เรื่อง แรกแย้มวังบุปผา (NC)

ติดตาม
เล่มที่ 1 บทที่ 21 ลองเป็นสัตว์ร้ายดูสักครั้ง
เล่มที่ 1 บทที่ 21 ลองเป็นสัตว์ร้ายดูสักครั้ง
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

        หลังทานอาหารเสร็จ โม่ซีตั้งใจจะไปที่ห้องหนังสือเพื่อตรวจสอบสาส์น ทว่าเห็นฉีซีเดินกะเผลก จึงขมวดคิ้ว จ้องไปที่รองเท้าที่ราวกับกำลังอดทนต่อความเจ็บปวด  ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าเท้าของนางบอบช้ำเต็มไปด้วยรอยแผล นางสวมถุงเท้า แต่เขากลับลืมสั่งให้ข้ารับใช้ตรวจสอบบาดแผลของนาง

        เขาหยุดฝีเท้าแล้วเอ่ยถามว่า “เจ็บเท้าอย่างนั้นหรือ?”

        ฉีซีพยักหน้าและกล่าวว่า "ไม่เป็นไร อีกสองวันก็ดีขึ้นแล้ว"

        บนถนนดอกไม้เต็มไปด้วยผู้คนเมาสุราคอยก่อปัญหา เป็นเรื่องปกติที่จะมีเศษถ้วยบนพื้นถนนและมีรถม้าวิ่งทับ การสวมรองเท้าอาจช่วยหลีกเลี่ยงเศษถ้วยเหล่านี้ได้บ้าง ทว่าการเดินเท้าเปล่าอาจได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อนึกถึงที่นางให้จูมามาประคองมา ท่าทางการเดินราวกับต้นหลิวลู่ลมนั้นไม่ใช่การเสแสร้งแต่อย่างใด

        เขาไม่สนใจว่าจูมามาและสาวใช้ยังอยู่ด้าน๳้า๹หรือไม่ และไม่สนใจความอับอายและความโกรธเคืองของฉีซี เขาอุ้มนางขึ้นมาแล้วเดินไปที่ตำหนัก

        โม่ซีวางนางบนตั่งนุ่ม คว้าข้อเท้าของนางขึ้นมาวางบนต้นขาของตัวเอง

        “ช้าก่อน!” ฉีซีเสียสมดุลและหงายหลังลงบนตั่งนุ่ม ทว่าเขาได้ถอดรองเท้าและถุงเท้าสีขาวของนางออกแล้ว!

        ใบหน้าของฉีซีแดงก่ำ และตำหนิ "เหตุใดท่านจึงหยาบคายถึงเพียงนี้!"

        โม่ซีเห็นว่าฝ่าเท้าของนางเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน มีทั้งรอยลึกและรอยตื้น เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามว่า "หยาบคายหรือ กูทำอะไรให้เจ้าหรือ กูไม่ดีกับเจ้าอย่างนั้นหรือ"

        ฉีซีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง กัดฟันกล่าวว่า "ไม่มีผู้ใดถอดรองเท้าและถุงเท้าสตรีอย่างหยาบคายดั่งสัตว์ร้ายเช่นนี้! เราสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกัน เราไม่เกี่ยวข้องกัน ท่านจะมาถอดถุงเท้าข้าได้อย่างไรไอ้หยา ไม่พูดแล้ว ท่านปล่อยข้าเสียเถอะ!

        ก่อนกล่าวจบ นางก็ชักขากลับ ยันตัวลุกขึ้นคิดจะหยิบถุงเท้าสีขาวมาสวม ทว่าทันทีที่นางชักขากลับ ชายกระโปรงก็เลิกขึ้น เผยให้เห็นน่องขาวหมดจดของนาง

        “ช้าก่อน” โม่ซีโน้มตัวไป๳้า๹หน้าและจับน่องของนางไว้

        ฉีซีหงายหลังลงบนตั่งนุ่ม อุทานเสียงดังและจ้องไปที่เขา

        “เจ้าถามกูว่าเรามีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่เจ้าลืมตัวตนของเจ้าไปแล้วหรือ?” โม่ซีถามพร้อมเลิกคิ้ว

        ทันใดนั้นฉีซีก็นึกขึ้นได้

        “ท่านกับข้ามีความสัมพันธ์เป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้กัน”

