจิตวิญญาณรูปแบบต่างๆ ี่สะท้อนออก ซุนหลงแสดงเพลงกระบี่ี่รวดเร็วเหนือ-่าพิรุณสมกับคำร่ำลือี่ผู้คนตั้งให้เป็นสมญานาม ทุกหนึ่งกระบี่ขอันพร่าพรายน่าหวาดหวั่นแลทรงอานุภาพ หากไม่บาดเจ็บและเปลืองพลัาก่อนคีโอกาสี่เพลงกระบี่เหนือพิรุณนี้จะบรรลุไปถึงรถม้าคันี่อยู่ฝั่งซ้าย
“ต้องยอมรับในความสามารถและเพลงกระบี่ของท่าน แต่ทว่าวันนี้มันไม่ใช่วันของท่านแล้ว!”
เสียงอู้อี้ดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับเพลงขลุ่ยี่แปรเปลี่ยนท่วงทำนองอย่างกระทันหัน ตัวอักษรี่เกิดจากพลังี่ส่งออกมาพลันหมุนวนปานจักรผัน ทั้งยังสามารถแปรเปลี่ยนทิศทางการพุ่งโจมตีได้อย่างอิสระ เพลงกระบี่และหมัดี่ใช้ออกของซุนหลงพลาดเป้าไปหลายครา ส่งให้มันถูกพลังโจมตีของฝ่ายตรงข้ามรุกไล่จนต้องถอยร่น กว่าจะตั้งหลักส่งกระบี่สีเงินวาวต้านทาน กลับกลายเป็นว่ามันถูกห้อมล้อมด้วยพลังเพลงขลุ่ยี่หมุนวนปิดกั้นทิศทางการเคลื่อนี่ไปต่อขอันแล้ว
ถึงจะปิดล้อมจำกัดการเคลื่อนี่ของซุนหลงได้ แต่ก็มิอาจแผ่พุ่งโจมตีผ่านกระบี่ี่รวดเร็วขอัน พลังเพลงขลุ่ยี่โจมตีจึงคล้ายเป็นการรั้งตัวของซุนหลงไว้เท่านั้น หากสู้ตัวต่อตัวกับคนเพียงคนเดียว รูปแบบการต่อสู้เช่นนี้ให้สู้ติดต่อกันสามวันสามคืนก็คงไม่รู้จบ ทว่าเบื้องหน้าซุนหลิได้มีรถม้าเพียงคันเดียว คนี่อยู่ในรถม้าก็มิใช่คนเดียว พวกมันมากันถึงสาม ยังเหลืออีกสองคนี่ยังไม่ได้ลือ!
และก็เป็นอย่างี่คิด พลังจิตวิญญาณี่ก่อกำเนิดมาจากท่วงทำนองเพลงขลุ่ย เป็นเพียงการพัวพันเพื่อรั้งเพลงกระบี่ของซุนหลงไว้เท่านั้น พวกมันมิอาจประมาทผู้ี่มีฉายากระบี่เหนือพิรุณได้ พวกมันจึงได้วางแผนเตรียมตัวลือมาเป็นอย่างดี
ดังนั้นเสียงเครื่องดนตรีประเภทดีดจึงดัาจากภายในรถม้าคันี่จอดอยู่ฝั่งขวา เสียงขอันมิได้ดังแค่ตึงเดียวดั่งเช่นี่เคยจัดการหวังเถา แต่มันถูกดีดจนบังเกิดเป็นท่วงทำนองี่ยาวเหยียด เช่นเดียวกับพลังจิตวิญญาณี่ผสานกับอาวุธคู่กายซึ่งก็คือพิณโบราณเจ็ดสาย ี่ทอดตัวเป็นเส้นสายอันหนาใหญ่ สะบัดพัดพริ้วราวแส้สวรรค์กวาดม้วนเข้าใส่สีข้างของซุนหลง ซึ่งเป็นตำแหน่งช่องโหว่ี่เปิดว่าง!
หวังเถาเห็นเช่นนั้นก็พลันเบิกตาโพลง กล่าวขึ้นพร้อมกับโลหิตี่กระอักออกทางปาก
“ซุนหลง!”
หนึ่งเพลงขลุ่ยี่พันธนาการ และหนึ่งเพลงพิณี่ฟาดทำลาย สองการลือเสริมประสานของผู้ี่ถูกยกให้เป็นยอดฝีมือแห่งแคว้นหมื่นขุนเขา ไม่พบหนทางใดเลยี่ซุนหลงจะต่อต้านแลรับมือได้ทัน วิกฤตการณ์อีกระลอกของซุนหลงได้มาถึง!
เปรี้ยง!!!!!
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??