เรื่อง ขุนปราบสวาทกาม 18+
ขุนปราบกามสวาท
ตอนที่ 55 | สู่พิภพหิมพานต์
"เอ็งพร้อมแล้วใช่ไหมทัพ" พอเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึงพระอาจารย์คงก็ได้เตรียมเปิดประตูมิติ เพื่อที่จะให้ทัพเดินทางไปสู่พิภพหิมพานต์ขึ้นมา
"พร้อมแล้วขอรับพระอาจารย์" ทัพตอบพลางมองไปทางพระอาจารย์คงที่ยืนอยู่ด้านหน้าของัเอง โดยที่มีคำแก้วยืนอยู่ข้างๆ กายด้วย ซึ่งตอนนี้ทั้งสามคนก็ยืนอยู่ตรงกลางป่า จุดเดียวกันกับที่พระอาจารย์คงชอบมานั่งเข้ากรรมฐาน
"เห็นอะไรก็อย่าได้ตกใจไป ไว้เปิดประตูเสร็จแล้วข้าจะอธิบายให้เอ็งฟังเอง" จากนั้นพระอาจารย์ก็หันมาพูดกับทัพอีกครั้ง ก่อนที่จะหันกลับไปมองทางเดิม แล้วเริ่มบริกรรมคาถาา่าขึ้นมา
ในตอนที่พระอาจารย์เริ่มบริกรรมคาถาขึ้นมานั้น ก็เกินลมหวนพัดไปทั่วทั้งบริเวณนั้น พาเอาใบไม้ปลิวไสวไปทั่วทั้งบริเวณนั้น จากนั้นที่ัของพระอาจารย์คงก็เกิดแสงสีเขียวออกเป็นออร่าขึ้นมา ก่อนที่ร่างกายของพระอาจารย์คงจะค่อยๆ แปลเปลี่ยนไปทีละนิดทีละนิด จากร่างหายของมนุษย์สู่ร่างของพญานาคสีขาวละเอียดทั้งั ที่กำลังขดัอยู่ตรงหน้าของทัพและคำแก้ว
"......" ทั้งคู่ที่ได้เห็นแบบนั้น ก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครรู้เลยว่าพระอาจารย์คงนั้นเป็นพญานาคแบบนี้ แม้กระทั่งทัพที่ร่ำเรียนวิชากับเขามาตั้งแต่เด็ก ยังไม่รู้เลยว่าพระอาจารย์คงนั้นมีความลับแบบนี้ซ่อนอยู่ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะไม่อยากรบกวนสมาธิของพระอาจารย์คงที่กำลังบริกรรมคาอยู่
หลังจากที่พระอาจารย์คงบริกรรมคาถา่ไปได้สักพัก ก็มีแสงสีเขียวอ่อนรูปวงกลมปรากฏที่ด้านหน้าของทั้งสามคน ซึ่งที่ใจกลางขอวงกลมนั้นก็เป็นสารสีดำสนิทที่กำลังหมุนเป็นเกลียวคลื่นอยู่ ลมหวนที่เคลื่อนัอยู่รอบๆ ทั้งสามคนเองก็เริ่มหมุนวนรุนแรงขึ้นเช่นเดียวกัน จากนั้นพระอาจารย์คงที่อยู่ในรูปลักษณ์ของพญานาคก็ค่อยๆ หันหน้ามามองทัพกับคำแก้ว
"ล่ำลากันให้เรียบร้อย ข้าตรึงมันไว้ได้ไม่นานเท่าไหร่หนัก" พร้อมกับพูดกับทั้งสองคน
"อยู่ทางนี้ดูแลัเองดีๆ นะคำแก้ว พี่จะรีบไปรีบกลับ ถ้าหากว่านารีฟื้นขึ้นมาแล้วก็รอพี่อยู่ที่นี่ ไม่ต้องตามพี่เข้าไป" หมับ!!! ยังไม่ทันที่ทัพจะพูดจบ คำแก้วก็เ้าาสวมกอดเขาซะก่อน นางสวมกอดทัพเอาไว้แน่นมาก พร้อมกับเอาใบหน้าสวยที่อาบไปด้วยน้ำตาซุกลงไปที่แผงอกของเขา
"น้องจะรอ จะรอพี่ เพราะฉะนั้นพี่จะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยรู้ไหม" จากนั้นนางก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงสะอื้น ทัพที่ได้ฟังแบบนั้น ก็ขยับมือขึ้นมาลูบหัวนาง
"พี่รักเจ้านะคำแก้ว" จากนั้นเขาก็พูดพร้อมกับประทับจูบลงไปที่กลางหน้าผากของนาง
"น้องก็รักพี่เหมือนกันพี่ทัพ" นางเองก็ตอบเขากลับไปด้วยประโยคเดียว จากนั้นทัพก็ขยับัออกมาจากอ้อมแขนของนาง ก่อนที่จะเดินตรงไปยังประตูมิตินั้น โดยที่มีคำแก้วมองไล่หลังตามมาอย่างไม่ละสายตา
"เอ็งจำทุกอย่างที่ข้าบอกได้ใช่ไหมทัพ" ทัพที่ได้ฟังแบบนั้น ก็หันไปพยักหน้ารับคำพูดของพระอาจารย์
"ถ้าอย่างนั้นเอ็งก็ออกเดินทางได้เลย" พระอาจารย์คงที่ได้ฟังแบบนั้น ก็พูดกับเขาอีกครั้ง จากนั้นทัพก็ค่อยๆ ก้าวขาเดินตรงเข้าไปยังประตูมิตินั้น พลั่บ!!!!!
ทันทีที่เขาเดินเข้าประตูมิติไป แสงสว่างก็สว่างวาบขึ้นมาทันที ทำเอาเขามองอะไรไม่เห็นนอกจากแสงสีขาวที่สว่างวาบขึ้นมา ก่อนที่แสงสว่างนั้นจะค่อยๆ หรี่ลง เผยให้เขาเห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้า ภาพที่เขาเห็นในตอนนี้ก็คือ เขานั้นอยู่บนหน้าผาสูงแห่งหนึ่ง ที่เบื้องหน้าเป็นทะเลกันแสนกว้างใหญ่ และด้านหลังเป็นป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูง และท้องฟ้าอันแทนกว้างใหญ่ ที่มีนกที่เขาไม่เคยเห็นกำลังกางปีกบินอยู่
"ทางนั้นสินะ" ทัพที่หันหน้ามองไปรอบๆ ัเพื่อหาอะไรา่าตามที่พระอาจารย์บอกไว้ก็พึมพำขึ้นมา หลังจากที่หาซึ่งนั้นเจอแล้ว ซึ่งมันก็คือต้นไม้ที่สูงที่สุด ณ ที่แห่งนี้นั้นเอง ตามคำบอกของพระอาจารย์ ต้นไม้ที่สูงตระหง่านจนสังเกตเห็นด้วยตาเปล่าทันทีที่ไปถึงพิภพหิมพานต์นั้นคือต้นครองพิภพ ซึ่งนั่นก็คือสถานที่ที่ทัพต้องมุ่งหน้าไป เพราะสถานที่ที่ต้นไม้ต้นนั้นตั้งอยู่ คือกลางอาณาจักรผืนป่า บ้านเกิดของนารีนั่นเอง
"สีนิลออกมา" ทัพที่เห็นทางที่ัเองต้องเดินทางไปแล้ว ก็เรียกเจ้าสีนิลออกมาทันที พลั่บ!!! เจ้าสีนิลที่ได้ฟังแบบนั้น ก็ปรากฏกายขึ้นมาทันที ซึ่งมันก็ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก เพราะนี่มันคือครั้งแรกเลย ที่มันได้มายังพิภพหิมพานต์
"ไปกันเถอะเจ้าสีนิล" ทัพที่เรียกเจ้าสีนิลออกมาแล้วก็ขึ้นไปขี่มัน แล้วควบมันเข้าป่าไป
พระอาจารย์คงได้กำชับทัพมาหลายอย่าง หนึ่งในหลายสิ่งที่เขากำชับมาก็คือ ห้ามลงไปในทะเลเด็ดขาดไม่ว่าอะไรก็ตาม เพราะทะเลทุกที่คืออาณาเขตของเผ่าวารี ซึ่งเผ่าวารีก็เป็นพวกที่หวงอาณาเขตเป็นอย่างมาก ทัพก็เลยต้องขี่เจ้าสีนิลอ้อมเขาไปยังต้นครองพิภพแทน ทัพที่ควบเจ้าสีนิลเข้าป่ามาได้สักพัก ก็มองดูสิ่งต่างๆ รอบัไปด้วย ซึ่งเขาก็แทบไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดๆ เลย ทั้งที่ตอนนี้เป็นตอนเช้าแท้ๆ
โคร่ม!!!!! แต่พอทัพได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา พร้อมกับแรงสั่นสะเทือน ที่พาเอาผืนป่าสั่นไหวไปทั่วทั้งป่าทั้งป่าทัพก็เข้าใจ ว่าทำไมทั่วทั้งผืนป่าถึงเงียบขนาดนี้ และถ้าสิ่งที่เขาคิดไม่ผิด ดูเหมือนว่าแรงสั่นสะเทือนนี้จะเกิดจากการต่อสู้ของ จ้าวแห่งเวหา และเจ้าแห่งวารี ซึ่งมันก็ทำให้ทัพรู้ได้ในทันทีเลยว่า ทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
"อว๊าก!!!!!!" แต่ทว่าในจังหวะที่ทัพกำลัง-วยเจ้าสีนิลลึกเข้าไปในป่านั้น กลับมีัอะไรา่าพุ่งตรงเ้าาหาเขาด้วยความเร็วสูง พร้อมกับง้างกรงเล็บอันแหลมคมพุ่งตรงมาที่ลำคอของเขา สวบ!!!! ซึ่งทัพก็หลบมันได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนที่จะหันไปมองดูมัน ที่พุ่งไปอยู่บนพื้นด้านหลังของเขา ทัพจึงได้เห็นว่ามันคือลิงัหนึ่ง ที่มีท่อนแขนใหญ่มากๆ และมีกรงเล็บอันแหลมคมอยู่ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง
"อ๊าก!!!!" จากนั้นเจ้าลิงันั้นก็กระโจนขึ้นมาหาทัพอีกครั้ง สวบ!!!! แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้ทำอะไรทัพ เขาก็ชักดาบออกมาจากฝัก แล้วเคลือบใบดาบด้วยพญาเหล็กไหลจนเป็นสีดำสนิท จากนั้นเขาก็เอาดาบเล่มนั้นฟาดฟันเข้าไปที่มัน จนลิงันั้นขาดครึ่งท่อนไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
"เจ้านี่ภูตวิเศษสินะ" จากนั้นทัพก็พึมพำขึ้นมาหลังจากที่เห็นว่าร่างกายของลิงันั้นค่อยๆ สลายหายไปหลังจากที่มันตาแล้ว ซึ่งภูติวเศษนั้นจะแตกต่างกับสัตว์วิเศษตรงที่พวกมันไม่มีร่างเนื้อ ร่างเนื้อที่เห็นนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากดวงจิต พอดวงจิตของพวกมันสูญสลาย ร่างเนื้อของพวกมันเลยสูญสลายไปด้วย
"ย๊า!!!" จากนั้นทัพก็ควบเจ้าสีนิลมุ่งหน้าตรงเข้าไปในป่าอีกครั้ง ด้วยความเร็วที่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะอีกหนึ่งในสิ่งที่พระอาจารย์คงกำชับเขาไว้ก็คือ ห้ามเดินทางในป่าตอนกลางคืนเด็ดขาด เพราะมันเป็นเวลาออกล่าของสัตว์นักล่า ซึ่งทัพก็ไม่อยากเสียงแรงต่อสู้กับพวกมัน เขาก็เลยเร่งให้เจ้าสีนิลวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้ายิ่งเขาเดินได้ไวเท่าไหร่ เขาก็จะถึงอาณาจักรผืนป่าเร็วเท่านั้นด้วย
ซึ่งแผนที่ทัพวางเอาไว้ก็คือ เอาเรื่องของดวงใจแห่งป่าไปแจ้งกับคนในเผ่าของนารี แล้วขอกำลังคนของอาณาจักรผืนป่าไปช่วยบุษบาที่อาณาจักรปฐพี เพราะนั่นเป็นสิ่งที่สมควรทำที่สุด เดิมทีเขาวางแผนเอาไว้ว่าจะตรงไปที่อาณาจักรปฐพีเลย แต่พระอาจารย์คงห้ามไม่เขาทำแบบนั้น เพราะการต่อสู้กับคนทั้งอาณาจักรด้วยัคนเดียวมันเสี่ยงเกินไป เขาก็เลยเลือกที่จะไปขอความช่วยเหลือจากคนของอาณาจักรผืนป่าแทน
"......." แต่ดูเหมือนว่าการเดินทางของทัพจะช้าลงกว่าที่เขาวางแผนเอาไว้ เพราะที่ด้านหน้าของทัพในตอนนี้ มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังง้างคันธนูเวทมนตร์เล็งมาที่เขาด้วยจิตรสังหารอันแรงกล้า
"เจ้าเป็นใครกัน เ้าาที่ได้เยี่ยงไร" พลั่บ!!! และก็ดูเหมือนว่านางจะไม่ต้องการคำตอบของคำถามนั้น เพราะยังไม่ทันที่ทัพจะได้ตอบอะไร ลูกศรวิญญาณที่อัดแน่นไปด้วยพลังเวทย์ก็พุ่งตรงเ้าาหาเขาด้วยความเร็วสูงแล้ว
โปรดติดตามตอน่ไป
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??