เรื่อง ขุนปราบสวาทกาม 18+
ขุนปากามา
ตอนที่ 7 | รสาแม่หญิงจันทร์วาด
"แม่หญิงได้ยินฉันหรือใหม่" ทัพที่เห็นว่าจันทร์วาดลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว ก็ถามขึ้นพลางมองหน้าสบแววตาคู่สวยของนางไปด้วย
"ท่าน....เป็นผู้ใดกัน..." นางที่ได้ฟังแบบนั้นก็ตอบทัพกลับไปด้วยเสียงแผ่วเบา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบหน้าทัพ ส่วนทัพที่เห็นว่ายังพอมีสติอยู่ก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย เพราะดูเหมือนว่านางจะยังไม่ถูกคุณไสกลืนกินสติไป
"ท่าเจ้าเมือง คุณหญิง กระผมขอคุยกับแม่หญิงจันทร์วาดเป็นการส่วนตัวสักประเดี๋ยวจะได้หรือไม่" จากนั้นเขาก็หันกลับไปพูดกับท่านเจ้าเมือง และเองภรรยาของนางที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งสองที่ได้ฟังแบบนั้นก็มองหน้ากันอยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบรับคำขอของทัพ แล้วเดินออกจากห้องนอนของจันทร์วาดไป
"ฉันมีชื่อว่าทัพ เป็นคนที่จะมาช่วยรักษาสิ่งที่แม่หญิงเป็นอยู่ในตอนนี้" พอท่านเจ้าเมืองและคุณหญิงเดินออกจากห้องไปแล้ว ทัพก็หันกลับมาพูดกับจันทร์วาด
"...ท่าคือขุนกระทิงนี่เอง...ฉันจะไม่ตายใช่ไหมเจ้าคะ.." จันทร์วาดที่ได้ฟังแบบนั้น ก็ถามทัพกลับไปด้วยเสียงแผ่วเบา พลางทำท่าจะขยับตัวขึ้นมานั่งมานั่งไปด้วย ทัพที่เห็นแบบนั้นก็เลยช่วยประคองร่างบางอันไร้เรี่ยวแรงของนางขึ้นมานั่งเอนหลังพิงหัวเตียง ก่อนที่จะลงไปนั่งบนเตียงข้างๆ นาง
"ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ยอมให้แม่หญิงต้องตายเป็นอันขาด ที่แม่หญิงต้องเจ็บป่วยอยู่ในตอนนี้ ก็เพราะว่าโดนคุณไสยที่มีชื่อว่ามนต์นากินี ในตอนนี้ก็ยังพอที่จะล้างคุณไสยนี้ออกไปได้ เพียงแต่ว่า...." ทัพที่พูดมาถึงตรงนี้ก็เงียบไปครู่หนึ่ง
".....แต่ว่าอะไรหรือเจ้าคะท่านขุน...." จันทร์วาดที่ได้ฟังแบบนั้น ก็ถามเขากลับไปด้วยเสียงแผ่วเบา เพราะกลัวว่าตัวเองจะต้องตาย
"สิ่งที่จะใช้รักษาแม่หญิงได้ มีเพียงแค่เกล็ดของนางพญางูขาวเท่านั้น แต่กว่าที่ฉันจะไปเอาเกล็ดนางพญางูขาวมาทำยาให้แม่หญิงได้ ตอนนั้นแม่หญิงก็คงจะ......." ทัพนั้นไม่กล้าพูดเรื่องที่นางจะกลายเป็นงู เพราะไม่อยากให้นางกังวลก็เงียบไป
"ฉันคงทำบุญมาเท่านี้" จันทร์วาดที่ได้ฟังแบบนั้น ก็ตัดพ้อออกมา
"ฉันสัญญาแล้วไงว่าฉันจะช่วยแม่หญิงให้ได้ ฉันสามารถทำให้คุณไสยที่เล่นงานแม่หญิงอยู่อ่อนแรงลงได้ แต่ว่าแม่หญิงจะต้อง.....เสพสังวาสกับฉัน" จันทร์วาดที่ได้ฟังแบบนั้น ก็เงยหน้าขึ้นมาสบสายตาทัพทันที ก่อนที่จะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เพราะถ้าทำแบบนั้นหมายความว่านางจะต้องมอบความบริสุทธิ์ให้ชายคนนี้ ชายผู้ที่พึ่งเคยพบหน้าวันนี้เป็นครั้งแรก
"ฉันจะทำ ฉันจะทำมัน" แต่นางก็เลือกที่จะตอบรับคำพูดของเขา เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้นางมีชีวิตรอด่ไปได้ ทัพที่ได้ฟังแบบนั้นก็ขยับมือไปกุมมือนางเอาไว้อย่างอ่อนโยน
"ฉันสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องไปพูดกับใคร แม่หญิงจะไม่เสียหายเพราะเรื่องนี้ ฉันจะมาหาแม่หญิงอีกคราในตอนค่ำ ไม่ต้องทำอะไร แค่รอฉันอย่างเดียวก็พอ" พอพูดจบทัพก็ช่วยจับร่างบางอันอ่อนแรงของนางให้กลับลงมานอนเหมือนเดิม แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างบางนั้นเอาไว้ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
จากนั้นทัพก็อธิบายถึงคุณไสยที่กำลังเล่นงานจันทร์วาดอยู่ในตอนนี้ให้ท่านเจ้าเมืองและภรรยาฟัง ว่ามันคือคุณไสยที่มีชื่อว่ามนตร์นากินี ต้องใช้เกล็ดของนางพญางูขาวในการรักษา ซึ่งเขาก็จะเป็นผู้ออกเดินทางไปนำเกล็ดของนางพญางูขาวมาเอง ก่อนที่จะลงจากเรือนของท่าเจ้าเมืองไปหลังจากที่พูดคุยเรื่องนี้เสร็จ โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เขากับจันทร์วาดคุยกันเมื่อครู่ เพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ นางจะได้ไม่เสียหาย
จนเวลาร่วงเลยมาถึงช่วงค่ำ ทัพที่เห็นว่าเรือนของท่านเจ้าเมืองดับไปมืดหมดแล้ว ก็ใช้คาถากำบังกายแอบขึ้นเรือนของท่านเจ้าเมืองมา ก่อนที่จะเดินตรงไปยังห้องนอนของจันทร์วาด แล้วใช้คาถาสะเดาะกลอนเปิดประตูห้องของนางเข้าไป ทัพที่เข้ามาในห้องนอนของจันทร์วาดแล้ว ก็ได้กลิ่นหอมของน้ำปรุงคลุ้งขึ้นมา พร้อมกับร่างบางของจันทร์วาดที่นั่งรอเขาอยู่บนเตียง
"แม่หญิงไม่ต้องฝืนตัวเองด้วยการนั่งรอฉันแบบนี้ก็ได้นะ" เขาที่เห็นแบบนั้นก็พูดกับนาง ก่อนที่จะปิดประตูห้องลงอย่างเบามือ แล้วเดินตรงเข้าไปหานางที่นั่งรออยู่บนเตียง
"ท่าจะว่าอะไรหรือไม่ ถ้าฉันขอให้ดับไฟไว้เยี่ยงนี้" จันทร์วาดพูดขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา โดยที่ไม่กล้าสบสายตากับทัพ เพราะนางนั้นอายเขาเหลือเกิน หน้าแดงก่ำขึ้นกว่าเดิม
"ได้สิ ฉันไม่ว่าอะไรแม่หญิงหรอก" ทัพตอบนางกลับไป พร้อมกับนั่งลงไปบนเตียงข้างๆ นาง แล้วค่อยๆ ขยับมือขึ้นไปจับกรอบใบหน้าสวยของนาง ให้หันมาสบสายตาตัวเอง ทำเอาจันทร์วาดหน้าแดงก่ำขึ้นมามากกว่าเดิม เพราะชายที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้นั้นก็รูปงามไม่ใช่น้อย แถมยังอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องกลางดึกอีกต่างหาก
