เรื่อง แรกแย้มวังบุปผา (NC)
โม่ซีก้มศีรษะอยู่จึงไม่สังเกตา าจึงไม่รีรอที่จะสำรวจเขา เขาเป็นบุรุษหน้าตาหล่อเหลาสง่างาม ริมฝีปากาหนาพอเหมาะ สีไม่สวยสดเท่าริมฝีปากของเฝิงซื่อหลาง ทว่ามีขอบที่คมชัด สะอาดสะอ้าน แะชุ่มชื้น——
ทันใดนั้นก็พลันนึกถึงจูบอันอ่อนโยนเมื่อคืนนี้ ใบหน้าของาก็ร้อนผ่าวขึ้นมา
คนบ้า!
สิ่งที่น่าโมโหที่สุดคือเขาหลับไปหลังจากจูบา ซึ่งทำให้าตื่นตกใจมากจนนอนไม่หลับทั้งคืน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้าไม่สบายใจมากกว่านั้นคือในตอนนี้ทั้งคู่มีระยะห่างเพียงครึ่งแขน ลมหายใจสงบนิ่งของเขาเป่ารดผิวหนังเปลือยตรงคอเสื้อผ้าชั้นในที่เปิดออกเล็กน้อยของา
าต้องการหลีกเลี่ยงลมหายใจที่รบกวนจิตใจนี้ ทว่าเขาัเอ่ยว่า "อย่าขยับ กำลังจะแก้ปมนี้ได้แล้ว"
าถูกบีบบังคับให้กัดริมฝีปากอดทน่ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาที่เป่ารดหน้าอกของา แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจจะยั่วยวน ทว่าอาการคันเล็กน้อยบริเวณผิวทำให้าตัวแข็งทื่อ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย ค่อยๆ หนีบเข่าเข้าหากันแน่น แล้วมองเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
จนกระทั่งเขาแก้ปมสุดท้ายที่พันกันรอบตัวาออก แล้วเงยหน้าขึ้นมองา ฉีซีรีบถอนสายตาออกอย่างรวดเร็ว เบือนหน้าหนีไม่มองเขา กระชับคอเสื้อพลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา "ขอบคุณ"
โม่ซีไม่เข้าใจว่าเหตุใดาจึงหน้าแดงก่ำราวกับถูกเขากลั่นแกล้ง ทว่าเขาก็ไม่พลาดความสงสัยแะความสับสนในดวงตาของา ไม่ต้องพูดถึงความอึดอัดแะความเขินอายของาเลย เขาเห็นาเม้มริมฝีปาก ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากเบาๆ ราวกับกำลังประหม่า เขารู้สึกว่าท่าทางนั้นช่างน่ารักแะดึงดูดจนอดไม่ได้ที่จะเอียงศีรษะแะประกบริมฝีปากกับา
ฉีซีเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าแสดงอับอายแะความโกรธ เขาจึงัมาได้สติอีกครั้งแะมีรอยยิ้มจาง หันัมาเรียกสาวใช้เข้าไปด้านในเพื่อทำความสะอาดตัวฉีซี
ในขณะที่สาวใช้ล้างหน้าของา ฉีซีก็เหยียดแขนขา หมุนข้อมือแะข้อเท้า ก่อนจะลอบถอนหายใจเมื่อพบว่าฤทธิ์ยาหมดลงแล้ว ท่าทางที่ผ่อนคลายของาตกอยู่ในสายตาของโม่ซี
ในเวลานี้จูมามาเข้ามาใกล้แล้วกระซิบ "ท่านอ๋อง เปลี่ยนเป็นชุดขององค์หญิงราชวงศ์ก่อนหรือ..."
โม่ซียกมือขึ้นสะบัดชายเสื้อคลุม นั่งลงบนตั่งนุ่ม เหลือบมองจูมามาแล้วกล่าวว่า "ตามนั้น"
สาวใช้นำเสื้อผ้าเก่าขององค์หญิงหลิวเฟิงมาเปลี่ยนให้ฉีซีทันที
สีหน้าของฉีซีเปลี่ยนไปเล็กน้อย ากัดริมฝีปากลอบมองเขาอย่างเงียบๆ เห็นว่าเขานั่งอยู่บนตั่งนุ่มด้วยใบหน้าเรียบเฉยแะกำลังจ้องมาที่า ารีบหันัมาด้วยความหวาดกลัว ให้าสวมเสื้อผ้าเหล่านี้เพื่อเปิดเผยตัวตนหรือ? หรือนี่คือการทดสอบ?