        “แต่กูไม่คิดเช่นนั้น” โม่ซีแค่นหัวเราะ และเคลื่อนตัวไปตรงหน้าฉีซีทันที

        นางรีบนอนหงายอย่างรวดเร็ว เท้าศอกไว้๳้า๹หลัง ยกขาขึ้นยันไหล่ของเขาด้วยเท้าเปล่า เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้ได้อีกแม้แต่หนึ่งนิ้ว

        โม่ซีตะลึง ไม่คิดว่านางจะหยาบคายถึงเพียงนี้ ทว่าเมื่อกระโปรงของนางเลิกขึ้น เผยให้เห็นท่อนขาเรียว ทั้งสอง๳้า๹  และกางเกงชั้นในสีขาวบริสุทธิ์ แสงฤดูใบไม้ผลิที่ปรากฏบริเวณหว่างขาของนางทำให้เขาตาพร่าไปชั่วครู่

        ท่าทางของทั้งคู่คลุมเครืออย่างมาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปมาอย่างรวดเร็ว มีตั้งแต่ความประหลาดใจไปจนถึงกระตุ้นอารมณ์ ฉีซีตกใจ รีบหดขากลับอย่างรวดเร็ว

        ทว่าโม่ซีเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า การฝึกทหารมาหลายปีทำให้เขาตอบสนองโดยสัญชาตญาณ โน้มตัวไปหานาง มือ๳้า๹หนึ่งจับข้อเท้าของนางไว้ กดขา๳้า๹ที่นางหดกลับไปเข้ากับพนักพิงของตั่ง น้ำหนักตัวท่อนบนของเขากดทับท่อนล่างของนาง กักขังนางไว้อย่างแน่นหนา

        ฉีซีไม่สามารถขยับตัวได้จึงตะโกนด้วยความตื่นตระหนก "เจ็บนะ! ท่านจะทำอะไรข้ากัน!"

        โม่ซีรู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง มือขวาของเขากดที่ต้นขาด้านในและหัวเข่าของนาง มือซ้ายจับข้อเท้าที่เรียบลื่นของนาง จนกระทั่งนางถามว่าเขาคิดจะทำอะไรกับนาง?

        ทายา ใช่ไหมนะ?

        โม่ซีมองท่าทางตื่นตระหนกและไร้เดียงสาที่น่าดึงดูดของฉีซี ไม่รู้ด้วยเหตุใดจึงได้ลืมเรื่องการทายาไปสิ้น ในเมื่อนางไม่เคยถือว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ เช่นนั้นเขาจะทำตัวเป็นผู้มักมากในกาม จูบนาง และหยอกเย้านางเสียหน่อยก็คงจะดี

        “เจ้ามักเข้าใจผิดว่ากูเป็นสัตว์ร้าย เช่นนั้นกูจะลองเป็นสัตว์ร้ายให้เจ้าดูสักครั้ง?” เขาเผยรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ แววตาของเขาเป็นประกาย

        เขาโน้มตัวไป๳้า๹หน้า เชยคางของนาง และบังคับจูบอย่างรุนแรง

        ฉีซีถอยหลังไปจนกระทั่งด้านหลังศีรษะชนเข้ากับขอบตั่งที่เอียงไปด้านหลัง ไม่มีที่ให้ถอยอีกแล้ว ดวงตาที่ตื่นตระหนกของนางจ้องไปที่โม่ซี ตะโกนอย่างสับสน "หมายความว่าอย่างไรข้าไม่เคยคิดว่าท่านเป็นสัตว์ร้ายเลย!”

        ในเวลานี้ จูมามานำสาวใช้เข้ามารับใช้ในตำหนัก ทุกคนต่างประหลาดใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

        ซีอ๋องไม่ใช่คนชอบแสดงออกมากนัก และปกติแล้วมักจะมีสีหน้านิ่งเฉย ทว่าเพียงวันเดียว เหตุใดจึงดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ถึงเพียงนี้?

        ทว่าซีอ๋องตวัดสายตามองพวกนางในทันที ดวงตาของเขาเย็นชาและดุร้าย ก่อนจะกลับมาเป็นเจ้านายคนเดิมที่พวกนางรู้จัก พวกนางรีบออกจากตำหนักอย่างเงียบเชียบ และปิดประตูตามหลังทันที

        เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ฉีซีจึงตะโกน "จูมามา ช้าก่อน!"

