เรื่อง ขุนปราบสวาทกาม 18+

ติดตาม
ตอนที่ 33 | ผู้กำชัย
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

ขุนป๫า๹กาม๧๯า๡

ตอนที่ 33 | ผู้กำชัย


หลังจากที่ทัพช่วยชำระล้างวิญญาณร้ายออกจากร่างกายของคุณหญิงมณีจันทร์ และเจ้าปิ่นแก้ว ก็ผ่านมาได้ราวๆ สัปดาห์กว่าแล้ว ซึ่งตลอดหนึ่งสัปดาห์กว่านี้ ทัพก็ได้เข้าร่วมทัพของพระยาเดชา เพื่อช่วยทำศึกกับทหารพม่า เขานั้นได้เข้าไปเป็นหัวหน้ากองทะลวงฟันคนใหม่เป็นการเฉพาะสำหรับการทำศึกในครั้งนี้ ถึงแม่เขาจะเกลียดการฆ่าคน แต่เมื่อยามศึกนั้นมันต่างออกไป เพราะถ้าทัพไม่ฆ่า ชาวบ้านที่นี่ และทหารของที่ก็อาจจะถูกฆ่าตายได้ ซึ่งมันอาจจะส่งผลไปถึงความมั่นคงของพระนครด้วย

"เอายังไงต่อดีขอรับท่านขุน" นายทหารหนุ่มหนึ่งในสมาชิกของกองทะลวงฟันที่ดักซุ่มอยู่ด้วยกันกับทัพถาม พลางกำดาบในมือของตัวเองไว้จนแน่น

ศึกในครั้งนี้มันดำเนินมาเกือบเดือนก่อนทัพมาถึงที่นี่ด้วยซ้ำ ทั้งทหารพม่า ทหารล้านนา และทหารสยามต่างได้รับบาดเจ็บและล้มตายกันไปมาก ซึ่งครั้งนี้มันจะเป็นศึกสุดท้ายแล้ว เพราะต่างฝ่ายต่างเหลือกำลังไพร่พลไม่มาก ถึงทหารของฝั่งสยามและล้านนาจะเป็นรองด้านกำลังพลก็ตาม ทัพก็เลยได้แบ่งทหารจากกองทะลวงฟันมาส่วนหนึ่ง ซึ่งเขาก็ตั้งใจที่จะเข้าไปขนาบข้างทัพหลักของพม่า เพื่อเป็นการตัดกำลังทหาร ทางด้านของพระยาเดชาจะได้ตีทัพหลักได้แตกง่ายขึ้น

"รอก่อน" ทัพหันไปตอนนายทหารที่ถาม พร้อมกับกำด้ามดาบแน่นไม่แพ้กัน เขานั้นแบ่งทหารกองทะลวงฟันออกมาราวๆ 10 นาย จากที่มองดูทัพฝั่งตะวันของพม่าที่ทัพต้องการทะลวงเข้าไปตีนั้น มีทหารราวๆ 50 กว่านาย นั่นหมายความว่าทหารหนึ่งคนของเขา ต้องรับกับทหารของพม่าราวๆ 5 คน แต่ก็คงไม่เป็นไร เพราะทหารทุกคนในกองทะลวงฟันล้วนแต่เป็นทหารที่เก่งกาจ การรับมือต่อศัตรู 5 คน เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ พลธนูนั้นอยู่ใกล้กับทัพฝั่งตะวันตกนี้มาก ถ้าเข้าไปก็มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่พลธนูจะยิงธนูใส่เพื่อสนับสนุน แต่เขานั้นไม่มีทางเลือกแล้ว เพราะแผนนี้เป็นแผนที่ดีที่สุด เขาก็เลยขยับริมฝีปากท่องคาถากำบังกายให้กับกองทหารของเขา เพื่อให้ทัพทหารพม่ารับรู้ถึงการมีอยู่ของพวกให้ช้าที่สุด

"ข้าจะนำเข้าไปก่อน ข้าใช้คาถากำบังกายให้พวกเอ็งแล้ว วิ่งตามข้ามาได้เลยไม่ต้องกลัว" พอพูดจบทัพก็ลุกขึ้นจากโพรงหญ้าที่วซ่อนตัวอยู่ จากนั้นเขาก็ยกดาบขึ้นมาเพื่อเป็นสัญญาณ

"ย๊า!!!!!" แล้ววิ่งนำทหารทั้ง 10 นายเข้าสู่สนามรบ ซึ่งทหารพม่าก็ไม่สังเกตถึงการมีอยู่ของพวกเขาเลย

สวบ!!!!! กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่คมดาบเข้ามาประชิดที่คอแล้ว คมดาบที่ฟาดฟันผ่านไปนั้น มันทำเอาหัวของทหารพม่าหลายคนหลุดออกจากบ่า พร้อมกับเลือดสีแดงสดที่พุ่งออกมาจากเส้นเลือดใหญ่ที่คอ หลังจากที่หัวหลุดออกจากบ่า เคล้ง เคล้ง เคล้ง จากนั้นทหารพม่าที่รู้ตัวแล้วว่าตัวเองถูกโจมตี ก็เข้ามาสู้กับกองทะลวงฟันของทัพทันที ทำเอาเสียงดาบกระทบกันดังลั่นไปทั่วบริเวณนั้น

"ยิง!!!!!!" ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่ทัพคาดการณ์เอาไว้ เพราะกองธนูที่อยู่ใกล้ๆ นั้น พากันง้างธนูยิงสนับสนุนมากทางนี้เป็น-่าฝน สวบ สวบ สวบ ซึ่งมันก็มีทหารในกองของเขาบางนาย ที่หลับลูกธนูพวกนั้นไม่พ้น แล้วพลาดท่าโดนทหารพม่าโจมตี

"สีนิล!!!!!" เขาที่เห็นแบบนั้น ก็วิ่งตรงไปหากองธนูทันที พร้อมกับเรียกเจ้าสีนิลไปด้วย สิ้นเสียงของเขาเจ้าสีนิลที่มาในรูปลักษณ์ของควันสีดำ ก็มาปรากฏขึ้นที่หว่างขาเขา ก่อนที่จะกลายร่างเป็นม้าสีดำ แล้ววิ่งตรงไปยังพลธนูตามคำสั่งของทัพ ทัพที่ควบมันอยู่ก็กำมือแล้วท่องคาถาไปด้วย

"หมัดธนูมือ!!!!!" จากนั้นเขาก็ปล่อยหมัดชกเข้าไปที่อากาศเต็มๆ พลั่บ!!!!! ซึ่งมันก็เกิดแรงอัดอากาศมหาศาล ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแรงดันลม แล้วพุ่งตรงไปหายังกองทหารธนูที่ง้างลูกศรใส่เขาอยู่ ตู้ม!!!!! นายทหารพลธนูกว่าสิบคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็โดนหมัดธนูมือของทัพเข้าไปเต็มๆ ก่อนที่จะพากันกระเด็นถอยหลังไปตามแรงกระแทก แล้วสิ้นสภาพต่อสู้ไป

แต่ทว่ากลับมีม้าตัวหนึ่งกระโจนออกมาจากร่างหมดสติของกองทหารธนูนั้น ซึ่งบนหลังของม้าตัวนั้นก็มีนายทหารพม่าขี่อยู่ และเขาก็กำลังง้างธนูมาทางทัพ พร้อมกับท่องคาถาไปด้วย พลั่บ!!!!! ลูกศรมันถูกยิงออกมาด้วยความเร็วสูง จนตาของทัพนั้นมองไม่ทัน แต่อันที่จริงแล้วตาเขานั้นไม่ได้มองไม่ทันที เพียงแต่ว่ามันหายไปเลยต่างหาก สวบ!!!! และกว่าที่ทัพจะรู้ตัว คมของลูกธนูก็ปักเข้ามาที่กลางอกเขาแล้ว เพียงแต่ว่ามันไม่เข้าเนื้อเขาเท่านั้นเอง

"เอ็งเป็นจอมขมังเวทย์สินะ" นายทหารพม่าที่เห็นแบบนั้น ก็พึมพำขึ้นมา

"เอ็งก็เป็นจอมขมังเวทย์เหมือนกันไม่ใช่หรือ" ทัพตอบเขากลับไปด้วยคำถาม ก่อนที่ควบเจ้าสีนิลไปประจันหน้าเขา เพราะเท่าที่ดูจากการแต่งกายของเขาที่แตกต่างจากนายกองคนอื่นๆ เขานั้นจะต้องเป็นทหารคนสำคัญแน่ๆ

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอผู้มากฝีมือในศึกเล็กๆ แบบนี้" พอพูดจบเขาก็ขว้างธนูในมือทิ้งไป แล้วชักดาบออกมาจากฝักทันที ซึ่งใบดาบเล่มนั้นก็เต็มไปด้วยอักขระอาคม

"ย๊า!!!!!!" จากนั้นเข้าก็ควบม้าตรงเข้าไปหาทัพ พร้อมกับง้างดาบไปด้วย หมายมั่นจะเอาชีวิตของทัพให้ได้

"ย๊า!!!!!" ทัพที่เห็นแบบนั้น ก็ควบเจ้าสีนิลตรงเข้าไปหาเขาแบบไม่เกรงกลัวเช่นเดียวกัน