เมื่อไม่รู้ว่าแผนการของเขาคืออะไรจึงทำให้าไม่สบายใจ
ทว่าฉีซีครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง หากข่าวว่าาอยู่ในจวนซีอ๋องแพร่กระจายออกไป นั่นก็ไม่ต่างจากการส่งสัญญาณให้เหล่าทหารเก่าของหยวนฉีมาช่วยาหรอกหรือ?
ดังนั้นาจึงสวมเสื้อผ้าเก่าของตนอย่างสบายใจ เพียง──
ฉีซีมองย้อนัไปอีกครั้งแะเห็นว่าโม่ซีไม่มีความตั้งใจที่จะหลบสายตา ากัดริมฝีปากมองเขา
โม่ซีไม่ขยับเขยื้อนแะจ้องาอย่างครุ่นคิด
ใบหน้าของฉีซีแดงก่ำ กำหมัดแน่น ลอบก่นด่าว่าเขาช่างหยาบคาย ไม่ใช่สุภาพบุรุษหรือคนดีเลยสักนิด!
ทว่าเขาเป็นใหญ่ในที่แห่งนี้ าจึงทำได้เพียงอดทนเท่านั้น ทำใจกล้า หลับตาแล้วปล่อยให้สาวใช้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้า
โม่ซีเฝ้ามองาสวมเสื้อคลุมขององค์หญิงหลิวเฟิงอย่างสงบ
พฤติกรรมของฉีซีเมื่อวานนี้กระตุ้นความสนใจของเขา การให้าใส่อาภารณ์ขององค์หญิงถือเป็นการทดสอบ ทว่าวันนี้าัไม่ปฏิเสธซึ่งทำให้ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น
ในระหว่างการประชุม เขาคิดทบทวนอย่างละเอียดว่าเมื่อวานที่ถนนดอกไม้ เป็นการพบกันโดยบังเอิญหรือเป็นการจัดฉาก?
าคุ้นเคยกับแบบแปลนของพระราชวังต้องห้าม รูปร่างหน้าตาก็คล้ายคลึงกับหลิวเฟิงอย่างมาก เมื่อตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ทว่าาัยังสวมอาภรณ์ขององค์หญิง เพราะเหตุใดกันล่ะ?
นอกจากนี้ผ้ารัดอกสีแดงเข้มปักดิ้นทองบนร่างกายของาก็ดูแปลกมาก าตั้งใจให้เขาเห็นหรือเปล่า
ทว่าผู้ใดจะล่วงรู้ว่าเขารู้ว่ามันคือผ้ารัดอกของราชวงศ์?
หากาไม่ใช่องค์หญิงหลิวเฟิง แล้วผู้ใดยุยงให้าปลอมตัว? การปลอมตัวเป็นองค์หญิงหลิวเฟิงจะมีประโยชน์อะไร?
หลังจากคิดทบทวนดูแล้วก็รู้สึกว่ามีาอย่างผิดปกติ
ในขณะที่เขาคลายปมผมให้า ด้วยเหตุผลาอย่าง อารมณ์ที่หม่นหมองมานานของเขาก็คลายตามไปด้วย รู้สึกผ่อนคลายขึ้นทีละน้อย แะไม่สนใจตัวตนของาอีก่ไป
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าาจะเป็นราชวงศ์ที่มีสายเลือดของฮ่องเต้แห่งหยวนฉีผู้ล่วงลับไปแล้ว าสนม หรือากำนัล เมื่อเผชิญหน้ากับเขา ทหารหยวนฉีล้วนเป็นผู้พ่ายแพ้ นับประสาอะไรกับสตรีไร้ที่พึ่งผู้นี้ล่ะ?
