เรื่อง ตำนานรักต้องห้ามของหมอหญิงชิงลั่ว..
หลังจากนั้นเ้าอวี้ชิงหนานก็ถูกอวี้ชิงลั่วมารดาุญ ดุด่า ยกใหญ่ แถมนางยังถูกขู่ว่าจะฟ้องเสวียอี้สามีเ้าอวี้ชิงหนานกลัวมากมันก็เลยต้องจำใจ ปิดปากอวี้ชิงลั่ว ด้วยการใช้ยาพิษที่คิดค้นขึ้นจากตำราแพทย์ลับต้องห้าม
"บ้าจริง ข้าไม่น่าประมาทเลย ผู้ใดจะคาดคิดว่าท่านแม่จะมาไม้นี้ และดูเหมือนหนนี้นางจะโกรธหนักเสียด้วย คงไม่ได้แกล้งขู่ข้าเรื่องจะเอาไปบอกท่านพ่อ เห็นทีข้าคงต้องใช้ของสิ่งนั้นเสียแล้ว ถึงแม้นข้าจะไม่มั่นนักว่าจะได้ผลก็ตาม"
เ้าอวี้ชิงหนานนั่งคุกเข่าก้มหน้าเงียบ ก่อนครุ่นคิดแผนการบางอย่างในใจ
"แม่อุตส่าห์หลงคิดว่าเ้าจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นเด็กดี แต่ที่ไหนได้ เ้ากลับเอาวิชาการแพทย์มาใช้ทำเช่นนี้แม่ผิดหวังในตัวเ้ายิ่งนัก หนานหนาน เอาล่ะลุกขึ้นมา แล้วตามข้ากลับกระท่อม รอพ่อเ้ากลับมาชำระความ"
อวี้ชิงลั่วเท้าเอว ขึ้นเสียงใส่บุตรชายุญของนางด้วยความโมโหสุดขีด ก่อนที่นางจะเรียกให้มันลุกขึ้น แล้วเดินตามนางกลับกระท่อมริมลำธาร ทว่า….พอพูดจบเ้าอวี้ชิงหนานกลับนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน อวี้ชิงลั่วก็เลยขมวดมุ่นคิ้วด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่นาง จะเข้ามาก้มดูมันใกล้
"หนานหนานเ้าเป็นอันใดไปไม่ได้ยินที่แม่ ว้าย…!!"
ยังไม่ทัน ที่อวี้ชิงลั่วจะถามจบ จู่ ๆ เ้าอวี้ชิงหนานก็ได้ใช้ผงบางอย่างในย่ามควักขึ้นมาสาดใส่หน้านาง เ้าผงนี้มีชื่อว่า ผงเบญจรส มีฤทธิ์ในการช่วยลบความทรงจำชั่วคราว เดิมทีเ้าอวี้ชิงหนานจะเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ทว่า…ยามนี้กลับต้องนำมาใ้ัมารดาุญคนงามผู้นี้เสียแล้ว..
"ท่านแม่ข้าขออภัยด้วย ใจข้าไม่อยากใช้วิธีนี่เลย แต่ท่านบีบบังคับข้า ข้าจึงมิมีทางเลือก" เ้าอวี้ชิงหนาน ค่อมตัว ประสานสองมือกล่าวขอขมามารดาของมัน
อวี้ชิงลั่วที่ถูกผง ผงเบญจรส ก็นิ่งงันไปเล็กน้อย ซึ่งเ้าอวี้ชิงหนานคิดว่าคงได้ผลเป็นแน่ ทว่า….ก็พลันเกิดความผิดปรกติที่มันไม่คาดขึ้น ทั่วร่างของอวี้ชิงลั่วแข็งทื่อราวกั่อนไม้ มีเพียงลูกตาสองดวงเท่านั้นที่ยังคงกรอกไปกรอกมา
"หือ...? เกิดอันใดขึ้น ทำไมท่านแม่ถึงตัวแข็งเป็นหิน นี่หาใช่ฤทธิ์ของผงเบญจรสไม่ หรือว่าข้ามันผสมตัวยาผิด..?" อวี้ชิงหนานขมวดมุ่นคิดด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะพลันหาไปดูในยาม จากนั้นสีหน้าของมันก็แปรเปลี่ยนเป็นตื่นตกใจสุดขีด
"เดี๋ยวก่อนนะ…!! นั้นมันขวดผงเบจญรสนี่ งั้นขวดที่ข้าเอาออกมาสาดท่านแม่ก็ต้องเป็น…ผงจังงัง..!!ผงที่จะทำให้ผู้ที่โดนเข้าไป ไม่สามารถขยับเชยื้อนเคลื่อนไหวได้ราว ๆ หนึ่งชั่วยาม เดิมข้าจะเอาป้องกันตัว แต่ไม่คิดเลยว่า…."
เ้าอวี้ชิงหนานเอ่ยพึมพำขึ้น ก่อนที่มันจะส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้อวี้ชิงลั่ว ซึ่งนางก็มองจ้อง กลับมาที่มันด้วยแววตาโกรธจัด แต่ใบหน้านิ่งเฉยเพราะฤทธิ์ของผงจังงัง
และในยามนั้นเองบนท้องฟ้าก็พลันบังเกิดเสียงดังสนั่นคล้ายกับเสียงฟ้าร้อง ก่อนจะตามมาด้วยสายลมที่พัดแรงจนต้นไม้ใหญ่เอวไหว เมฆก่อนใหญ่เริ่มก่อตัวกันดำทะมึนน่ากลัว
"พายุฝนกระนั้นหรือ…!!? แล้วแบบนี้ข้าจะทำเช่นไรต่อดี จะแบกท่านแม่ที่ตัวแข็งทื่อแบบนี้กลับกระท่อมก็คงได้อยู่ แต่ถ้ามีผู้ใดเห็นเข้าคงไม่ดีแน่เช่นนั้นข้าแบกท่านไปหลบฝนในถ้ำแถวนี้ก่อนดีกว่า อีกอย่างท่านจะได้ใจเย็นขึ้นด้วย ระหว่างที่รอยาหมดฤทธิ์ ท่านแม่ว่าดีหรือไม่…"
"........"
"ท่านแม่ไม่ตอบ เช่นนั้นข้าถือว่าท่านตกลงนะ"
เ้าอวี้ชิงหนานพูดเองเออเอง ทั้ง ๆ ที่มันก็รู้ว่าอวี้ชิงลั่วถูกผงจังงังทำให้เปิดปากพูดไม่ได้ ก่อนที่มันจะตรงเข้าไปอุ้มร่างแข็งทื่อของนางเพื่อไปหาถ้ำหลบฝน ทว่า..เพียงมันแบนางเดินได้ไม่ถึงสิบก้าว ฝน-่าใหญ่ก็เทลงมาราวกับฟ้ารั่ว ทุกอย่างเปียกโชกไปหมดเ้าอวี้ชิงหนานรีบวิ่งตะบึ้งไปเรื่อย ๆ ก่อนที่มันจะได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่งในที่สุด จึงพลันเข้าไปหลบพายุฝนที่กำลังโหมกระหน่ำ
"อ๊าาา..าา เปียกหมดเลย พายุบ้าอันใดกันมาเกิดฤดูนี่ ดูสิข้ากั่านแม่เปียกหมดแล้ว"
เ้าอวี้ชิงหนานบ่นพึมพำก่อนที่มันจะบิดเสื้อที่เปียกน้ำฝน ส่วนอวี้ชิงลั่วนั้นมันนำนางไปนั่งอยู่ตรงผนังถ้ำ
"โชคดีนักที่ข้าบังเอิญวิ่งมาเจอถ้ำแห่งนี้พอดี โอ้ มีเศษไม้ที่วางสุ่มกันไว้ด้วย น่าจะเคยมีคนเข้ามาก่อกองไฟ พักแรมในนี้ วิเศษนักข้าจะได้จุดไฟผึ่งเสื้อผ้าที่เปียก ขืนใส่แบบนี้มีหวังปอดบวม ไข้กินเป็นแน่"
เ้าอวี้ชิงหนานยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีก่อนที่มันจะค่อย ๆ ถอดเสื้อของตนออกที่ล่ะชิ้น จนในที่สุดก็ล้อนจ้อน ดูคล้ายมันคงจะลืมไปว่า อวี้ชิงลั่วมารดาุญของมันนั่งมองอยู่
"โอ้ ข้าลืมไปเลย ท่านแม่นั่งดูอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ เพราะถึงอย่างไรท่านก็คงไม่โกรธข้ามากไปกว่านี้แล้ว…" เ้าอวี้ชิงหนานเอ่ยขึ้นขณะที่หันไปมองมารดาคนงามของมัน ที่ใบหน้าแดงก่ำ นั่งมองอยู่ จากนั้นเ้าอวี้ชิงหนานก็ทอดถอนหายใจก่อนจะมานั่งหน้ากองไฟที่มันพึ่งจุดขึ้น นั่งไปมันก็พล้ำเพ้อพรรณนาอะไรไปเรื่อยเปื่อยราวกับคนบ้า
วันเวลาช่างผ่างไปเนินนานเชื่องช้า เหลือเกิน ยามนี้ฝนยังไม่หยุดตก และเวลาก็พึงจะผ่านไปไม่ถึงครึ่งก้านธูปด้วยซ้ำ
เ้าอวี้ชิงหนานนั่งกอดเข่ามองกองไฟไปเรื่อย ก่อนที่มันจะรู้สึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เ้าอวี้ชิงหนานหันไปมองที่อวี้ชิงลั่ว ซึ่งมันก็เห็นนางหนาวจนกายสั่นระริก แม้นจะขยับไม่ได้ แต่ร่างกายยังคงตอบสนองต่ออากาศรอบตัว
"ท่านแม่หนาวหรือ...? จริงสินะ สวมเสื้อผ้าเปียกน้ำฝนเช่นนั้น แถมฝนยังตกไม่หยุดจนทำให้อากาศเย็นหากปล่อยไว้แบบนี้ ท่านแม่คงจะไม่สบายเป็นแน่ งั้นข้าคงต้อง…."
เ้าอวี้ชิงหนานเอ่ยพึมพำขึ้น ก่อนที่สายตาของมันจะมองกวาดลงตั้งแต่ทรวงอกถึงช่วงล่างของอวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วทราันทีว่าลูกชายุญตัวแสบกำลังคิดจะทำอันใด
แต่ปัญหาก็คือยามนี้ นางเปิดปากพูดไม่ได้ ขยับขัดขืนก็ไม่ได้ ทำได้แค่เบิกตา ถลึงตาเพื่อจะสื่อกับอวี้ชิงหนานว่า
‘อย่าได้ถอดเสื้อผ้าของนางออก แม้แต่ชิ้นเดียว’
ทว่า….ดูเหมือนเ้าอวี้ชิงหนานจะมิได้สนใจ ภาษาสายตาที่นางพยายามจะสื่อแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าในใจของเ้าอวี้ชิงหนานยามนี้ มันหวังดีกับนางจริง ๆ หรือหวังอย่างอื่นที่ต่ำช้าเลวทรามกันแน่…
จบ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??