เรื่อง เส้นทางอสุรา
บที่ 15 พรแสวงี่ต้องคว้าก่อนพรสวรรค์
ร่างในอาภรณ์ม่วงครามฉินซูหนี่ว์มองร่างี่วูบไหวสุนัขฟ้าสวรรค์สามตาี่ทะยานมาแต่ไกล เพียงชั่วอึดใจร่างสูงใหญ่นั่นก็มาหยุดี่ข้างกายนาง มันหนุนศีรษะเข้าหาฝ่ามือี่เรียวงาม ฉินซูหนี่ว์ก็ลูบศีรษะมันพลางกล่าว่า
“ข้าไม่ไ้เสียดายหรอกนะ แต่การี่เจ้าเอาสำคัญหายากไปให้มันโดยไม่บอกวิธีการใช้เช่นนั้น มันะไ้ประโยชน์อันใด"
เจ้าสุนัขฟ้าสวรรค์สามตาพลันหอนขึ้นหนึ่งคราราวกับกำลังสื่อ่า คนผู้นั้นต้องทำไ้แน่ มันรู้สึกเช่นนั้น ก่อนี่ร่างใหญ่โตะเดินลิ่วไปหมอบนอนี่้าข้างเรือนพักผู้เป็นนาย
ฉินซูหนี่ว์มองตามสุนัขฟ้าสวรรค์สามตา เสมอมาสัตว์ี่มีพลังจิตวิญญาณสรรพสิ่งคู่กายตนนี้มิเคยทำอะไรโดยไร้แก่นสาร การี่มันเลือกเอายาลูกกลอนจิตวารีี่มีสรรพคุณในการเสริมพลังจิตวิญญาณไปให้ชายหนุ่ม อาจมีเหตุผลบางอย่างี่คนทั่วไปอย่างพวกนางมิอาจรู้ไ้ นึกถึงเรื่องนี้ก็พลอยทำให้นางคิดไปถึงท่าทางี่ทะนงตน รวมไปถึงความเด็ดเดี่ยวห้าวหาญี่ปลดปล่อยมาจากร่างชายหนุ่ม ตอนเป็นเด็กนางจำไ้ ประกอบกับข่าวคราวี่ไ้ยินหนาหู บุรุษหนุ่มผู้นี้สมควระอ่อนแอและอ่อนโยน นี่คือสิ่งี่มันดูเปลี่ยนไปในวันนั้น
“หวัง่าเจ้าะใช้ประโยชน์จากยาลูกกลอนจิตวารีไ้บ้าง สิ่งนี้อาจะช่วยกระตุ้นพลังจิตวิญญาณี่เหือดแห่งเจ้าให้เพาะบ่มขึ้นมา เริ่มต้นในขั้นตอนการเป็นทารก ดีก่าเป็นคนไร้ค่าตลอดไป… ข้าคงช่วยเจ้าไ้เพียงเท่านี้"
.
.
.
“ใช้จิตวิญญาณกลืนกิน?”
เฉินซือหยางกล่าวขึ้นด้วยหัวคิ้วี่ขมวดเป็นปม
จินเยว่จึงอธิบาย
“เพราะมิใช่ธรรมดาจึงมีวิธีการดูดซับี่ไม่ธรรมดา คนทั่วไปี่ไร้ความรู้ กลืนกินทางปากดูดซับี่ท้อง ประสิทธิภาพยาะเหลือแค่หนึ่งส่วนซึ่งนับเป็นี่น่าเสียดายอย่างแท้จริง… ี่ส่งเสริมพลังจิตวิญญาณ พื้นฐานย่อมเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ถ้าไม่โง่งมจนเกินไปก็อาจพอวิเคราะห์ไ้ การใช้จิตวิญญาณกลืนกินจึงะไ้ประสิทธิภาพสูงสุด"
“แต่พลังจิตวิญญาณข้ายังไม่ทะลวงขึ้นมาจากการเพาะบ่ม”
“ข้าบอกหรือ่าใช้พลังจิตวิญญาณ ข้าบอกเจ้า่าใช้แค่จิตวิญญาณต่างหาก ทุกชีวิตล้วนมีพลังชีวิตและจิตวิญญาณ นอกเสียจากคนตายจึงไม่มีจิตวิญญาณ"
เฉินซือหยางเป็นเพราะพึ่งมีโอกาสไ้สัมผัสกับสิ่งี่เรียก่าพลังจิตวิญญาณเป็นจริงเป็นจังก็ตอนนี้ มันจึงไม่ค่อยรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับพลังจิตวิญญาณเท่าใดนัก แต่เพราะไ้รับการถ่ายทอดและชี้แนะจากจินเยว่ ความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงโลกทัศน์มันจึงเริ่มเปิดออกเรื่อยๆ เรียนรู้ไ้มากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่วิธีการใช้จิตวิญญาณดูดซัพทรัพยากร้ำค่าก็เริ่มี่ะเรียนรู้และเข้าใจมากขึ้น
“อมไว้ี่ปากแต่ไม่กลืนลงท้อง พยายามเพ่งจิตรวบรวมลมปราณสัมผัสรส กลิ่น และการมีอยู่มัน จิตสัมผัส ลมปราณนำพา พลังจิตวิญญาณผู้คนมีฐานและต้นกำเนิดอยู่ี่หัวใจ เจ้าจงใช้จิตดูดซับสิ่งี่สัมผัสให้ไ้มากี่สุดและชักนำมันไปพร้อมกับลมปราณให้เคลื่อนสู่หัวใจตนเอง เพิ่มพูนลงไปี่จุดกำเนิดหรือแก่นฐานพลังจิตวิญญาณให้ไ้…”
จินเยว่อธิบายทุกขั้นตอนอย่างละเอียด เฉินซือหยางก็เรียนรู้และพยายามอย่างไม่ขาดตก ใช้ความฉลาดปัญญาตีความ ใช้จิตและลมปราณี่เข้มแข็งชักนำ ชายหนุ่มมันก็เริ่มรับรู้ถึงสิ่งสุดยอดี่กำลังแผ่ซ่านจากปาก ความเย็นชุ่มฉ่ำราวกับธารวารีี่ทะลักทลาย พลังี่ครุคลั่งราวกับทำนบถูกคลื่นตีแตก สิ่งนี้ล้วนปลดปล่อยมาจากยาลูกกลอนี่อมอยู่ในปาก ก่อนี่สัมผัสเ่านั้นะถูกชักนำให้ไหลเวียนสู่หัวใจ
จินเยว่สัมผัสทุกขั้นตอนี่ชายหนุ่มกำลังกระทำ เห็นความสามารถในการรับรู้ ทำความเข้าใจ และการปฏิบัติจริงชายหนุ่ม นางก็อดี่ะรู้สึกตกใจในภูมิปฏิภาณมันมิไ้ หากนางไม่รู้จักมันมาก่อน คงไม่เชื่อ่าชายหนุ่มเพียงพึ่งไ้เรียนรู้และลองปฏิบัติจริงเป็นหนแรก
ผู้ี่มีพลังจิตวิญญาณระดับสูงขึ้นไป ะสามารถสัมผัสรับรู้ถึงระดับพลังจิตวิญญาณผู้ี่มีพลังจิตวิญญาณระดับี่ต่ำก่าตน แต่ะไม่สามารถสัมผัสลึกไปถึงหัวใจี่เป็นแหล่งกำเนิดพลังจิตวิญญาณไ้ ด้วยเฉินซือหยางยังอยู่ในขั้นการเพาะบ่มพลังจิตวิญญาณี่หัวใจ มันจึงยังไม่ใช่ผู้มีพลังจิตวิญญาณเสียทีเดียว จินเยว่จึงสัมผัสไ้แค่่าชายหนุ่มสามารถดูดซับยาลูกกลอนจิตวารีถึงสิบส่วนไปแล้ว แต่ไม่รู้่าสิบส่วนนี้สามารถเพิ่มพูนพลังจิตวิญญาณี่กำลังเพาะบ่มในหัวใจมันไ้มากเท่าใด
