เรื่อง [จบ] โชคชะตานำพารักหวนคืนกลับสู่ยุค 80
บที่ 36 เมื่อคนทั้งสองติดฝนด้วยกัน (รีไรท์)
“พี่เหวินโหร่ว มาแล้วเหรอ!” น้ำเสียงี่แสนดีใจของต้าหนิงจินทำให้ต้าเหวินโหร่วจำต้องละสายตาจากใบหน้าสวย เขาเม้มปากแน่น ก่อนจะรีบเช็ดมือี่แสนสกปรกของตนบนเสื้อ ก้าวเดินไปตามแรงของน้องสาวี่ดึงรั้งไปนั่งบนแคร่ฝังตรงข้ามกับหลิวไป๋ฮวา ยิ่งอีกฝ่ายจ้องมองมาโดยไ่พูดอะไรชายหนุ่มก็ยิ่งประหม่าขึ้นเรื่อย ๆ
“พี่เหวินโหร่วทานสิ ขนมนี่พี่ไป๋ฮวาทำเองเลยนะ” โดยี่ต้าหนิงจินไ่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศระหว่างกันเลยแม้แต่น้อย
“อ้อ พี่ไป๋ฮวาโชคดีเสียจริงี่วันนี้ได้เจอพี่เหวินโหร่วพี่รองของหนิงจินเอง”
“พี่เหวินโหร่วส่วนนี่พี่ไป๋ฮวาี่ช่วยหนิงจินจากพวกอันธพาลี่เนินเเขาหซานเมื่อตอนเย็นหนิงจินเลยชวนมาี่บ้าน พี่คงไ่ว่าอะไรใช่ไหม?”
“ทำไมถึงกลับเส้นทางนั้น มันอันตรายไ่รู้หรืออย่างไร” ต้าเหวินโหร่วขมวดคิ้วหันมาเอ่ยดุน้องสาวของตนเอง
“อันตรายี่ว่าก็คงจะมาจากพวกอันธพาลนั่นแหละ แต่พี่เหวินโหร่วไ่ต้องกังวลไปวันนี้พี่ไป๋ฮวาจัดการจนคนพวกนั้นไ่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับหนิงจินอีกแล้วล่ะ ดีไ่ดีตอนนี้คงำลังนอนฟ้องพ่อแม่อยู่แน่ ๆ” ต้าหนิงจินหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ แตกต่างจากหลิวไป๋ฮวาี่ก้มหน้าต่ำด้วยความเขินอาย
“ใกล้ค่ำแล้ว หนิงจินขอตัวไปทำการบ้านก่อน หากพี่เหวินฟู่มาคงจะโดนดุไ่น้อย อย่างไรหนิงจินฝากพี่เหวินโหร่วดูแลพี่ไป๋ฮวาแทนหนิงจินด้วยนะ” เธอตัดบทเพียงแค่นั้นก็รีบคว้าเค้กข้าวโพดพร้อมทั้งกระเป๋าวิ่งเข้าไปในห้องทันที ทิ้งให้คนทั้งสองนั่งหลบหน้ากันด้วยความประหม่าอยู่เช่นนั้น
“...ไ่เคยรู้เลยว่าคุณมีน้องสาวด้วย” น้ำเสียงแผ่วเบาพ่นผ่านริมฝีปากสีลูกพลับสุก ดวงตาอ่อนแสงหลุบมองมือของตัวเองี่ประสานกันอยู่บนหน้าตัก ท่าทีเช่นนี้ี่แสดงออกไปไ่ได้มาจากความอึดอัดแม้แต่อย่างใด
“...มีหนิงจินคนเดียวน่ะ…”
“น้องสาวของคุณดูร่าเริงมากเลยนะ ช่างพูดช่างจาอีกทั้งยังน่าเอ็นดูอีกต่างหาก…น่าอิจฉาเสียจริง” ต้าเหวินโหร่วปรายตามองหลิวไป๋ฮวาด้วยสายตาทอประกาย
“หากคุณไ่รังเกียจอะไรก็ชวนหนิงจินไปเี่ยวเล่นได้นะ” เพียงแค่นั้น นัยน์ตาอ่อนแสงคู่สีน้ำตาลอ่อนก็ช้อนมองใบหน้าคมคายในทันที
“หนิงจินบอกว่ามักจะโดนพี่ชายกับพี่สะใภ้ต่อว่าในตอนี่ออกไปเี่ยวเล่น ฉันชวนหนิงจินไปได้เหรอ?”