“ท่านอ๋อง” สาวใช้เอ่ยเสียงเบา “อาหารกลางวันเตรียมพร้อมไว้ที่ห้องโถงด้านหน้าแล้ว”
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ลุกขึ้นยืน จับข้อมือาแล้วพูดว่า "ไปกินข้าวกับข้า"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ จูมามาแะสาวใช้คนอื่นต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ ทว่าเขาได้ลากฉีซีเดินไปที่ห้องโถงด้านหน้าแล้ว
ในห้องโถงด้านหน้ามีโต๊ะไม้สนแกะสลักรูปสี่เหลี่ยม ฉีซีกำลังคุกเข่าอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะด้วยความอัปยศ
เขาต้องการให้าปรนนิบัติเรื่องอาหารอย่างนั้นหรือ?
อาหารกลางวันของโม่ซีนั้นเรียบง่าย ประกอบด้วยเป็ย่างั่ชิ้นา แป้งาแผ่นาาเท่าฝ่าืห้าชิ้น ซุปเนื้อเป็หนึ่งถ้วย แะอาหารว่างสี่จานวางอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยมกำลังทรมานา
าถูกขังอยู่ในหอาโลมเป็นเวลาหลายวัน อาหารไม่เพียงพอ จนาผ่ายผอมลงมากเนื่องจากความหิว
เมื่อวานหลังหลบหนีจากหอาโลม าก็ยิ่งหิวทั้งวันทั้งคืน
เมื่อได้กลิ่นเนื้อเป็ย่าง ฉีซีจึงอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ ท้องของาก็ส่งเสียงออกมา ารีบกดหน้าท้องแะกัดฟันอดทน
โม่ซีเพิ่งให้ข้ารับใช้ล้างมือเสร็จ เดิมทีต้องการรอให้อาหารของาถูกยกมาก่อนแล้วจึงเริ่มกิน แต่เมื่อเห็นท่าทางของา จึงเลื่อนจานเป็ไปตรงหน้า
ฉีซีตกตะลึงจึงหันไปมอง เขากล่าวว่า "หากหิวก็กินก่อน"
เขาเป็นคนต้าจิ้งจึงรู้วิธีกินโดยธรรมชาติ ทว่าฉีซีไม่เคยกินอาหารจานนี้มาก่อน
เมื่อเห็นว่าาลังเล โม่ซีจึงโน้มตัวไปคีบแป้งทรงกลมสีาขึ้นมา วางลงบนฝ่าื จากชั้นคีบเนื้อเป็ขึ้นมาวางลงบนแป้งแล้วม้วน ก่อนจะยื่นให้า
ฉีซีรู้สึกประทับใจมากเสียจนไม่ยอมรับอาหารจากเขาอยู่ครู่หนึ่ง
โม่ซีนึกขึ้นได้ว่าายังไม่ได้ล้างมือ จึงเรียกข้ารับใช้มา จากนั้นจึงยัดแป้งม้วนใส่มือของฉีซี
"กินเสียสิ"
ฉีซีจ้องเขาอย่างว่างเปล่า อารมณ์ซับซ้อนผุดขึ้นมาภายในใจ แะไม่สามารถบอกได้ว่านี่คือความรู้สึกขอบคุณหรือความโศกเศร้าที่ตกมาถึงจุดนี้
เมื่อเห็นว่าาไม่ขยับเขยื้อน โม่ซีจึงเร่งเร้าอีกครั้ง ฉีซีจึงกัดแป้งเข้าไปหนึ่งคำ
“เช่นนั้นจะกัดไม่โดนไส้”
โม่ซีม้วนแป้งให้ตนเองอีกชิ้น ก่อนจะกัดคำใหญ่ให้าดู แะส่งสัญญาณให้ทำตาม
ามองเขาแล้วกัดอีกคำ ในที่สุดก็เจอเนื้อเป็
เมื่อเห็นโม่ซีมองาด้วยรอยยิ้ม มือของาก็เริ่มสั่นเล็กน้อย
บุรุษผู้นี้ช่างช่างละเอียดอ่อนแะอ่อนโยนมาก ทว่าักลายเป็น่เิของความรู้สึกเสียใจแะน้อยใจ่ชะตากรรมของาเอง
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??