เรื่อง ราชันเวทเทพองเมียว
มีดั้จู่โจมำแ่ใต้้าหนึ่งซาคุ
ฟังเหมือนง่ายสำหรับองเมียวจิมืออาชีพ แต่สำหรับเด็กชายผู้นี้ ที่เพิ่งเรียนเวทวิชาไม่ึสิบวันครึ่งเดือน ถือ่ายากทีเดียว
ยังดีที่ก่อนหน้านี้เคยบงการให้ดาบั้พาข้ามกำแพงเมืองมาครั้งหนึ่ง จึงพอมีความมั่นใจบ้าง อีกไม่ึชั่วโมงก่อนหน้าเพิ่งปลิดชีพนักดาบไปคนหนึ่ง ึรู้แน่แก่ใจ่าดาบำไปโดยอัตโนมัติ หาเกี่ยวกับตนไม่ ท่ายามนี้อะไรที่คิดเข้าข้างตนเองได้ก็ต้องำ หากตนไม่มอบชีวิตและวิญญาณให้ดาบเล่มนี้ก็คงผุพัง สุดท้ายไม่พ้นเป็นเศษโลหะอยู่หน้าประตูราโชมอน เฝ้ารอเจ้านายที่ำหล่นเอาไว้
“พี่ดาบั้ครับ คงได้ยินคำพูดของเณรน้อยเจ้าปัญญาแล้ว พอจะช่วยเหลือหน่อยได้ไหมครับ”
[ต้องเรียกพี่เรียกน้องไว้ก่อนเพื่อสร้างความคุ้นเคย : กลยุทธ์การขายลำดับที่หนึ่ง]
ต้าหมินลองส่งจิตไปที่ตัวดาบ หวัง่าคงมีคำตอบกลับมาบ้าง ถ้าให้เขาออกคำสั่งก็ไม่รู้่าต้องำอย่างไร พอนึกึตอนข้ามกำแพงเมือง ตอนนั้นออกจะมั่นไปหน่อย
“จงบิน”
พอเท้าเริ่มลอยขึ้นจากพื้น สองมือก็รีบจับด้ามดาบแน่น
“ดีมาก จงข้ามกำแพงเมือง”
ท่าคราวนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากเห็นอานุภาพของดาบั้แล้ว ให้รู้สึกยำเกรงยิ่งนัก รู้ทั้งรู้่าตนเป็นเจ้านายแต่ไม่อาจสั่งได้ดังใจ ไม่เหมือนไลอ้อน ที่จิตเชื่อมโยงึกันสัมผัสได้ึอารมณ์ความรู้สึก
ส่วนดาบเล่มนี้พอรู้่ามีสายใยเบาบางเชื่อมอยู่ แต่มันบางมากเสียจนแทบไม่รับรู้ เพิ่งมาจับสายใยนี้ได้ก็หลังจากสังหารนักดาบนั่นไปแล้ว
ต้องใช้ลูกอ้อนแล้วตู
“พี่ดาบครับ ขอล่ะ อย่าให้ผมขายหน้าสิครับ หากำสำเร็จจะขัดให้เงางามเหมือนใหม่เลยล่ะ”
ยังดีที่ไลอ้อนพอถ่วงเวลาได้ โลหิตของปีศาจยังคงซึมออกมาจากปากแผลทั่วร่าง โดยเฉพาะที่แขน ด้วยเสียเลือดำให้การเคลื่อนไหวช้าลง มาบัดนี้เพียงหายใจหอบยืนนิ่งอยู่กับที่เท่านั้น อยู่ ๆ ต้าหมินจับความรู้สึกเจ้าลูกสุนัข่า อยากขย้ำคอทานูกิเหลือเกิน ยืนเป็นเป้านิ่งแบบนี้ ล่อตาล่อใจนัก
เขาได้แต่สั่งให้ลูกสุนัขตัวดีรอไปก่อน แต่ลึก ๆ ข้างในเขารู้่าไม่อาจห้ามได้นานนัก เหมือนกับมีเปลวเพลิงแผดเผาอยู่ข้างในลูกสุนัขของเขา กำลังรอวันระเบิดออกมา
คงเกี่ยวกับเชื้อสายสุนัขจิ้งจอกล่ะมั๊ง
เขาได้แต่คาดเดาเอาเอง่า อาจเกี่ยวกับสัญชาตญาณสุนัขป่าที่ยังคงเหลืออยู่ในสุนัขพันธุ์บางแก้วนี้ ำให้มันไม่ค่อยเชื่องสักเท่าไร
“พี่ดาบครับพอจะลงมือตอนนี้ได้ไหมครับ เออ ทางเราท่าจะรอไม่ไหวแล้ว”
ทันใดนั้นพื้นดินกลับสั่นไหวราวกับมีแผ่นดินไหวขนาดย่อม ไม่ึกับโยกคลอนแต่รู้สึกคล้ายกำลังยืนอยู่ริมถนนใหญ่ คล้ายกับกำลังมีอะไรบางอย่างเคลื่อนใกล้เข้ามา
“ประสกเร็วเข้า กำลังหนุนมันมาแล้ว”
“หา! หนุน หนุนของฝ่ายไหน”
ไม่ทันที่เณรจะตอบกลับมา เสียงคำรามดังก้องไปทั้งผืนป่า พร้อมกับเสียงตอบรับของปีศาจทานูกิตรงหน้า ราวกับ่ามันกำลังร้องบอกำแ่ก็มิปาน
โอ้ ไม่ดีแล้ว
ฉับพลันทันใดดาบั้หลุดออกจากฝักอย่างรวดเร็วปักเข้าที่จุดใต้้าหนึ่งซาคุ แล้วบินกลับมาคืนฝักทันที ด้วยความเร็วที่สายตาแทบมองตามไม่เห็น ในจังหวะเดียวกับไลอ้อนำท่ากระโจนเข้าหา ขาหน้าเหยียดตรง ขนตั้งชันแยกเขี้ยวคำราม
แต่ยังไม่ทันจู่โจม ร่างของทานูกิยักษ์กลับหดั้ลง กลายเป็นทานูกิขนาดธรรมดา อ้วนกลมน่ารัก ขนสีขาวแซมดำ นอนหายใจรวยริน
“ประสก เผ่าทานูกิถูกหนอนปรสิตควบคุม อาตมาก็เพิ่งทราบเมื่อครู่เอง ฝากรักษาทานูกิตัวนี้ด้วย กำลังเสริมใกล้มาึแล้ว อ้อ หากไม่่ากัน อาตมาขอบิณฑบาตสิ่งของจากประสกได้ไหม”
เณรถ่ายทอดเสียงมาอีกครั้ง ไม่เพียงบอกข่าวสารยังมีเรื่องบิณฑบาตด้วย แค่ลำพังเรื่องหนอนก็น่าตกใจพอแล้ว ไม่รวมึแรงสั่นสะเทือนที่เพิ่มมากขึ้นทุกที ำให้ต้าหมินไม่ทันได้ถาม่าเณรต้องการของอะไร จึงพยักหน้ารับไปตามเรื่อง
พลันมีก้อนหินก้อนหนึ่งไม่รู้มาจากไหน ปะทะหน้าผากอย่างถนัดถนี่
“โอ๊ย!”
พอยกมือขึ้นมาจับ นอกจากบวมแดงแล้วยังมีโลหิตไหลซึม
“ใครขว้างหินมาวะ”
อย่างไม่ทันตั้งตัว ก้อนหินก้อนนั้นพลันลอยกลับไปยังต้นทาง
“อมิตตาภา”
เสียงสวดดังขึ้นจากปากของศิษย์สถาบันสงฆ์ทั้งสี่รูป ยามก้อนหินลอยวืดเข้าสู่มือของเณรน้อย เสียงก็ถ่ายทอดมาเข้าหูของเด็กชาย
“ประสกขออภัยด้วย ขอบิณฑบาตโลหิตหยดนี้แล้วกันและเพื่อเป็นการตอบแทน ขอบอกเรื่องสำคัญให้ทราบ
หนึ่ง ชิกิงามิของประสกมีปัญหา แฝงด้วยจิตอาฆาตวิญญาณแค้น หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข มันจะเกินควบคุม
สอง อย่าเพิ่งดีใจไป ึประสกจะเก่งก่าองเมียวจิขั้นทารกคนอื่น ท่าเท่านี้ไม่เพียงพอ หากประสกเจอ-่าธนู มีดั้เล่มเดียวยากจะรับมือ ไม่นับยามถูกศัตรูรายล้อมอาศัยชิกิงามิอีกหนึ่งตน จะต้านได้สักเท่าไร อย่างดีก็แค่ยืดเวลาตายเท่านั้น
พวกเราลากันเท่านี้ แล้วค่อยพบกันใหม่ ประสกโคทาโร่”
เมื่อสิ้นเสียงของเณรน้อย ร่างของศิษย์สถาบันสงฆ์ก็ลอยขึ้นฟ้า ใต้เท้าของแต่ละคนหากไม่เป็นจีวร ก็เป็นดาบพระ หรือไม่ก็สร้อยประคำ
เฮ้ย เก่งขนาดนี้แล้วให้ตูช่วยเนี่ยนะ
“อย่าเหม่อสิ ต้องไปกันแล้ว บอกหมาเจ้าด้วยให้ย่อตัว เร็วเข้า” โนะฮิเมะตะโกนขณะวิ่งเข้ามาใกล้
ต้าหมินรีบำตามโดยไม่มีอิดออด เสียงต้นไม้หักโค่นใกล้เข้ามาทุกที เขารีบสั่งให้ไลอ้อนย่อตัว โนะฮิเมะหนีบทานูกิไว้ในอ้อมแขน ก่อนกระโดดขึ้นหลังยื่นมือมาฉุดตัวเขาตามไป ชายหนุ่มที่เคยเจอก่อนหน้าตะโกนโหวกเหวก ขอเดินทางไปด้วย ดูท่าถูกพระทิ้งเข้าแล้ว
“ช่วยด้วยขอรับ”
ไลอ้อนวิ่งไปทางหนุ่มคนนี้ อ้าปากงับเสื้อแล้วจับโยนขึ้นหลัง
คล้อยหลังไม่กี่วินาทีกำลังหนุนก็มาึ ปีศาจทานูกิเนืองแน่นเป็นกองทัพ ต้าหมินรีบสั่งให้ไลอ้อนเร่งความเร็วเต็มที่ ตรงไปยังปลายแม่น้ำโยโดะ มุ่งสู่อ่าวโอซาก้า คนละทางกับสมณะทั้งสี่
เหล่าศัตรูคำรามต่อเนื่อง เสียงกัมปนาทดังสะท้านผืนป่า ก่อนจะไล่ตามไปทางต้นน้ำ ปล่อยให้ต้าหมินกับพวกหนีไปอย่างสบาย ดูท่าพวกเขาไม่ใช่เป้าหมายของมัน ส่วนทานูกิตัวนี้ก็คงแค่อะไหล่ใช้แล้วทิ้ง ไม่มีใครสนใจ
แต่ยังไงก็ไม่อาจวางใจได้ เกิดพวกมันตามสมณะไม่ทัน หันมาลงที่พวกตนคงแย่ ต้าหมินเลยสั่งให้ไลอ้อนวิ่งสุดฝีเท้า ไปให้ไกลที่สุด ระห่างทางให้ตัดแม่น้ำข้ามไปอีกฝั่งเพื่อป้องกันพวกมันตามกลิ่น
โชคดีไร้เงาผู้ติดตาม ก่อนรุ่งสางโนะฮิเมะจึงเสนอให้หยุดพัก ระห่างทางเธอำแผลให้ทานูกิคร่าว ๆ แต่การเดินทางอย่างเร่งรีบำให้บาดแผลปริแตก จำต้องพักฟื้นสักระยะหนึ่ง ยังดีที่พลังฟื้นตัวของปีศาจก็ใช่ย่อย แผลเล็กแผลน้อยเริ่มสมานกัน หากผ่านไปสักชั่วโมงสองชั่วโมงคงปิดสนิท ไม่รู้เพราะได้ยาดีของอาจารย์ช่วยด้วยหรือเปล่า
“เจ้าชื่อ?” โนะฮิเมะเอ่ยถามประวัติชายหนุ่มที่ติดรถชิกิงามิมาด้วยกัน ซึ่งยามนี้เปลี่ยนมานั่งพิงโคนไม้ พยายามข่มความตื่นเต้นจากประสบการณ์ระทึกขวัญที่เพิ่งประสบ
“เออ ข้าชื่อชินโนสุเกะขอรับ”
จากนั้นชายคนนี้ก็เล่าเรื่องของตนตั้งแต่ต้นจนจบ น่าเศร้าที่สินค้าของเขาสูญหายไปหมด เงินทองที่คิด่าจะได้กลับไม่ได้ แต่ท่า…
เอ๊ะ! ำไมดูไม่ค่อยเสียใจเท่าไหร่ล่ะ
ต้าหมินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ท่านเซียนขอรับ พอดีพระท่านได้มอบเงินให้ส่วนหนึ่งเป็นค่าเสียหาย” เขาพูดพลางหยิบแผ่นทองและก้อนเงินสุกปลั่งออกมา ไม่เหมือนเงินเหรียญทองแดงอย่างที่ต้าหมินเข้าใจ ดูท่าวัดวาอารามสมัยนี้คงร่ำรวยอยู่ไม่น้อย
“เจ้าบอก่าเป็นชาวประมงใช่ไหม”
“ขอรับ อาศัยหาปลาเลี้ยงชีพ”
“เจ้าไปส่งพวกข้าได้ไหม” โนะฮิเมะเอ่ยถาม
“ยินดีขอรับ เพื่อตอบแทนท่านเซียนที่ช่วยชีวิต ต่อให้บุกน้ำลุยไฟก็ยอมขอรับ”
“ต่อไปไม่ต้องคำก็เซียน สองคำก็เซียนหรอก เดี๋ยวจะแตกตื่นกันเปล่า ๆ เรียกชื่อแทนก็ได้...” ต้าหมินรู้สึกตนไม่เก่งพอจะใช้คำ่าเซียน จึงบอกให้ชินโนสุเกะเปลี่ยนเป็นชื่อตัวแทน แต่ยังไม่ทันแนะนำตัวเอง ร่างสุนัขขนาดใหญ่ของไลอ้อนซึ่งนอนพักอยู่ด้านข้าง พลันหดเล็กลง กลายเป็นลูกสุนัข แล้วเปลี่ยนกลับเป็นหนังสุนัขป่าตามเดิม
“มันคงเหนื่อยน่ะ อีกอย่างเวทอัญเชิญพวกนี้มีฤทธิ์ไม่นานนัก เจ้าำได้ขนาดนี้ก็นับ่าไม่เลวแล้ว”
โนะฮิเมะหันไปมองต้าหมินซึ่งำหน้าเศร้า เหมือนมีใครตาย
“อืม ปล่อยให้พักสักวันสองวัน รวมทั้งตัวเจ้าด้วยก็ต้องรอให้พลังวิญญาณฟื้นขึ้นมา พวกเรายังต้องพึ่งเจ้าอีก หากไม่มีขิกิงามิ คงต้องเดินกันอีกนาน”
“คือ...”
ต้าหมินเอ่ยอย่างขัดเขิน
“ข้าไม่รู้วิธีเปลี่ยนกลับให้เป็นสุนัขน่ะสิ”
ชินโนสุเกะและโนะฮิเมะ
“...”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??