เรื่อง ฮูหยินอัจฉริยะของราชายมโลก
มีู้คิดไป๋ี่จ้งหัวด้วยหรือ
มู่อวิ๋นฮว่านึกไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าจะมีหญิงสาวคนใดหมายปองคนอย่างไป๋ี่จ้งหัวผู้ถูกเลื่องลือว่าเป็นปีศาจกินคนและภูตผีกระหายเลือด ทั้งนางผู้นั้นยังเป็นสตรีรูปงามดุจเทพธิดาเก้าสวรรค์อีกต่างหาก ช่างน่าแปลกใจเหลือเกิน...
เห็นทีคงจะจริงดั่งคำโบราณว่าชายชาตรีย่อมเคียงคู่หญิงงาม!
มู่อวิ๋นฮว่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สายตาจดจ้องไปยังไป๋ี่จ้งหัวที่นั่งอยู่บนหลังม้าสูงสง่า คล้ายว่าเขาดูไม่สนใจหญิงงามผู้นั้นเท่าใดนัก
ไม่ผิดคาดเลย เพราะในวินาทีถัดมาก็ได้ยินเขากล่าวเสียงเย็นชา "เปิ่นหวางยังชอบให้คนอื่นเรียกข้าว่าหมิงอ๋องมากกว่า!"
เดิมทีจี้หรูเยว่ยินดียิ่งนักเมื่อได้พบไป๋ี่จ้งหัว ครั้นได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าของนางก็พลันแข็งค้างไปด้วยความอับอาย เหลือเชื่อ ก่อนกลายเป็นความผิดหวังในท้ายที่สุด
"เหตุใดท่านยังคงเป็นเช่นนี้..." น้ำตาของจี้หรูเยว่คลอเบ้า "ข้าไม่ดีตรงไหน ท่านถึงได้ผลักไสข้าไปแสนไกลถึงเพียงนี้ ข้าไม่เข้าใจ จ้งหัว ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ..."
แม้แต่ผู้หญิงอย่างมู่อวิ๋นฮว่ายังอดใจไม่อยากเข้าไปเช็ดน้ำตาให้นางไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางกลั้นน้ำตาเช่นนี้ ทว่าไป๋ี่จ้งหัวในฐานะพระเอกของเรื่องกลับทีท่าทีเฉยเมย คำพูดของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม
"เปิ่นหวางจะส่งทหารฝีมือดีไปคุ้มกันเจ้าจนถึงชายแดนของเรา ครั้งหน้าหากเจ้ายังจะมาที่ต้าซี ขอให้มาในฐานะทูตจะดีกว่า มิฉะนั้นหากถูกจับตัวไปอีก เปิ่นหวางอาจจะไม่มีความอดทนมากพอที่จะกลับไปช่วยเจ้าอีก" สิ้นคำไป๋ี่จ้งหัวก็หันหัวม้ากลับทันที โดยไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่ออีกแม้แต่นาทีเดียว
ท่าทีไร้เยื่อใยของเขาทำให้จี้หรูเยว่เดือดดาลเต็มที!
จี้หรูเยว่สูดลมหายใจลึก กลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา แล้วจ้องมองไปที่แส้ที่เขาชูขึ้นสูงพร้อมตะโกน "หยุด!"
ม้าที่กำลังจะยกกีบเท้าขึ้นถูกไป๋ี่จ้งหัวรั้งไว้ทันที พร้อมกับส่งเสียงร้องยาว
ไป๋ี่จ้งหัวปลอบม้าที่แตกตื่นโดยไม่หันหัวม้ากลับมาด้วยซ้ำ แม้แต่ร่างกายยังไม่ขยับแต่อย่างใด เพียงแค่เบี่ยงศีรษะไปทางด้านหลังเล็กน้อย น้ำเสียงของเขาแฝงแววรำคาญจาง ๆ จนแทบสังเกตไม่ได้ "ยังมีธุระอะไรอีก"
หญิงสาวเช็ดน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ ผลักคนที่คอยประคองนางออกไปแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนรวบรวมความกล้าถามออกไป "ไป๋ี่จ้งหัว หากท่านไม่ชอบข้าสักนิด เหตุใดจึงต้องมาช่วยข้าด้วย!"
"เหตุใด?" เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้นจากใต้หน้ากากของไป๋ี่จ้งหัว "เปิ่นหวางไม่ได้ช่วยเจ้า จี้หรูเยว่ แต่ช่วยสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิฝานอินต่างหาก"
"สตรีศักดิ์สิทธิ์..." จี้หรูเยว่ดูคล้ายจะสะเทือนใจแสนสาหัส "หากข้าไม่ใช่สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิฝานอิน แต่เป็นเพียงจี้หรูเยว่ ท่านจะมองข้าสักนิดหรือไม่"
ชายหนุ่มไม่ตอบ เพียงแค่เงียบไป
ชัดเจนอยู่แล้วว่าคำถามของจี้หรูเยว่นั้นไม่จำเป็น หากตอบกลับมาอาจจะดีเสียกว่า เพราะความเงียบที่นางได้รับนั้นโหดร้ายกว่าการตอบ!
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาของจี้หรูเยว่ การร้องไห้เงียบๆ นั้นดูน่าสงสารกว่าฟูมฟายเสียงดังเสียอีก "ข้าจี้หรูเยว่ไร้ซึ่งความสำคัญในสายตาของท่าน... หากข้าเป็นเพียงจี้หรูเยว่ ชีวิตและความตายของข้าล้วนสิ้นความหมายสำหรับท่าน แต่ข้าคือสตรีศักดิ์สิทธิ์ สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิฝานอิน จี้หรูเยว่จึงตายได้แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจตายได้อย่างนั้นสินะ"
"เหอะ ไม่สิ สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถตายได้เช่นกัน เพียงแต่จะต้องไม่ตายในอาณาจักรต้าซีของท่านใช่หรือไม่"
"ใช่" ไป๋ี่จ้งหัวยอมรับโดยไม่ลังเล "เปิ่นหวางไม่กลัวลัทธิฝานอินของเจ้า หากจะรบก็รบ! แต่ประชาชนต้าซีจะต้องไม่ทนทุกข์ทรมานจากสงครามอีก"
สงครามระหว่างต้าซีกับต้าโม่สิ้นสุดลงแล้ว ต้าซีจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู ไม่ใช่ก่อเรื่องวุ่นวายอีก
แม้แต่มู่อวิ๋นฮว่าที่เกลียดชังไป๋ี่จ้งหัว ในตอนนี้จิตใจของนางก็ยังสับสน ชายผู้นี้เย็นชาและโหดเหี้ยมถึงขีดสุด ในร่างของเขาอาจจะไม่มีแม้สักเศษเสี้ยวความเมตตา แต่สิ่งที่เขาทำนั้นกลับเป็นความโชคดีของต้าซีและความสุขของประชาชน...
ทว่าไม่ว่าในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เขาจะอยู่หรือตายก็ล้วนแต่เป็นคนที่เส็งเคร็งที่สุดทั้งสิ้น!
จี้หรูเยว่มองไป๋ี่จ้งหัว ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของนางกลับปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาฉับพลัน รอยยิ้มนั้นยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ ถึงมันจะดูงดงามจนหาที่เปรียบไม่ได้ แต่เสียงหัวเราะนั้นกลับแฝงไปด้วยความบ้าคลั่ง
"ฮ่าๆๆๆ ... ไป๋ี่จ้งหัว ท่านสมเป็นวีรบุรุษในสายตาของู้จริงๆ ในใจของท่านมีแต่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน มีแต่คุณธรรม มีแต่ประชาชนของท่าน ไม่มีข้าเลย ไม่มีข้าเลยสักนิด!!"
เมื่อเห็นท่าทางจวนเสียสติของนาง ไป๋ี่จ้งหัวเพียงสั่ง "ส่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ออกเดินทาง!"
กล่าวจบเขาก็ไม่เียวแลจี้หรูเยว่อีกต่อไป ดึงบังเหียนม้าเตรียมจะไป ส่วนทหารที่อยู่ข้างๆ ก็ขึ้นม้าตามกันไปหมดแล้ว มู่อวิ๋นฮว่าที่ดูละครอย่างสนุกสนานก็ไม่ยืนเฉยอีกต่อไป รีบวิ่งสองสามก้าวเพื่อจะขึ้นม้าของไป๋ี่จ้งหัว
ทว่าในจังหวะที่อยู่ห่างจากร่างสูงเพียงก้าวเดียว นางก็หยุดชะงักลงกะทันหัน สายตาของจ้องไปที่ผืนทรายสีเหลืองที่อยู่ตรงหน้าอย่างฉงนใจ
กระดาษสีเหลืองแผ่นหนึ่งถูกฝังอยู่ใต้พื้นทราย หากไม่ใช่เพราะมีมุมหนึ่งโผล่ออกมาและอักษรสีชาดบนกระดาษสีเหลืองมีสีตัดกับผืนทรายรอบๆ แม้แต่นางก็คงไม่สังเกตเห็น
ทำไมถึงมียันต์ที่นี่
มู่อวิ๋นฮว่าย่อตัวลงแล้วเอนศีรษะเล็กน้อย พยายามอ่านตัวอักษรสีชาดที่โผล่ออกมาครึ่งหนึ่ง นี่คือ...
คาถาตรึงร่าง!!
ชั่ววินาทีที่มู่อวิ๋นฮว่ารู้ น้ำเสียงคลุ้มคลั่งปนสิ้นหวังของจี้หรูเยว่ก็ดังลั่นใส่ไป๋ี่จ้งหัว "ไป๋ี่จ้งหัว เสียเปล่าจริงๆ ทั้งที่ข้ารักท่านมากมายเช่นนี้ ยอมแบกรับอะไรมากมายเพื่อท่าน แต่ในใจของท่านกลับไม่มีที่ว่างให้ข้าเลยสักนิด! ไป๋ี่จ้งหัว ท่านจะต้องเสียใจ ท่านจะต้องเสียใจ!!"
แม้ว่าไป๋ี่จ้งหัวจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจากคำพูดของจี้หรูเยว่แต่ก็สายเกินไปแล้ว
จี้หรูเยว่ท่องคาถาอย่างรวดเร็ว แล้วชี้มือไปทางไป๋ี่จ้งหัว พร้อมพูดทิ้งท้ายออกมาโดยไม่ลังเล "ตรึง!!"
ทันทีที่คำว่า "ตรึง" นี้หลุดออกไป กระดาษสีเหลืองก็ปรากฏขึ้นล้อมพวกไป๋ี่จ้งหัวเอาไว้ อักษรสีชาดบนกระดาษสีเหลืองนั้นแดงก่ำราวกับเลือด!
บรรดานายทหารตกอยู่ในวงล้อม บ้างจูงม้า บ้างหันหลังกลับ บ้างก็กำลังขึ้นม้า แต่ละคนยังคงอยู่ในท่าทางเดิม ร่างกายถูกตรึงราวกับถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราว
แม้แต่ไป๋ี่จ้งหัวที่นั่งอยู่บนหลังม้าก็ไม่ต่างกัน
ผ้าคลุมสีดำด้านหลังปลิวไสวไปตามลม แต่ตัวคนกลับขยับไม่ได้เลย!
"ท่านแม่ทัพ!!"
มีเพียงทหารองครักษ์ไม่กี่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ จี้หรูเยว่ที่รอดพ้นจากเคราะห์กรรม
ทว่าในขณะที่มู่อวิ๋นฮว่าคิดว่าพวกเขารอดพ้นแล้ว จู่ๆ ก็มี-่าธนูตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว กระหน่ำแทงพวกเขาจนกลายเป็นเม่นหนามและตายตกในทันที!
เมื่อเห็นเพื่อนร่วมรบล้มลงไปทีละคน นายทหารที่ถูกคาถาตรึงร่างไว้ก็เบิกตาโพลง เส้นเลือดบนขมับปูดโปนขึ้นด้วยความโกรธ!
ไอสังหารรุนแรงของไป๋ี่จ้งหัวแทบจะทะลุเก้าชั้นฟ้า!
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??