ผู้ี่ะรู้ไ้มีเพียงผู้ี่เป็นเจ้าหัวใจเท่านั้น
ผ่านไปเนิ่นนานจินเยว่ค่อยถามขึ้น
“เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าเริ่มสัมผัสไ้ถึงต้นกำเนิดหรือแก่นฐานแห่งพลังจิตวิญญาณแล้วหรือยัง”
เฉินซือหยางพยักหน้า จินเยว่ก็ถ่ายทอดกระแสเสียงต่อไป่า
“จุดกำเนิดหรือแก่นฐานแห่งพลังจิตวิญญาณอยู่ี่หัวใจ หากให้เปรียบก็เหมือนภาชนะชิ้นหนึ่งี่ใช้รองน้ำ น้ำก็คือสรรพวิถีี่ส่งเสริม หรือไม่ก็คือทรัพยากร้ำค่าี่เพิ่มพูนพลัง หากเติมสิ่งเ่านี้ใส่ภาชนะี่รองรับจนเต็ม เมื่อนั้นพลังจิตวิญญาณก็ะถึงคราวพุ่งทะลวงจากการเพาะบ่มออกมา เจ้าในตอนนี้คงไ้เห็นภาชนะในใจตน ไ้รู้แล้ว่ามันเป็นเช่นไร และตอนนี้เริ่มเติมเต็มขึ้นมาบ้างแล้วหรือไม่”
เห็นสีหน้าี่มีรอยขมวดมุ่นชายหนุ่ม จินเยว่ก็นึก่ามันไม่เข้าใจในสิ่งี่ตนอธิบายเกี่ยวกับภาชนะเมื่อครู่ จึงอธิบายเพิ่มเติมไป่า
“บางคนเห็นเป็นลักษณะคล้ายจอกสุราใบเล็กๆ ดีขึ้นมาหน่อยคงมีลักษณะคล้ายชามหรือจาน ส่วนคนทั่วไปอาจะคล้ายตุ่มใส่น้ำ หรือหากมีพรสวรรค์ขึ้นมาอาจะคล้ายบ่อน้ำขนาดเล็ก อย่างเช่นตัวข้านั้นเมื่อตอนอายุไ้สามขวบ ไ้เห็นบึงี่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง หลังจากไ้อ่านคัมภีร์สรรพวิชาแลเคล็ดวิถีี่มารดาถ่ายทอด ข้าก็เห็น-่าฝนขนาดใหญ่ี่ตกภายในใจ จนสุดท้ายมันก็ท่วมบึงแห่งนั้นจนข้าสามารถทะลวงจากระดับแรกข้ามขั้นพลังจิตวิญญาณถึงสองระดับหลัก นี่ก็คือจุดเริ่มต้นการมีพลังจิตวิญญาณข้า”
พอไ้รับรู้่าจินเยว่อายุเพียงสามขวบก็สามารถมีพลังจิตวิญญาณเหนือสามัญไ้ อีกทั้งเป็นการทะลวงผ่านจากระดับแรกอีกต่างหาก มันก็ต้องอุทานออกมา
“ัมีเรื่องเช่นนี้ เพียงสามขวบ เพียงการทะลวงผ่านครั้งแรก ท่านับรรลุถึงระดับี่สามารถใช้อวดเบ่งทั่วแดนดาราพิภพไ้แล้ว”
“อย่างี่ข้าเคยบอก การี่อยู่ใกล้ดาราสุริยะมากเท่าไหร่ยิ่งมีผล… แต่นั่นก็ช่างเถอะ เจ้าพอเข้าใจในสิ่งี่ข้าอธิบายถึงภาชนะี่อยู่ในใจแล้วหรือยัง”
เฉินซือหยางเงียบไปชั่วขณะคล้ายครุ่นคิด ก่อนตอบ่า
“ข้าเข้าใจตั้งแต่แรก เพียงแต่ข้าไม่เห็นภาชนะหรือสิ่งี่ท่านเอ่ยมา"
เป็นจินเยว่ี่ขมวดคิ้วบ้าง แม้การเพาะบ่มพลังจิตวิญญาณชายหนุ่มมิไ้เกิดจากพลังชีวิตและพลังจิตวิญญาณนาง แต่นางก็ไ้ไปกระตุ้นให้สิ่งี่อยู่ในหัวใจมันเพาะบ่มพลังจิตวิญญาณขึ้นแล้ว เมื่อเข้าสู่ขั้นเพาะบ่มก็ต้องเห็นลักษณะภาชนะี่รองรับ
“แล้วเจ้าเห็นสิ่งใด?”
“ข้าเห็นเพียงแต่่า ยาลูกกลอนี่ข้าดูดซับเป็นดั่งหินก้อนหนึ่ง หินอันกระจ้อยร่อยี่มิอาจท่วมถม…”
เฉินซือหยางนึกถึงฝันตื่นหนึ่ง ฝันี่บัดนี้ปรากฏอยู่ในหัวใจมัน ก่อนกล่าวออกมา
“…มหาสมุทรี่ดำมืดไร้สิ้นสุด!”
ครานี้เป็นใบหน้าจินเยว่ี่มีรอยขมวดอย่างเห็นไ้ชัด มหานทีสีดำ สิ่งี่เกิดขึ้นบนแดนดาราสวรรค์ สิ่งี่มีลักษณะสีดำรีก้อนนั้น สิ่งี่มารดาถ่ายทอดและฝากฝังไว้
“หรือะเป็นโชคชะตาจริงๆ..."
“โชคชะตาอะไรหรือ?"
จินเยว่กล่าวเปลี่ยนเรื่อง
“ยาลูกกลอนจิตวารีนี้ความบริสุทธิ์ต่ำไปจึงมิไ้ผลหรือเหมาะสมกับเจ้า จงค้นหาและฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ ซักวันเจ้าอาจพบเจอสิ่งี่ะมาเติมเต็ม”
“ฟังจากี่ท่านอธิบาย ท่านมีสรรพวิถีและทรัพยากรส่งเสริมดี อีกทั้งยังอยู่ใกล้ดาราสุริยะนั่น แต่ี่นี่นั้น...”
“หรือเจ้าะยอมแพ้”
แววตาเฉินซือหยางทอประกายขึ้นมา
“ตราบใดี่ยังไม่อยู่ในจุดี่เหนือก่าคนี่คิดร้ายต่อข้าทั้งปวง ข้าไม่มีทางยอมแพ้ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ หรือต้องตกนรกทั้งเป็น ข้าก็ะยืนหยัดเหนือพวกมันให้ไ้”
“เจ้าคิดมีพลังเพื่ออยากเอาชนะ?”
เฉินซือหยางส่ายศีรษะ
“มีแต่แข็งแกร่งจึงะไม่ถูกรังแก มีแต่ต้องแข็งแกร่งจึงสามารถปกป้องคนี่รักไ้"
“ในจักรวาลล้านดาราี่สุดคณานับ ผู้คนต่างก็ต้องการแข็งแกร่งเพื่อชิงความเป็นหนึ่งเหนือจักรวาลทั้งมวลนี้ หากเป็นหนึ่งคิดใคร่ครอบครองสิ่งใดล้วนทำไ้เพียงกระดิกนิ้ว เจ้าไม่คิดถึงสิ่งนั้น"
“ลำพังปกป้องชีวิตตนและคนรักยังยาก ใยะฝันเฟื่องถึงเรื่องนั้น อีกอย่างข้าไม่ชอบี่ะคิดร้ายต่อผู้ใดก่อน เว้นเสียแต่่ามันผู้นั้นะขวางเส้นทางข้าหรือหมายหัวข้าเอาไว้ ข้าย่อมไม่ปล่อยมันเช่นกัน"
จินเยว่พินิจมองชายหนุ่มผ่านมิติคันฉ่อง พักใหญ่ค่อยถ่ายทอดกระแสเสียงออกมา
“เป็นความตั้งใจี่ดี”
แล้วนางก็ถ่ายทอดต่อไป่า
“พักเรื่องการเติมเต็มพลังจิตวิญญาณไปก่อน ป่านนี้มารดาเจ้าคงรอกินมื้อเย็นแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาทดสอบ่าเจ้าเข้าใจและเข้าถึงการฝึกเพลงดาบไร้อัตลักษณ์ทั้งห้ามากน้อยเพียงใด"
เฉินซือหยางไม่กล่าวแย้ง เพราะกลัวมารดาเป็นห่วงจึงรีบัไป ร่วมกินข้าวมื้อค่ำด้วยกันกับมารดาพักใหญ่ เฉินซือหยางก็ขอตัวมาพักผ่อน แต่ชายหนุ่มหาไ้ัห้องตนไม่ หลังจากเข้าสู่ห้วงมิติจินเยว่เพื่อส่งข้าวส่งน้ำนางเหมือนทุกครั้งเสร็จสรรพ มันก็ลอบออกมาี่ธารน้ำตกเช่นเคย
“เจ้าะฝึกต่อก็ตามใจ ส่วนข้าะนอนแล้ว”
เสียงจินเยว่ดังขึ้นมาในหัว จากนั้นก็เงียบหายไปไม่มีการเชื่อมโยงกับประสาทสัมผัสเฉินซือหยางอีก
้าเฉินซือหยางยืนทำสมาธิ โคจรพลังลมปราณในกายกระตุ้นพลังาาาอย่างเต็มี่ ก่อนคนะโจนทะยานวิ่งตะบึงในลำธาร ยิ่งวิ่งในน้ำ กำลังขาก็ยิ่งเพิ่มพูน ชายหนุ่มฝึก้ากายภาพทุกอย่างไม่่าะเป็น กำลังแขน กำลังขา หรือลำตัว เพื่อเพิ่มพูนและขัดเกลาพลังทางร่างกายตนให้แข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ นับแต่มันไ้รับไขกระดูกมังกรบรรพกาล ไ้สร้างรากฐานแห่งร่างกายใหม่ ไ้ฝึกพลังาาา ไ้เพิ่มพูนพลังลมปราณ มันก็รู้สึกถึงช่อง่างมันกับเ่าผู้มีพลังจิตวิญญาณขั้นพื้นฐานเช่นเ่าคนรับใช้ะลดลง าั้ความรู้สึกมันไ้เตือนมัน่า มันเหนือ้ำก่าเ่าคนรับใช้เพียงอาศัยแค่พลังาาาแล้ว
ยิ่งคิดยิ่งมีแรงฮึกเหิม จากี่วิ่งตัวเปล่าในน้ำ มันก็เริ่มี่ะแบกหินหนักเป็นร้อยชั่งเพื่อถ่วงน้ำหนักขณะวิ่ง ตอนแรกนับ่าฝืดเคืองเป็นอย่างมาก แต่ผ่านไปหลายชั่วยามมันก็เริ่มี่ะวิ่งหรือทะยานกายไ้คล่องขึ้น
เหลือเวลาไม่กี่ชั่วยามก็ะเป็นเช้าวันใหม่ ชายหนุ่มจึงหยุดการฝึกวิ่งแล้วมายืนสลับฟาดฟันดาบห้าเล่มใต้ธารน้ำตกอีกพักใหญ่ ก่อนะพักผ่อนด้วยการนั่งขัดสมาธิใต้ลำธาร เพ่งจิตรวบรวมพลังลมปราณฝึกปรือพลังาาาทุกวิถีทางอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ยิ่งมันเข้าสู่ห้วงสมาธิี่สมดุล การตีความ้าพลังลมปราณรวมถึงเพิ่มพูนพลังาาาก็ดูะรุดหน้าเป็นอย่างมาก
เวลาเพียงหนึ่งเดือนี่มันไ้เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเป็นจริงเป็นจัง ัเห็นผล้าพลังาาาอย่างัา
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??