“หากเป็นคุณ ไ่เป็นไรหรอก” พลันสายตาของคนทั้งคู่เผลอสอดประสานกันด้วยความไ่ได้ตั้งใจหลิวไป๋ฮวาคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจี่อย่างน้อยก็สามารถก้าวเข้าไปอยู่ในพื้นี่ี่มีต้าเหวินโหร่วได้อีหนึ่งก้าวแล้ว
ทว่าไ่ทันี่เธอจะได้เอ่ยถามสิ่งใดออกไป ประตูบ้านก็ถูกผลักเข้ามาอีกครั้ง
“เหวินโหร่ว” น้ำเสียงแหบแห้งของหญิงอาวุโสดังขึ้น หลี่เยี่ยนหรานลากสายตามองลูกชายคนรองของตน ก่อนจะกวาดตามองหญิงสาวอีกคนพร้อมขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความสงสัย หลิวไป๋ฮวาเห็นเช่นนั้นก็รีบผุดลุกขึ้นก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลิวไป๋ฮวาเป็น…” คำพูดชะงัก เมื่อเธอไ่แน่ใจว่าควรจะแนะนำอีกฝ่ายว่าตนเองเป็นใครให้ได้รู้จัก
“...เพื่อนเหวินโหร่วเอง” ต้าเหวินโหร่วเอ่ยขึ้นเสียงเบา ก่อนี่แม่ของเขาจะหยักยิ้มออกมา
“เพื่อนเหวินโหร่วเหรอ? ลูกไปมีเพื่อนเป็นสาวงามขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไกัน?” หลี่เยี่ยนหรานพูดหยอกล้อลูกชาย ก่อนจะหันมาเอ่ยกับหลิวไป๋ฮวา
“เช่นนั้นก็ตามสบายเถอะ ขาดเหลือสิ่งใดก็บอกเหวินโหร่วได้เลย”
“เหวินโหร่ว ดูแลเพื่อนด้วย แม่คงต้องไปอาบน้ำเสียหน่อยเนื้อตัวสกปรกนัก” เธอเอ่ยเพียงเท่านั้นก็เดินจากไปอีกคน หลิวไป๋ฮวาละสายตาจากผู้เป็นแม่ของเหวินโหร่ว หันกลับมามองเสี้ยวหน้าคมคายนั่นอีกครั้ง
ก่อนจะลากมองไปยังด้านนอกี่ในตอนนี้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ใกล้หมดแล้ว หรือไ่แน่ใจว่าอาจจะเป็นเพราะกลุ่มเมฆี่เคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านหรือเปล่า
“ใกล้มืดแล้วล่ะ ฉันคงต้องขอตัวก่อน” แม้จะเสียดายเพราะอยากอยู่ี่นี่ให้นานกว่านี้หน่อยก็ตามหลิวไป๋ฮวาหยิบของกินในตะกร้าบนแคร่ไม้จนหมดก่อนี่เธอจะหยิบเสื่อและตะกร้าถือติดมือเอาไว้เพียงเท่านั้น
“ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน”
“...ผมไปส่ง” ต้าเหวินโหร่วเอ่ยขึ้น ก่อนจะก้าวเข้าไปหาหญิงสาวี่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยี่สายตาของคนทั้งคู่ยังสอดประสานกันอยู่เช่นนั้น ริมฝีปากสีลูกพลับสุกขบเม้มเข้าหากัน
หัวใจี่เคยเต้นเป็นจังหวะพลันเต้นแรงขึ้นเพียงแค่เห็นอีกฝ่ายี่โน้มตัวมาใกล้กันในระยะประชิด มือแกร่งดึงเอาตะกร้าและเสื่อี่หลิวไป๋ฮวามาถือเอาไว้เสียเอง ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำหญิงสาวออกไปด้านนอก
“คุณเดินไปก่อนเถอะ ผมจะเดินด้านหลังเอง เริ่มมืดแล้วจะเป็นอันตราย” ทว่าหลิวไป๋ฮวากลับไ่ฟังคำอีกฝ่าย เลือกี่จะยืนรออยู่ตรงนั้นจนกว่าต้าเหวินโหร่วจะยอมก้าวเดินไปพร้อมกัน
เสียงถอดถอนหายใจี่ดังมาจากต้าเหวินโหร่วนั้นทำให้หลิวไป๋ฮวาอดจะหันไปมองเสี้ยวหน้านั้นไ่ได้ เพียงไ่กี่วินาทีก็ได้ยินถ้อยคำสั้น ๆ ี่ดังแผ่วออกมา
“ช่างดื้อเสียจริง…”
เส้นทางี่เคยมีชาวบ้านเดินทางกันขวักไขว่ในตอนนี้นั้นกลับมีเพียงคนทั้งสองี่เดินไปตามท้องถนนภายใต้แสงไฟเล็ก ๆ ในหมู่บ้านี่สาดส่องมาค่อยให้แสงสว่างในยามค่ำคืนเดือนมืด
บนใบหน้าสวยไ่ส่ายังคงมีรอยยิ้มประดับเอาไว้ ยิ่งอยู่ภายใต้แสงไฟสลัวเช่นนี้ก็ยิ่งขับให้ใบหน้าของหลิวไป๋ฮวางดงามยิ่งขึ้น
ต้าเหวินโหร่วี่เหลือบมองคนี่เดินอยู่เคียงข้างกายเป็นระยะ หัวใจเต้นแรงขึ้นตลอดการเดินทาง มือแกร่งำเสื่อแน่น บิดไปมาจนแทบออกจากกัน แม้จะไร้บทสนทนาทำให้บรรยากาศรอบตัวดูเงียบกว่าปกติทว่าคนทั้งสองกลับไ่ได้รู้สึกเช่นนั้น เมื่อพวกเขาำลังเดินฟังจังหวะการเต้นของหัวใจตนเองี่ดังระรัวจนแทบจะกระเด้งกระดอนออกมานอกอกอยู่รอมร่อ
ซ่า
พลันสิ่งี่ไ่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเมฆี่ก่อตัวจนเป็นสีดำทะมึนในตอนนี้ได้ปปล่อยหยาดฝนมายังหมู่บ้านเพื่อต้อนรับฤดูทำการเกษตร มองฝ่าเม็ดฝนออกไปนับว่าโชคดีี่ข้างหน้าเห็นเป็นศาลาหลังหนึ่ง
ต้าเหวินโหร่วยกมือขึ้นไปบดบังหยาดฝนี่ตกมากระทบศีรษะทุยเล็ก ด้วยความกลัวว่าหลิวไป๋ฮวาี่บอบบางเช่นนี้ หากโดนละอองฝนเช่นนี้ก็เกรงว่าพิษไข้จะเล่นงานเอาได้
“ด้านหน้ามีศาลารีบไปกันเถอะ”
…
หลิวไป๋ฮวานั่งบนเก้าอี้ไม้ ห่อตัวเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อ่ากายเริ่มหนาวสั่นจากละอองฝน และไอความเย็นี่สาดซัดเข้ามา จากี่เคยแค่ตกพอประปรายบัดนี้กลับกลายเป็น-่าใหญ่ จนพื้นถนนเริ่มมีน้ำเจิ่งนอง
ต้าเหวินโหร่วสายตามอง่าบอบบางี่ำลังสั่นระริก อีกทั้งใบหน้าี่ดูซีดเซียว
“อึก คะ คุณนั่งเถอะ อีกพักใหญ่ฝนคงจะหยุด” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยออกมา
ในขณะี่ใบหน้าก็ช้อนมองบุคคลี่ยืนอยู่เหนือตนเอง มองต้าเหวินโหร่วี่ำลังใช้่ากายของเขารวมไปถึงเสื่อบังละอองฝนและสายลมี่พัดผ่านเข้ามา ช่วยให้่ากายบอบบางนี้คลายความหนาวเย็นไปได้บ้าง ต้าเหวินโหร่วกลับไ่ได้ตอบสิ่งใดออกมา เขาเพีือย่างั่คงอยู่ี่เิเช่นนั้นไ่ไปไ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??