เรื่อง ข้ามาทำฟาร์มในโลกเซียน
เฉินเีเหมี่ยวีาุมากี่ความฝันนางำัะเป็นจริง ู่ชิงิ๋นและเหล่าผู้อาวุโสเห็นดังนั้น ก็ได้แต่ถอนหายใจกับความใสซื่อนาง
เมื่อครู่พวกเขายังคิด่าดรุณีน้อยผู้นี้เจ้าเล่ห์เพทุบายจำ้ระวังให้ดี แต่เพียงแค่ี่ดินเล็ก ๆ ผืนหนึ่ง พืชวิญญาณ เมล็ดพันธุ์ ยันต์คาถา เครื่องมือและอสูรมาร ก็สามารถทำให้นางพอใจเพียงนี้แล้วงั้นหรือ?
เด็กก็คือเด็กจริง ๆ ไม่รู้จักคิดการณ์ไกลเอาเสียเลย
ช่างเถอะ อย่างมากวันหน้าก็ช่วยดูแลนางหน่อยก็แล้วกัน เพื่อไม่ให้ใครมาตำหนิพวกเขาลับหลังได้
“เอาละ” ผู้อาวุโสนิกายเทียนเอี้ยนเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน “เรื่องวุ่นวายในวันนี้ก็ยุติเพียงเท่านี้แล้วกัน ส่วนคนร้ายตัวจริงี่ทำร้ายสหายน้อยเฉิน ้รบกวนองค์ชายสามช่วยสืบสวนต่อแล้ว หากองค์ชายสาม้การความช่วยเหลือใด ส่งคนมาตามกระหม่อมได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
ผู้อาวุโสนิกายอื่น “...”
เถียนจื่อเหวินผู้นี้ช่างดีจริง ๆ เจ้าะรับบทเป็นคนดีเพียงคนเดียวเลยอย่างนั้นหรือ?
ผู้อาวุโสคนอื่นเองก็ไม่ยอมแพ้
“อ้อ ยังมีข้าด้วย”
“อืม ข้าเองก็ไม่ยอมนิ่งดูดายเช่นกัน”
“ข้าด้วย”
เดิมยังมีคนคิด่าเฉินเีเหมี่ยวโง่เขลา สมบัติมากมายนับไม่ถ้วนแลกมาได้เพียงเท่านี้ แต่บัดนี้เมื่อเห็นนิกายใหญ่ ๆ ล้วนแสดงไมตรีต่อเฉินเีเหมี่ยว พวกเขาต่างก็อิจฉาจนตาแดงก่ำ
เฉินเีเหมี่ยวผู้นี้ชีวิตช่างสูงส่ง คนดีฟ้าคุ้มครอง มีนิกายใหญ่คอยปกป้อง ต่อให้นางะเป็นคนี่ไม่สามารถบำเพ็ญเพียรได้ แต่วันหน้าก็ะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขและราบรื่นแล้ว
ลำดับต่อไปเป็นการแบ่งี่ริบมา อ่อไม่ใช่ เป็นการแบ่งสินน้ำใจ ซึ่งเฉินเีเหมี่ยวไม่ได้เข้าร่วมด้วย นางเอาไปเพียงไข่มุกัเเท่านั้น ทั้งยังได้รับคำมั่นสัญญาี่ัเ้การแล้ว จึงอารมณ์ดีอย่างมาก
ภารกิจเรื่องการคัดเลือกี่ดินและสอบสวนหาความจริง ู่ชิงิ๋นส่งต่อให้แม่ทัพเนี่ย คนผู้นี้แม้ะเป็นคนอยู่ในระเบียบแต่กลับทำอะไรรวดเร็ว เขาพาเฉินเีเหมี่ยวไปเลือกี่ดินในวันนั้นเลย เฉินเีเหมี่ยวย่อมดีใจอย่างมาก คืนนี้นางไม่มีี่พักอยู่พอดี
ระห่างี่ทั้งสองเดินมาถึงหน้าประตูจวนตระกูลเฉิน กำลังเตรียมี่ะขึ้นรถลากออกไป เสียงเกรี้ยวกราดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“เฉินเีเหมี่ยว เจ้าหยุดนะ!!!”
เฉินเีเหมี่ยวหันกลับไปมอง ก็พบ่าเป็นเฉินู่ชิงี่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด นางจึงยิ้มจนตาหยีพลางเอ่ย “โอ๊ะ ี่แท้ก็คุณหนูู่ชิงนี่เอง มีเรื่องอะไรงั้นหรือ?”
“เจ้าตายซะเถอะ!”
เฉินู่ชิงยกกระบี่ขึ้นฟันใส่เฉินเีเหมี่ยวทันที ท่าครั้งนี้แม้แต่ชายเสื้อเฉินเีเหมี่ยวนางก็ยังไม่ทันได้สัมผัส กลับถูกองครักษ์แม่ทัพเนี่ยขวางเอาไว้เสียก่อน นางพยายามขัดขืน พลางตะโกนด้วยความเจ็บแค้น ทุกประโยคเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท
“เฉินเีเหมี่ยวนางคนสารเลว เจ้ามีจิตใจโหดเหี้ยมเช่นนี้ เจ้า้ไม่ตายดีอย่างแน่นอน!
นางสารเลว นางสารเลว ตอนี่ตระกูลเฉินแห่งฟ่านเฉิงทิ้งเจ้า ตระกูลเฉินแห่งิ๋นหลัวเรากลับรับสุนัขจรจัดอย่างเจ้าเอาไว้ ให้ี่อยู่ี่กินแก่เจ้า ให้เจ้าเติบโตจนถึงวัยปักปิ่น แต่เจ้ากลับตอบแทนพวกเราเช่นนี้ นางคนเนรคุณ หากรู้เช่นนี้ ตอนนั้นข้าควรตีเจ้าให้ตายไปซะ!
้โทษี่ข้าใจอ่อน ้โทษี่ข้ามีเมตตา แต่เจ้าอย่าได้ใจไป ขอเพียงข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!!!
…”
เสียงเกรี้ยวกราดเฉินู่ชิงดังลั่น จนชาวบ้านี่สัญจรไปมาต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจน
“เฉินเีเหมี่ยว นี่คือคุณหนูตระกูลเฉินี่หายตัวไปสามปีก่อนอย่างนั้นหรือ?”
“อืม เหมือนะใช่...ได้ยินมา่าเฉินเีเหมี่ยวได้รับความเมตตาจากตระกูลเฉินแห่งิ๋นหลัว เช่นนั้นเหตุใด้วางแผนให้ร้ายตระกูลเฉินแห่งิ๋นหลัวด้วยล่ะ?”
“ใคระไปรู้ล่ะ...”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้สำหรับเหล่าผู้บำเพ็ญเพียรแล้วหาได้สำคัญไม่ เพราะผู้บำเพ็ญเพียรต่างรู้ดี่าใครแข็งแกร่งก่าก็ะเป็นฝ่ายถูก แต่ภายภาคหน้า เฉินเีเหมี่ยวเลือกี่ะใช้ชีวิตปลูกผักทำนาเช่นคนธรรมดา ข่าวลือเหล่านี้้สร้างความกดดันให้นางอย่างแน่นอน
และคนตระกูลเฉินเองก็รู้ถึงประเด็นนี้เช่นกัน จึงลงมือใส่ร้ายเฉินเีเหมี่ยวก่อน
แม่ทัพเนี่ยขมวดคิ้วมุ่น “จับตัวไป ข้าสงสัย่านาง้เกี่ยวข้องกับเรื่องี่มีคนลอบสังหารเฉินเีเหมี่ยวเมื่อสามปีก่อนเป็นแน่”
“ขอรับ!”
เหล่าองครักษ์ำัะทำตามคำสั่ง ท่าเฉินเีเหมี่ยวกลับเอ่ยขึ้นเสียก่อน “ช้าก่อน ปล่อยให้นางเข้ามา ข้าเองก็มีเรื่องอยากะคุยกับนางอยู่พอดี”
แม่ทัพเนี่ยเอ่ยเสียงเย็น “นางเป็นผู้บำเพ็ญเพียร” กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เฉินเีเหมี่ยวไม่ใช่คู่ต่อสู้นาง
“ข้ารู้” เฉินเีเหมี่ยวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ให้นางเข้ามา ความแค้นบางอย่าง้ล้างแค้นด้วยมือตนเอง”
แม่ทัพเนี่ยมองดูใบหน้าี่งดงามและร่างกายี่ผอมบางเฉินเีเหมี่ยวก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังเคารพการตัดสินใจนาง
แม่ทัพเนี่ยสะบัดมือเบา ๆ เหล่าองครักษ์ก็ปล่อยตัวเฉินู่ชิงจากการจับกุมทันที อีกฝ่ายราวกับหมาบ้าี่หลุดออกจากเชือก แกว่งกระบี่ในมือและพุ่งเข้าหาเฉินเีเหมี่ยวทันที
มุมปากเฉินเีเหมี่ยวโค้งขึ้น เล็งจังหวะแล้วยกเท้าขึ้นถีบไปี่หน้าอกนางอย่างแรง สตรีี่สูงและแข็งแรงก่าเฉินเีเหมี่ยวพลันกระเด็นออกไปไกลสองจั้ง ก่อนะกลิ้งหลุน ๆ ไปกับพื้นถึงสองตลบ
ชาวบ้านี่มุงดู “!!!”
สวรรค์ ไหนบอก่าเฉินเีเหมี่ยวเป็นเพียงคนธรรมดา ี่ไม่สามารถบำเพ็ญเพียรได้ไม่ใช่หรือ?
นี่มัน...พละกำลังคนธรรมดาน่ากลัวเพียงนี้เชียวหรือ?
“โอ๊ย...”
เฉินู่ชิงกองอยู่บนพื้นอยู่นานไม่สามารถขยับตัวได้ จนกระทั่งนางลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากอีกครั้ง เฉินเีเหมี่ยวก็เดินมาี่ข้างกายนาง พลางใช้มือข้างหนึ่งขยุ้มผมนางและยกขึ้นมา ดวงตาสุกสกาวแฝงไว้ด้วยความเย็นชาและเต็มไปด้วยจิตสังหาร ก่อนะหัวเราะเบา ๆ แล้วเอ่ยขึ้น “เฉินู่ชิง เจ้าเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง สิ่งี่เจ้าติดค้างเสี่ยวเีเหมี่ยวไว้ ข้าะเอาคืนทบต้นทบดอกแล้วนะ”
เอ่ยจบฝ่ามือี่ไร้ความปรานีก็สาดซัดเข้าี่ใบหน้าเฉินู่ชิงราวกับ-่าฝน
เพียะ เพียะ เพียะ
“ประการแรก เสี่ยวเีเหมี่ยวเป็นคุณหนูตระกูลหลัก ตระกูลหลักมีหน้าี่ดูแลตระกูลรองทุกปีอยู่แล้ว ดังนั้นการี่พวกเจ้าดูแลเสี่ยวเีเหมี่ยวเป็นเรื่องี่ควรกระทำอยู่แล้ว หาใช่บุญคุณอะไรไม่ เจ้าอย่าคิดนำเรื่องนี้มาขู่ข้า ต่อให้ไปฟ้องศาล พวกเจ้าก็เป็นฝ่ายผิดอยู่ดี!”
เพียะ เพียะ เพียะ
“ประการี่สอง ตอนนั้นี่เสี่ยวเีเหมี่ยวไปถึงตระกูลเฉินแห่งิ๋นหลัว เจ้าแย่งสมบัติทั้งหมดนางไป ไม่ให้นางกินข้าว อารมณ์ดีก็ตีนางหนึ่งครั้ง อารมณ์ไม่ดีก็ตีนางหนึ่งครั้ง เจ้าลืมเรื่องเหล่านี้ไปหมดแล้วงั้นหรือ?”
เพียะ เพียะ เพียะ
“ประการี่สาม พวกสุนัขี่เจ้าเลี้ยงเอาไว้ เพื่อประจบเจ้านายมันก็แทบะทรมานเสี่ยวเีเหมี่ยวให้ตาย และหลังจากี่เสี่ยวเีเหมี่ยวหายตัวไป เจ้าก็ดีใจี่ทุกสิ่งี่ัเทำะไม่มีใครรู้อีก ใช่หรือไม่?”
เพียะ เพียะ เพียะ
“น่าเสียดายี่ข้ายังไม่ตาย และทำให้เจ้าผิดหวังเช่นนี้”
เพียะ เพียะ เพียะ
“เรื่องี่สี่ คนตระกูลเฉินแห่งิ๋นหลัวยึดสมบัติเสี่ยวเีเหมี่ยว ทำให้ผงาดขึ้นมาอย่างทุกวันนี้ได้ นี่หรือี่ทำให้เจ้าหน้าด้านไร้ยางอาย กล้าบอก่าตระกูลเฉินแห่งิ๋นหลัวมีบุญคุณต่อเสี่ยวเีเหมี่ยว ประตูเมืองฟ่านเฉิงยังไม่หนาเท่าหน้าเจ้าด้วยซ้ำ กล้ามาแก้แค้นข้า เจ้าคิด่าข้าเป็นไก่อ่อนี่ะยอมให้เจ้ารังแกได้จริง ๆ น่ะหรือ?”
เพียะ เพียะ เพียะ
“วันนี้หากไม่ตบให้เจ้าตื่น ให้เจ้ารู้ถึงความไร้ยางอายและความเลวทรามต่ำช้าัเ อย่าเรียกข้า่าเฉินเีเหมี่ยวอีก!”
เพียะ เพียะ เพียะ
“แม้แต่พวกโง่ก็คงไม่มีใครเชื่อคำพูดเจ้าอีกแล้ว เพราะองค์ชายสามตรัสแล้ว่า ะสอบสวนหาความจริงให้ข้า ใครี่เชื่อคำพูดเจ้าก็เท่ากับดูหมิ่นองค์ชายสาม นั่นเท่ากับมีความผิดมหันต์!”
เพียะ เพียะ เพียะ…
ชาวบ้านี่มุงดู “...”
เฉินเีเหมี่ยวพูดถึงขนาดนี้แล้ว ใครยังะกล้าเชื่อี่เฉินู่ชิงพูดอีกล่ะ หากเชื่อก็โง่เต็มที และเท่ากับดูหมิ่นองค์ชายสามน่ะสิ!
มุมปากแม่ทัพเนี่ยกระตุกเล็กน้อย
เด็กเจ้าเล่ห์ คำพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็อธิบายเรื่องทุกอย่างได้หมดแล้ว ทั้งยังลบล้างเรื่องอกตัญญูไปได้จนหมดสิ้น และไม่ลืมหาคนุัให้ัเ แม้คนุัะไม่รู้่าถูกสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างามีอยู่็า
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??