"ฉันขอจูบแม่หญิงได้หรือไม่" จากนั้นทัพก็ถามนางขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา พลางสบตานางด้วยแววตาอันหวานเยิ้มไปด้วย จันทร์วาดที่ถูกทัพมองด้วยแววตาหวานหยาดเยิ้มเช่นนั้น ก็เคลิ้มตามจนเผลอหลับตาลง ส่วนทัพที่เห็นว่านางยินยอมแล้ว ก็ขยับริมฝีปากบรรจงมอบจูบอันหอมหวานลงไปที่ริมฝีปากบางของนาง
"จ๊วบ อื้อส์ จ๊วบ" ทำเอาร่างบางอ่อนระทวยลงทันที ที่ได้รับจูบที่หอมหวานเช่นนั้น เพราะจูบนี้มันเป็นจูบแรกของนางด้วย ส่วนทัพก็บดจูบลงไปแนบแน่นขึ้นอีก เพื่อเร่งจูบนี้ให้ร้อนแรงขึ้นมา ซึ่งเขาก็ตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุดด้วย เพราะเขาเองก็รู้ว่าค่ำคืนนี้จะเป็นค่ำคืนแรกของนาง แต่เขาก็ต้องการที่จะทำให้มันลงเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้นางต้องเปลืองตัวจนเกินงาม
ทัพก็เลยโน้มตัวกดร่างบางของนางลงไปจนแนบชิดกับเตียง พร้อมกับยังคงขยับริมฝีปากจูบนาง่ไปด้วย จากนั้นเขาก็ขยับมือข้างหนึ่งขึ้นไปค่อยๆ แก้ผ้าคาดอกผืนบางของนางออก เผยให้เห็นนมเต้าสวยอวบอิ่มและจุกนมอมชมพูอ่อน ที่กำลังสะท้อนกับแสงจันทร์สลัวๆ ที่สาดส่องลงมา จากนั้นเขาก็ขยับมือข้างนั้นลงต่ำไปปลดผ้านุ่งของนางออก แล้วเลิกมันลงมาเล็กน้อย เผยให้เห็นแคมหีอูมสวบโหนกนูนอมชมพูอ่อน ที่มีน้ำกามใสเคลือบอยู่เล็กน้อย ซึ่งเขาก็เห็นความงดงามของมันได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะมีเพียงแค่แสงสลัวสาดส่องลงมาก็ตาม
ทันทีที่ทัพผลัดผ้านางออก กลิ่นหอมหวนก็ลอยฟุ้งขึ้นมาจากตัวนางทันที ซึ่งกลิ่นหอมหวานนั้นมันก็ไปปลุกเร้าอารมณ์เข้า เขาก็เลยร้อนรุ่มจน-วยลำใหญ่ยาวที่มันซ่อนตัวอยู่ใต้โจงกระเบนผงาดเป็นลำแข็งขึ้นมา เขาก็เลยขยับปลายนิ้วมือของมือข้างนั้น กดลงไปที่แคมหีอูมสวยอมชมพูของนาง แล้วเริ่มคลึงเขี่ยมันอย่างเบามือ สวบ สวบ สวบ
"อื้ออส์ อ่าาาส์" ทำเอาจันทร์วาดครางเสียวออกมาในลำคอเสียงกระเส่า เขาก็เลยค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกมาจากจูบนั้น แล้วมองหน้านางด้วยความเป็นห่วง เพราะร่างกายของนางในตอนนี้นั้นบอบบางเป็นอย่างมาก ถ้าทำรุนแรงเดินไป นางอาจจะรับไม่ไหวก็ได้ ซึ่งนางในตอนนี้ก็ยังปกติดีอยู่ เพียงแต่ว่าใบหน้าสวยที่กำลังเสียวซ่านของนาง มันช่างปลุกเร้าอารมณ์เขาเหลือเกิน
สวบ สวบ สวบ เขาก็เลยเผลอเร่งจังหวะคลึงเขี่ยแคมหีอูมสวยนั้นหนักมือขึ้นอีก ทำเอาผิวอันนุ่มลื่นของมันเริ่มนูนแข็งขึ้นมาเล็กน้อย จากการเกร็งตัวของมัน พร้อมกับแรงกระตุกตอดที่ตอดรัดปลายนิ้วเขากลับมา และน้ำกามใสที่ถูกผลิตออกมามากขึ้น จนทั่วทั้งแคมหีอูมสวยอันนุ่มลื่นนั้น แฉะเยิ้มไปด้วยน้ำกามใสอันหอมหวาน เขาก็เลยเอี้ยวใบหน้าลงไปมองว่ามันพร้อมที่จะรับความใหญ่ยาวของเขาแล้วหรือยัง
"อย่ามองนะเจ้าคะ" แต่ทว่าจันทร์วาดกลับพูดขึ้น แล้วจับกรอบใบหน้าของเขาไว้ซะก่อน เขาก็เลยต้องกดสายตาลงมามองใบหน้าสวยอันแดงก่ำของนางแทน "ฉันอาย ท่านขุนอย่ามองเลยนะเจ้าคะ" จากนั้นจันทร์วาดก็พูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงแผ่วเบา
ทัพที่เห็นใบหน้าเขินอายปนรุ่มร้อนของนาง ก็เกิดอยากจะเห็นใบหน้าที่ร้อนรุ่มขึ้นกว่านี้อีก เขาก็เลยขยับปลายนิ้วเรียวยาวนั้นคลึงเขี่ยแคมหีอูมสวยของนางหนักมือขึ้นอีก สวบ สวบ สวบ ทำเอาร่างบางเสียวซ่านจนดิ้นพล่านขึ้นมา พร้อมกับขบกัดริมฝีปากไปด้วย ซึ่งมันก็ทำเอาท่านขุนไม่อาจจะห้ามใจตัวเองไหว เพราะนางช่างยั่วยวนเหลือเดิน
"อ่าส์ แม่หญิง อื้อออส์" เขาก็เลยครางเสียวปลุกเร้าอารมณ์นางขึ้นมาเสียงกระเส่า พร้อมกับขยับปลายนิ้วคลึงเขี่ยแคมหีอูมสวยของนางอย่างเต็มกำลัง พลางกดปลายนิ้วโป้งของมือข้างนั้นลงมาคลึงเขี่ยเม็ดแตดอันแดงก่ำของนางไปด้วย
"ซี้ดดส์ อื้อออส์ ท่านขุนนนนน อร๊างงงส์ อ่าาาาาส์" ทำเอาร่างบางเสียวซ่านจนตัวร่างบางช่วงสะโพกลอยขึ้นจากเตียง ก่อนที่จะครางเสียวออกมาดังลั่นสุดเสียง และแตกน้ำเงี่ยนสวนปลายนิ้วมือของทัพในจังหวะนั้น ทำเอาทั่วทั้งฝ่ามือของเขาชุ่มไปด้วยน้ำใสอันหอมหวานของนาง ส่วนจันทร์วาดที่พึ่งเคยขับน้ำใสอันหอมหวานนั้นออกมาเป็นครั้งแรก ก็ไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร นางรู้เพียงแค่ว่าตัวเองในตอนนี้นั้นเสียวซ่าน และรู้สึกดีเหลือเกินที่ได้ขับมันออกมา แถมนางในตอนนี้ยังรู้สึกต้องการชายตรงหน้า จนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่างหาก
"ฮ่าส์ ฮ่าส์" นางหายใจหอบออกมาถี่ๆ พลางสบสายตาทัพไปด้วย
"แม่หญิงยังไหวใช่หรือไม่" จากนั้นทัพก็ถามนางขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง พลางขยับมืออีกข้างจับปอยผมที่ลงมาปรกหน้าขึ้นไปทัดหูนางเอาไว้ จันทร์วาดที่ได้ฟังแบบนั้นก็พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ แทนคำตอบ ทัพที่เห็นแบบนั้นก็เลยประกบจูบลงไปที่ริมฝีปากนาง ซึ่งรสจูบในครั้งนี้มันร้อนแรงแบบที่ก่อนหน้านี้เทียบไม่ติดเลย
โปรดิาตอน่ไป
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??