        แต่โม่ซียิ้มจาง และกล่าวว่า "เจ้าอยากให้พวกนางอยู่ดูอย่างนั้นหรือเจ้ามีรสนิยมเช่นนี้เองหรือ?"

        เมื่อฉีซีได้ยินสิ่งนี้ก็ลมแทบจับ!

        เขาอยากให้นางร่วมหลับนอนตอนกลางวันแสกๆ อย่างนั้นหรือ?

        “ไม่ใช่นะ! ท่านบอกว่าข้ายังบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือสุภาพบุรุษจะไม่ผิดคำพูด!”

        นางตกใจจนหน้าซีดเผือด ทว่าไม่รู้ว่ามีประโยคหนึ่งสอดคล้องกับคำที่โม่ซีกล่าวไว้ก่อนหน้านี้

        “หึ คิดถึงเรื่องร่วมรักอีกแล้ว!” โม่ซีเลิกคิ้วมองพวงแก้มแดงก่ำและสีหน้าวิตกกังวลของนาง ภายในใจยิ่งรู้สึกอยากกลั่นแกล้งให้มากขึ้นอีก จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่สุภาพบุรุษ เจ้าพูดเองนะ จะตำหนิกูไม่ได้

        เขาบีบข้อเท้านางทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ลูบไล้ไปตามด้านในต้นขาและหัวเข่า ความรู้สึกเสียวซ่าระเบิดออกตามการสัมผัสของเขาและลามไปทั่วแขนขา ฉีซีรู้สึกตกใจ พยายามดึงขาออก พร้อมกับร้องตะโกนว่า "อย่าทำเช่นนี้ ! มันคัน!"

        “คันหรือ แน่นอน สักพักจะรู้สึกดีขึ้น...” เขาพูดติดตลกและจงใจลากเสียงส่วนท้าย

        ฉีซีรู้สึกอับอายและโกรธมากจนใบหูของนางแดงก่ำเป็นสีเลือด และเอ่ยปากก่นด่า "ท่านช่างไร้ยางอาย! เมื่อคืนยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่หรือถูกวิญญาณเข้าสิงอย่างนั้นหรือรีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ!"

        โม่ซีไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เมื่อคืนเขาไม่ได้แตะต้องนางแม้แต่น้อยเพราะอาการบาดเจ็บของนาง วันนี้เขาก็ไม่ได้คิดจะให้นางมาร่วมหลับนอน เพียงแต่นางปากไม่ดีและมองเขาด้วยสายตาที่ปราศจากความเคารพ เขาจึงต้องการให้นางรู้ว่าใครคือผู้เป็นนาย และต้องการกลั่นแกล้งจนกว่านางจะร้องขอความเมตตา

        “ข้าถูกวิญญาณร้ายสูบกินพลังชีวิตมนุษย์เข้าสิงร่าง เจ้าจะทำอะไรข้าได้ เขาโน้มตัวลงมากัดคอนางแล้วเริ่มดูดดึง

        “ฮึก! อ๊า!” เสียงครวญครางของฉีซี ทำให้ทั้งสองตกใจอย่างมาก

        โม่ซีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เห็นสีหน้าเขินอายและพวงแก้มแดงก่ำ ทำให้เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย

        ตรงนี้หรือ?

        เขาลองอีกครั้ง เลียลำคอขาวราวหิมะของนางเบาๆ

        “อืม!” ฉีซีกัดฟันและพ่นลมหายใจสั้นออกมา

        เป็นตรงนี้จริงๆ การเย้าแหย่นางช่างง่ายดายเสียจริง

        โม่ซีลอบหัวเราะในใจ ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับเข้าใจบางอย่าง และยิ่งรู้สึกพึงพอใจ

        เมื่อฉีซีเห็นเช่นนั้นจึงรีบยกมือขึ้นเพื่อปิดลำคอของตน นางเขินอายเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยคำพูดใด

        เหตุใดตนถึงส่งเสียงลามกเช่นนี้เมื่อเขาดูดดึงและเลียตนล่ะ?

        ยิ่งนางคิดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าก็ยิ่งร้อนผ่าวขึ้นราวกับน้ำเดือด นางหันศีรษะและตะโกนว่า "กลั่นแกล้งกันพอแล้วหรือยังปล่อยข้าไปเถอะ"

         

 

ตอนต่อไป
เล่มที่ 1 บทที่ 22 ถูกใจหรือ

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา