เรื่อง ผู้พิทักษ์แดนเหนือ (จบ)
บทที่ 46 ความขัดแย้งเชิงบวก
หนังด้านนอกของขากวางสุกอย่างรวดเร็ว ฮั่วอวี๋หั่นเนื้อส่วนที่ถูกทาด้วยเครื่องปรุงไว้ในจานของตน ก่อนจะวางมันข้างกองไฟเพื่อรักษาความร้อน
จากนั้นชายหนุ่มก็ตัดเนื้อกวางสีแดงที่มีขนาดเท่ากันออกมาสองชิ้นและส่งให้กับเจ้าตัวเล็กแพ็กคู่
ความต้องการสารอาหารของพวกมันค่อนข้างต่างกัน เพราะลูกหมีขาวควรจะกินมากกว่าเสี่ยวอวี๋
อย่างไรก็ตาม ผู้พิทักษ์น้ำแข็งหนุ่มยังคงยืนกรานที่จะแบ่งอาหารให้ในปริมาณเท่ากัน นี่เป็นกฎที่ไม่มีทางเปลี่ยน
เมื่อให้อาหารสัตว์เลี้ยง คุณไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะอิ่มหรือไม่ แต่สิ่งที่ต้องกังวลมากกว่าก็คือความเท่าเทียม ปริมาณของอาหารที่ให้กับเจ้าตัวเล็กทั้งสองควรจะเท่าเทียมกัน ไม่เช่นนั้น สัตว์อาจจะไม่พอใจผู้เป็นเจ้านาย และปริมาณอาหารที่ต่างกันยังสร้างความขัดแย้งระหว่างสัตว์ทั้งสองได้
หากเสี่ยวอวี๋อิ่ม แต่หมีขาวตัวน้อยยังอยากกินต่อ การให้เนื้อกวางเพิ่มตอนนั้นก็ยังไม่สาย
ชิ้นเนื้อกวางนี้ยังคงสดมาก เพราะฮั่วอวี๋เรียนรู้วิธีที่ใช้เก็บรักษามันมาจากชาวเอสกิโม
เมื่อชาวเอสกิโมต้องการเก็บเนื้อสัตว์ พวกเขาจะขุดหลุมลึกในหิมะและฝังปลา สัตว์ทะเล และเนื้อสัตว์ที่จับได้ลงไป ด้วยวิธีนี้ พวกเขาสามารถเก็บเนื้อได้เป็นเวลานาน โดยที่คุณภาพของเนื้อจะไม่ลดลง
ในขั้วโลกเหนือ ธรรมชาติคือตู้เย็น และเป็นตู้เย็นที่ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนในอาหาร
สิ่งที่ตลกมากก็คือวิธีการกินของเจ้าตัวเล็กทั้งสองนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าเสี่ยวอวี๋จะเป็นหมาป่าอาร์กติก แต่มันก็ได้รับการดูแลอย่างดีหลังจากที่เริ่มมีความคิด แม้ว่ามันจะกินเร็ว แต่วิธีการกินของมันก็เหมือนสุภาพบุรุษที่มีระเบียบ
ในทางตรงกันข้าม ลูกหมีขาวกินเนื้อกวางเข้าไปคำใหญ่ ฮั่วอวี๋ไม่เคยเห็นมันเคี้ยวอาหาร หลังจากที่ฉีกเนื้อชิ้นใหญ่ มันก็กลืนเนื้อทั้งชิ้นเข้าไปเลย
เสี่ยวอวี๋ที่อยู่ด้านข้างเพิ่งทานเนื้อไปเพียงครึ่งชิ้นเท่านั้น แต่ลูกหมีขาวกลับกินเนื้อเข้าไปจนหมดแล้ว บางทีคำว่า ‘เขมือบ’ อาจเหมาะที่จะใช้อธิบายวิธีการกินของเจ้าหมีขั้วโลกตัวน้อยมากกว่า...
หลังจากที่กินเนื้อชิ้นดังกล่าวเข้าไป ลูกหมีขาวก็เงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่ม ดวงตาสีดำสนิทของมันบ่งบอกความปรารถนาที่จะกินเนื้อเพิ่ม
ฮั่วอวี๋ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาตัดเนื้อที่มีขนาดเท่ากันสำหรับทั้งสองและวางลงตรงหน้าพวกมัน
เสี่ยวอวี๋เพียงเหลือบมองเนื้อตรงหน้าของตน จากนั้นก็ตั้งใจกับการกินเนื้อต่อ
ขณะที่ลูกหมีขาวส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้นและรีบวิ่งเข้าไปเขมือบเนื้อต่อ วิธีการกินที่ตะกละตะกลามของมันทำให้ขนขาว ๆ ถูกย้อมด้วยสีแดงจากเลือดบนเนื้อกวาง
“การกินเร็วเป็นเรื่องปกติของสัตว์ป่า แต่เพราะอดอาหารมาเป็นเวลานาน การกินของลูกหมีขาวตัวนี้จึงเร็วเกินปกติ พฤติกรรมแบบนี้จำเป็นต้องได้รับการปรับแก้อย่างช้า ๆ" ผู้พิทักษ์น้ำแข็งหนุ่มกลัวว่าจะรบกวนการกินของลูกหมีขาวจึงกระซิบกับกล้องเสียงเบา
“ตอนนี้ผมกำลังสงสัยว่าเจ้าตัวน้อยอาจมีปัญหาทางจิต โดยปกติแล้ว ลูกหมีขั้วโลกจะร่าเริงและขี้สงสัยมาก แต่ผมไม่เห็นพฤติกรรมแบบนั้นในลูกหมีตัวนี้เลย ตรงกันข้าม มันทำตัวดีจนผิดวิสัย"
ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เห็นลูกหมีขั้วโลกที่มีชีวิตน่าสงสารแต่ก็ยังแสดงออกอย่างเชื่อง ๆ เหล่าผู้ชมภายในห้องถ่ายทอดสดก็ตกหลุมรักเจ้าตัวน้อยอย่างลึกซึ้ง
เมื่อพวกเขาได้ยินฮั่วอวี๋กำลังสงสัยว่าเจ้าลูกหมีอาจมีปัญหาทางจิตก็อดไม่ได้ที่จะถาม
- สัตว์เองก็สามารถมีปัญหาทางจิตได้ด้วยเหรอ? จริงเหรอ?
- จริงสิ! หลังจากที่คุณยายของฉันเสีย สุนัขของเธอก็ไม่กินไม่ดื่มอะไรเลย มันทำตัวเฉื่อยชา สัตวแพทย์บอกว่ามันคิดถึงคุณยายมากจนมีอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรง"
- ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้าหมีขั้วโลกตัวใหญ่นั่น มันน่ารังเกียจมาก!"
- ใ่ ฆ่าแม่ของเจ้าตัวน้อยแถมยังกินน้องชายฝาแฝดของมันอีก หัวใจของเด็กน้อยจะทนได้ยังไง?"
- เจ้าของห้องไม่น่าดึงลูกธนูออกมาจากเจ้าหมีนิสัยเสียตัวนั้นเลย น่าจะฆ่ามันไปซะ!"
ฮั่วอวี๋ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างอดไม่ได้ ขณะที่มองดูความคิดเห็นที่ประณามการกระทำของพ่อหมีขั้วโลก
“แม้ว่าตัวผมเองจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของหมีขั้วโลกตัวนั้น แต่ผมก็อยากที่จะอธิบายให้พวกคุณทราบถึงความจริงข้อหนึ่ง คืออย่านำวิธีการคิดของมนุษย์มาใช้กับสัตว์"
“ในฐานะมนุษย์ มันเป็นเรื่องยากสำหรับผมเช่นกันที่จะยอมรับความโหดร้ายของหมีขั้วโลกตัวนั้น แต่หากผมเป็นสัตว์ ผมก็เข้าใจและเคารพในการกระทำของมัน"
ทันทีที่ผู้พิทักษ์น้ำแข็งหนุ่มเอ่ยเช่นนี้ แถบข้อความก็ลุกเป็นไฟ ชาวเน็ตและผู้ชมจำนวนมากรีบโต้แย้ง
- เจ้าของห้องพูดเรื่องอะไร? ลูกหมีขั้วโลกตัวหนึ่งถูกฆ่าไป คุณยังกล้าบอกว่าเคารพและเข้าใจการกระทำของหมีขั้วโลกตัวนั้นอีกเหรอ?
- อาจารย์อวี๋ ผมเห็นด้วยกับการกระทำของคุณมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ ผมไม่สามารถเห็นด้วยกับคุณได้จริง ๆ ผู้ที่ฆ่าเมียและลูกของตัวเองไม่สมควรได้รับความเคารพใด ๆ ทั้งสิ้น"
- เห็นแบบนี้แล้วทนไม่ไหวจริง ๆ ฉันเริ่มดูการถ่ายทอดสดตอนที่อาจารย์อวี๋เดินทางมาที่สถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 249 และฉันก็ไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่สิ่งที่เขาพูดตอนนี้ทำให้ฉันอยากจะเลิกติดตามจริง ๆ"
- เจ้าของห้อง คุณคือผู้พิทักษ์น้ำแข็งที่เต็มไปด้วยความชอบธรรม คุณออกหน้าแทนไอ้หมีสารเลวนั่นได้ยังไง?"
- ไปเถอะ ไปเถอะ ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว น่าผิดหวังจริง ๆ"
ฮั่วอวี๋เลื่อนสายตาดูแถบข้อความทั้งหมด คนส่วนใหญ่มีทัศนคติในทางตรงข้ามกับเขา ความไม่เข้าใจบนหน้าจอดูเหมือนจะเอ่อล้นออกมาเรื่อย ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับเหล่าผู้ชมตั้งแต่ที่เริ่มทำการถ่ายทอดสด ชายหนุ่มเข้าใจความโกรธของเหล่าผู้ชม แต่เขาก็ยังคงยืนกรานในความคิดของตัวเอง
บางวันที่นอนไม่หลับท่ามกลางแถบขั้วโลกที่หนาวเหน็บ ฮั่วอวี๋มักจะครุ่นคิดกับตัวเอง
เขาตระหนักถึงความรับผิดชอบของตัวเองในฐานะผู้พิทักษ์น้ำแข็งเป็นอย่างดี
แต่เขาก็เป็นผู้ถ่ายทอดสดด้วย แล้วความรับผิดชอบของผู้ถ่ายทอดสดคืออะไร?
ผู้ถ่ายทอดสดสามารถทำได้เพียงสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชมและดึงดูดความสนใจด้วยการใช้ลูกเล่นบางอย่างเท่านั้นหรือ?
หากเป็นแบบนั้นจริง เช่นนั้นความบันเทิงคงกลายเป็น ‘เจ้าแห่งสื่อ’ ไปแ้ ทุกวันนี้หลายคนละทิ้งคุณค่าทางศิลปะและจริยธรรมเพียงเพื่อทำผู้คนหัวเราะ
เหล่าบล็อกเกอร์ ผู้ถ่ายทอดสด ผู้ผลิตวิดีโอ แม้แต่นักเขียนออนไลน์ต่างก็ยอมละทิ้งบรรทัดฐานของตนเองเพื่อเอาใจผู้บริโภค เนื้อหาที่พวกเขาเผยแพร่ออกไปไม่มีอะไรให้ขบคิด และสิ่งที่หลงเหลือจากเสียงหัวเราะก็คือความว่างเปล่าและความเฉยชา
ฮั่วอวี๋ไม่อยากเป็นผู้ถ่ายทอดสดแบบนั้น คำว่า ‘บันเทิงจนตาย’ ไม่ได้มีเพียงเพื่อเตือนผู้ชมเท่านั้น
แต่บุคคลแรกที่จะ ‘า’ จากความบันเทิงเหล่านี้คือเหล่าผู้ผลิตที่เผยแพร่เนื้อหาความบันเทิงราคาถูกและว่างเปล่า!
ชายหนุ่มค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นและเอ่ยกับเหล่าผู้ชมด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "พวกคุณใช้ชีวิตอยู่เพื่ออะไร?"
“เมื่อจิ้งจกเผชิญหน้ากับอันตราย มันจะสะบัดหางของตัวเองเอาไว้และหนีไป!"
“เพื่อที่จะได้มาซึ่งอาณาเขตและตัวเมียมากขึ้น ลิงชิมแปนซีจะฆ่าลูกของตัวเองและกินสายพันธุ์เดียวกัน!"
"ผึ้งตัวผู้จะตายหลังจากที่ผสมพันธุ์กับราชินีผึ้งเพื่อที่จะสืบพันธุ์!"
“นอกเหนือจากมนุษย์ สัตว์ทุกชนิดต่างดิ้นรนในธรรมชาติ สิ่งที่พวกเราประสบทุกวันคือชีวิต แต่สิ่งที่พวกสัตว์ประสบทุกวันคือการเอาชีวิตรอด!"
“มนุษย์มีระบบความคิดขั้นสูงอย่างความปรารถนา อุดมคติ และความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่คอยควบคุมพฤติกรรม แต่สัตว์มีเพียงแค่สัญชาตญาณเท่านั้น”
"การมีศีลธรรมเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าสัตว์!"
“นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราถึงต้องเข้าใจและไม่ควรเข้าไปแทรกแซงชีวิตของผู้อื่นมากนัก แทนที่จะใช้ศีลธรรมของตัวเองตัดสินสัตว์ที่มีเพียงสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอด"
“พวกคุณสามารถเกลียดพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตใด ๆ ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดได้ แต่ความพยายามในการเอาชีวิตรอดของมันก็ควรค่าแก่การเคารพ!"
หลังจากที่ฮั่วอวี๋เอ่ยจบ ก็เกิดความเงียบขึ้นภายในห้องถ่ายทอดสดทันที
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??