เคล้ง!!!!! ในการโจมตีครั้งแรกนั้น คมดาบของทั้งคู่เข้าปะทะกันอย่างจัง แต่ดูเหมือนว่าทัพจะเป็นต่ออยู่นิดหน่อย เพราะว่ากำลังในการกวัดแกว่งดาบของเขานั้นมีมากกว่า แขนของทหารนายนั้นก็เลยชาขึ้นมาเพราะแรงปะทะ แต่ทว่าเขานั้นยังไม่ยอมให้มันจบเพียงเท่านี้ เพราะราคาที่ผู้พ่ายแพ้ต้องจ่ายนั้นคือชีวิต

"ย๊า!!!" เขาก็เลยควบม้าหันกลับมาหาทัพอีกครั้ง พร้อมกับง้างคมดาบเตรียมปะทะกับทัพไปด้วย

"ย๊ๅา!!!" ทัพเองก็หันหัวเจ้าสีนิลกลับไปหาเขาเช่นเดียวกัน

สวบ!!!! นายทหารพม่าที่ออกดาบได้เร็วกว่า ก็ฟาดฟันเข้าไปที่กลางลำตัวของทัพอย่างเต็มแรง พลั่บ!!!!! แต่ทว่าทัพกลับเอนตัวลงไปนอนนาบกับหลังเจ้าสีนิล แล้วหลบการโจมตีนั้น จากนั้นเขาที่ลุกขึ้นมา ก็ง้างดาบฟันเข้าไปที่แผ่นหลังของทหารนายนั้น สวบ!!!!! ซึ่งมันก็เข้าไปที่แผ่นหลังของเขาอย่างจัง ทำเอาเสื้อขาดไปตามรอยฟัน พร้อมกับแผลจากคนมีดที่ปรากฏขึ้นมากลางแผ่นหลัง และเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาจากแผลของเขา

"อั่ก!!!! ฮ่าส์ ฮ่าส์" เขาที่รู้ว่าตัวเองโดนฟันก็หายใจหอบออกมาถี่ๆ พลางมองดูดาบในมือของทัพไปด้วย "ดาบเหล็กไหลเช่นนั้นรึ" ก่อนที่จะพึมพำออกมา เพราะเขาเองก็มีวิชาคงกระพันเช่นกัน

"ดูเหมือนเอ็งจะแพ้ข้าแล้วนะ" ทัพพูดพลางสะบัดดาบลงไปที่พื้น พาเอาเลือดของเขาที่ติดใบดาบอยู่กระเซ็นลงไปที่พื้นดินเป็นทาง

"ความพ่ายแพ้สำหรับข้า มีแค่ความตายเท่านั้น" นายทหารคนนั้นตอบ "ย๊า!!!!!!" จากนั้นเขาก็ควบม้าเข้ามาหาทัพอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาก็หมายมั่นที่จะฆ่าทัพให้ได้ เพราะแรงที่เขาอยู่มันสามารถโจมตีทัพได้อีกเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

"ถ้าเอ็งร้องขอความตายขนาดนั้น ข้าก็จะเป็นสังหารเอ็งเอง ย๊า!!!!!" พอพูดจบทัพก็ควบเจ้าสีนิลตรงเข้าไปหาเขาอีกครั้ง

"ย๊าาาาาาาา" นายทหารคนนั้น ควบม้าอย่างเต็มกำลัง พร้อมกับง้างดาบเพื่อเตรียมฟันทัพอย่างสุดกำลังไปด้วย แต่ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้ฟาดฟันคมดาบออกไป ก็มีควันสีดำขึ้นมาปกคลุมตัวทัพ พร้อมกับเจ้าสีนิลที่หายไป

"ย๊า!!!!!" เหลือเพียงแค่ทัพ และคมดาบที่พุ่งออกมาจากควันนั้น สวบ!!!!!!! ซึ่งคมดาบของทัพมันก็ฟันผ่านร่างของเขาไป ทำเอาเขาสิ้นใจในทันที ซึ่งในจังหวะที่ทัพสังหารทหารคนนั้นได้ เสียงกลองชัยก็ดังสนั่นขึ้นมาไม่ขาดช่วง เป็นสัญญาณว่าพระยาเดชา สามารถสังหารแม่ทัพของอีกฝ่ายได้เลย ทัพก็เลยชูแขนข้างที่กำดาบอยู่ขึ้นชี้ไปบนฟ้า

"ย๊า!!!!!!" พร้อมกับกู่ร้องไปด้วย เช่นเดียวกับทหารในกองของเขา และทหารของฝ่ายที่รับชัยทุกคน เพื่อเป็นการฉลองชัยชนะ เพราะมันหมายความว่าพวกเขาปกป้อนแผ่นเอาไว้ได้ และชีวิตที่ต้องสละไปในสงครามครั้งนี้ ก็ไม่ได้สละไปอย่างเ๼ี๾เป๣่า


โปรด๻ิ๪๻า๬ตอน๺่๬ไป

ตอนต่อไป
ตอนที่ 34 | ความกระสันของสองสา...

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา