เรื่อง ราชันมารศักดิ์สิทธิ์
บทที่ 47 ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมยิ่งนัก
"หากไม่ปล่อยเจ้ามา เช่นนั้นข้าจะสามารถหาตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ได้อย่างไร!"
ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ นักฆ่าชุดดำก็เหงื่อตก มือทั้งสองข้างกำแน่น
เมื่อมองไปยังโจวอวี่ฝู เซียวนั่วไม่ได้ประหลาดใจแม้แต่น้อย
บุคคลเพียงคนเดียวในสำนักที่สามารถรู้ตำแหน่งของเขาได้ตลอดเวลาก็คืออีกฝ่าย
“ผู้อาวุโสโจว ไม่ได้พบกันเสียนาน!"
"หึ!" ดวงตาของโจวอวี่ฝูฉายแววเย็นชา "ความโง่ของเจ้าอยู่เหนือความคาดหมายของข้าเสียจริง"
"หืม?"
“พวกเขาอาจไม่มีความสามารถในการฆ่าเจ้า แต่เจ้าคิดหรือว่าข้าเหมือนกับพวกเขา?"
ใบหน้าของโจวอวี่ฝูฉายชัดถึงเจตนาฆ่า เมื่อครู่นี้ หลังจากได้ยินว่าภารกิจล้มเหลว ความคิดแรกของโจวอวี่ฝูคือ ต้องเตรียมลงมือด้วยตัวเอง
แต่นางไม่คิดเลยว่าเซียวนั่วจะเป็นฝ่ายมาหานางก่อนช่นนี้
เพราะอย่างไร จุดประสงค์หลักที่จ้างคนเหล่านี้ก็เพื่อค้นหาตำแหน่งเท่านั้น
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด “เช่นนั้นท่านคงต้องเร่งมือแล้ว เพราะด้านหลังของข้า ยังมีกลุ่มคนดีที่ชอบรับชมเรื่องสนุกกำลังเดินตามมา หากท่านชักช้าจนพวกเขามาเห็น เกรงว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับท่านที่จะถอยกลับไปยังสำนักแล้ว"
"หืม?" ดวงตาของโจวอวี่ฝูฉายแววเย็นยะเยือก นางเหลือบมองไปยังพื้นที่ด้านหลัง และพบว่ามีเสียงดังมาจากทิศทางนั้นจริง ๆ
ทันใดนั้น โจวอวี่ฝูก็แค่นหัวเราะ “่าเ้า แค่กระบวนท่าเดียวก็เพียงพอ!"
สิ้นคำ รัศมีพลังอันแข็งแกร่งก็ระเบิดออกมาจากร่างของโจวอวี่ฝู นางกระโดดลอยตัวอยู่ในอากาศด้วยความสูงเกือบสิบจั้ง
นิ้วมือทั้งห้าควบแน่นอากาศเข้าด้วยกัน กระแสอากาศโดยรอบหลั่งไหลมารวมกันที่ฝ่ามือ
เพียงพริบตา คมดาบแหลมคมก็ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงัน
"ดาบเสวียนอิน!"
"สะบั้น!"
โจวอวี่ฝูสะบัดแขนเสื้อ แรงผลักอันน่าตกใจก็ปะทุออกมาจากฝ่ามือของนาง ดาบแหลมพุ่งใส่เซียวนั่วราวกับสายฟ้า
ดาบเสวียนอินคือเคล็ดวิชาที่มีพลังทำลายล้างสูง
ด้วยการหลอมรวมพลังปราณของบุคคลเป็นดาบ พลังของดาบจึงเพิ่มขึ้นตามระดับขั้นการบ่มเพาะของเจ้าตัว และด้วยความแข็งแกร่งนี้นางจึงสามารถสังหารผู้คนจากในระยะไกลได้อย่างง่ายดาย
ฟึ่บ!
พริบตานั้น ดาบที่บรรจุกระแสอากาศสีดำพุ่งฉิวเข้าสู่สายตาของเซียวนั่ว ชายหนุ่มไม่ประมาทแม้แต่น้อย ถุงมือน้ำแข็งหานหยวนปล่อยพายุน้ำแข็งออกมาทันที
ตู้ม!
ถุงมือน้ำแข็งหานหยวนต้านดาบเสวียนอินเอาไว้ เกิดคลื่นพลังรุนแรงกระจายไปโดยรอบ
พื้นดินใต้เท้าแตกร้าว เศษหินและฝุ่นจำนวนมากปลิวว่อนอยู่ในอากาศ
พึ่บ!
เซียวนั่วถอยไปหลายจั้ง ใบหน้าฉายแววประหลาดใจ
ทว่า โจวอวี่ฝูกลับตกตะลึงยิ่งกว่า อีกฝ่ายสามารถต้านดาบเสวียนอินของนางได้?
“เด็กน้อย ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำไปจริง ๆ คนเหล่านั้นตายไปอย่างไม่ยุติธรรมโดยแท้"
หลังจากเอ่ยเช่นนั้น โจวอวี่ฝูก็พุ่งตัวลงจากความสูงเกือบสิบจั้ง ดวงตาเป็นประกายเย็นยะเยือก ฝ่ามือสว่างวาบด้วยลายเส้นแสงสีฟ้า
“เจ้าซ่อนความสามารถเอาไว้ลึกจริง ๆ แต่กลับโง่เขลา มาหาข้าเช่นนี้ รนหาที่ตาย!"
"ฝ่ามือดาราไท่เสวียน!"
พรึ่บ!
พลังของฝ่ามือดังกล่าวเป็นดั่งกระแสน้ำกว้างใหญ่ ลวดลายดวงดาวสีน้ำเงินหมุนวนไวขึ้น และฝ่ามือก็ปรากฏทรงกลมอย่างรวดเร็ว
เซียวนั่วรู้สึกถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่อัดแน่นอยู่ในฝ่ามือของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน พลังฝ่ามือของโจวอวี่ฝูในครั้งนี้แข็งแกร่งกว่าดาบเสวียนอินเมื่อครู่หลายอยู่เท่า
ปราศจากความลังเล ดวงตาของชายหนุ่มปรากฏร่องรอยสีแดงเลือด
ตู้ม!
เลือดภายในร่างเดือดพล่าน เสื้อคลุมกระพือไหว คลื่นพลังปีศาจแพร่กระจายออกไป
"ระเบิดจุดพลังต่อเนื่องหกกระบวนท่า!"
พริบตานั้น หมัดและฝ่ามือก็เข้าปะทะกันจนเกิดเป็นพายุรุนแรง
ตู้ม!
ด้วยความแข็งแกร่งของการระเบิดจุดพลังต่อเนื่องหกกระบวนท่า และพลังของฝ่ามือดาราไท่เสวียน บังเกิดเป็นแรงกระแทกรุนแรง ส่งผลให้พื้นดินโดยรอบปรากฏรอยร้าวจำนวนมาก คลื่นกระแทกที่ทรงพลังแผ่กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ
เซียวนั่วกระเด็นถอยหลังมากกว่าสามจั้ง แม้มุมปากจะหลั่งเลือด แต่ในกายเดือดพล่าน จิตวิญญาณต่อสู้ในแววตายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
“สองกระบวนนท่า ผู้อาวุโสโจว ท่านต้องรีบแล้ว!"
"หืม?" ใบหน้าของโจวอวี่ฝูถอดสี นางไม่อยากเชื่อว่า เซียวนั่ว ผู้ที่อยู่เพียงขั้นสร้างรากฐาน จะมีการป้องกันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
สำหรับผู้ฝึกตนขั้นสร้างรากฐานธรรมดาทั่วไป ฝ่ามือเมื่อครู่เพียงพอแล้วที่จะทำให้อีกฝ่ายเละเป็นก้อนเนื้อ
แต่คนผู้นี้กลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
เมื่อเห็นว่ากลุ่มคนด้านหลังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ โจวอวี่ฝูก็ไม่มีเวลาให้คิดอะไรมากนักอีก “เจ้าคนสารเลว วันนี้ ข้าจะหั่นร่างของเจ้าเป็นชิ้น ๆ!"
พรึ่บ!
ทันทีที่เอ่ยจบ ฝ่ามือของโจวอวี่ฝูก็ปรากฏดาบเสวียนอินอีกครั้งพร้อมกับพลังปราณที่อันตรายอย่างยิ่ง
นางยกมือขึ้น และสะบัด ดาบเสวียนอินก็เปลี่ยนเป็นลำแสง พุ่งฉิวออกไป ขณะเดียวกัน นางก็พุ่งตัวตามหลังดาบตรงเข้าใส่เซียวนั่ว
แววตาของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย มือซ้ายสวมถุงมือน้ำแข็งหานหยวน มือขวาถือดาบมนต์ดำเอาไว้มั่น
เมื่อดาบเสวียนอินมาถึงตรงหน้า ชายหนุ่มก็ขยับตัวเพื่อหลบคมดาบดังกล่าว และเปลี่ยนเป็นร่างมายาสองร่างพุ่งตัวออกไป
"สะบั้นเงา!"
ฟึ่บ!
ฟึ่บ!
กระบวนท่าแรกของทักษะเพลงกระบี่เงาเหินเวหาของสำนักกระบี่ขุนพลสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ร่างมายาสองร่างพุ่งเข้าโจมตีโจวอวี่ฝูจากทั้งสองด้าน!
หากเป็นคนธรรมดา พวกเขาอาจสับสนกับอุบายนี้ แต่โจวอวี่ฝูคือผู้อาวุโสของสำนักพยับเร้นลับ นางสามารถหาร่างจริงของเซียวนั่วได้ในเสี้ยวลมหายใจ
"อุบายหลอกเด็ก"
โจวอวี่ฝูเอ่ยอย่างดูแคลน กระแทกฝ่ามือไปยังร่างมายา
ตู้ม!
อากาศระเบิดอย่างรุนแรง โจวอวี่ฝูหยุดกำปั้นน้ำแข็งด้วยฝ่ามือเดียว พื้นดินใต้เท้าทั้งสองแตกเป็นเสี่ยง ๆ กระแสอากาศที่ปั่นป่วนส่งเสียงดังสนั่น ขณะที่น้ำแข็งสีขาวกระจายออกไปโดยรอบ
ในตอนนั้นเอง ดาบมนต์ดำพลันเปล่งเสียงคำรามอันทรงพลังออกมา
โฮกกกก!
โจวอวี่ฝูรู้สึกว่าสมองของนางมึนงงไปชั่วขณะ เซียวนั่วอาศัยจังหวะนี้ฟันคมดาบแหลมในมือลงไป!
แต่โจวอวี่ฝูเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักพยับเร้นลับ นางรีบสงบจิตใจ และถอยห่างทันที
ฟึ่บ!
คมดาบพลาดเป้า แต่ยังตัดเนื้อผ้าบริเวณไหล่ของนางจนขาดวิ่นได้
โจวอวี่ฝูรีบปิดรอยขาดบนไหล่ แววตาเย็นยะเยือกขึ้นราวกับต้องการจะแช่แข็งทุกสิ่ง
นักฆ่าชุดดำที่อยู่ไม่ไกลออกไปตกตะลึงโดยสมบูรณ์ เขาไม่คิดเลยว่าแม้แต่โจวอวี่ฝูก็จะไม่สามารถจัดการคนผู้นี้ได้
ขณะเดียวกัน คนกลุ่มหนึ่งจากในภูเขาก็เดินมาถึง
คนกลุ่มนั้นคือ ลั่วหนิง ี่า และคนอื่น ๆ
โจวอวี่ฝูรู้ว่านางไม่สามารถไปต่อได้แล้ว มันอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยหากมีคนเห็นว่า นางพยายามจะฆ่าศิษย์ในสำนัก แต่มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่หากเหลียงซิงเฉินไม่สามารถกลายเป็นศิษย์ชั้นยอดได้
นางยังต้องอาศัยเหลียงซิงเฉินในการก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในสำนักพยับเร้นลับเช่นกัน
ดังนั้น นางจะปล่อยให้มีใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอันขาด
ถึงอย่างไร เซียวนั่วก็เป็นอันดับหนึ่งของเหล่าผู้มาใหม่ในปีนี้ ด้วยชื่อเสียงของอีกฝ่าย ทางสำนักจะต้องเพ่งความสนใจอย่างแน่นอน
“ฮึ่ม ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักระยะ..."
หลังจากเอ่ยเช่นนั้น โจวอวี่ฝูก็เลื่อนสายตาไปทางนักฆ่าชุดดำ
นักฆ่าชุดดำไม่ทันได้ตอบสนอง โจวอวี่ฝูก็สะบัดแขนเสื้อ ปาดาบเสวียนอินออกไป
ฉึก!
ดาบที่มีลักษณะคล้ายสายฟ้าพุ่งเข้าใส่ลำคอของนักฆ่าชุดดำ เลือดสีแดงฉานพุ่งทะลัก นักฆ่าชุดดำคนดังกล่าวถูกตัดศีรษะสิ้นใจคาที่
โจวอวี่ฝูรีบเปลี่ยนร่างเป็นลำแสงสีขาวพุ่งตัวหายไปทันที
"ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมยิ่งนัก..."
เซียวนั่วหรี่ตาลง ส่ายหน้าไปมา เมื่อนักฆ่าชุดดำตาย ก็จะไม่มีร่องรอยที่สามารถสาวถึงตัวของโจวอวี่ฝูได้อีกต่อไป
แม้ตนจะหาคนไปรายงานเรื่องนี้กับจ้าวสำนัก แต่ก็เป็นเพียงลมปาก ไร้หลักฐาน
"เฮ้อ!"
ชายหนุ่มถอนหายใจ “ด้วยความแข็งแกร่งของข้า มันยังยากเกินไปที่จะเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับโจวอวี่ฝูสินะ"
จิตวิญญาณหอคอยเอ่ย “ผู้หญิงคนนั้นอยู่ขั้นควบคุมลมปราณระดับเก้า ต่อให้ท่านใช้ลูกปัดวิญญาณโลหิต ก็ยังคงมีช่องว่างอยู่"
ขั้นควบคุมลมปราณระดับเก้า อยู่ห่างจากขั้นผสานจิตเพียงระดับเดียวเท่านั้น
ตอนนี้โจวอวี่ฝูเพิ่งอายุประมาณสามสิบปี นางยังมีเวลาพัฒนาอีกมาก ความสำเร็จในอนาคตของนางจะต้องไม่ต่ำอย่างแน่นอน
ยิ่งการที่นางสามารถดำรงตำแหน่งผู้อาวุโสได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ ก็เพียงพอจะแสดงให้เห็นแล้วว่า นางไม่ธรรมดา
"ท่านมิต้องกังวลไป..." จิตวิญญาณหอคอยเอ่ย “ด้วยกายาสัมฤทธิ์โบราณ ความแข็งแกร่งทางกายภาพของท่านเพิ่งเริ่มต้น เมื่อความแข็งแกร่งคงที่ พลังของท่านจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ"
ชายหนุ่มพยักหน้า และไม่เอ่ยอะไรอีก
ในความเป็นจริง เซียวนั่วไม่ได้ประมาท รู้อยู่ว่าโจวอวี่ฝูนั้นแข็งแกร่ง แต่นางก็ไม่กล้าโจมตีเขาต่อหน้าผู้อื่น
ต่อให้เป็นผู้อาวุโสของสำนักพยับเร้นลับ แต่หากต้องการฆ่าใครสักคน ก็ควรมีเหตุผลที่สมควร
ไม่มีผู้ใดสามารถพิสูจน์ได้ว่าโจวอ้านถูกตนฆ่า หรือต่อให้สามารถพิสูจน์ได้ว่าโจวอ้านตายด้วยน้ำมือของตน แต่มันก็เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้าสำนักพยับเร้นลับ
ตอนนี้เซียวนั่วได้เป็นศิษย์อย่างเป็นทางการของสำนักแล้ว เขาย่อมได้รับการคุ้มครองในระดับหนึ่ง
ตอนมาถึงที่นี่ ชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่า ลั่วหนิง ี่า และคนอื่น ๆ กำลังตามมาด้านหลัง
และหากโจวอวี่ฝูไม่สามารถฆ่าเขาได้ทัน นางจะต้องยอมรามืออย่างแน่นอน
หากโจวอวี่ฝูโหดเหี้ยมกว่านี้ นางคงฆ่าคนทั้งหมดเพื่อปิดปาก แต่ในกรณีนั้น นางจะต้องแบกรับความเสี่ยงมากขึ้น
หากสำนักทำการสืบสวน ผลที่ตามมาจะร้ายแรงอย่างใหญ่หลวง
ร่างของลั่วหนิง ี่า และคนอื่น ๆ ปรากฏขึ้นด้านข้างของเซียวนั่ว
คนทั้งหมดไม่ทันเห็นโจวอวี่ฝูเมื่อครู่ แต่พวกเขาก็ต่างตกตะลึงกับร่องรอยการต่อสู้ที่อยู่โดยรอบ
"พลังทำลายล้างพวกนี้มันอะไรกัน?" ี่าเอ่ยเสียงทุ้ม
ลั่วหนิงลังเลเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินเข้าไป “เซียวนั่ว เจ้าเป็นอะไรหรือไม่? คนพวกนั้นเป็นใครกัน?"
ชายหนุ่มเหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อย ไม่ได้ตอบคำถาม แต่เดินไปยังศีรษะของชายชุดดำ
เขาดึงผ้าดำออกจากใบหน้าของอีกฝ่าย ใบหน้าไร้สีเลือดปรากฏสู่สายตา
คนทั้งหมดมองตาม ลั่วหนิงกับี่าไม่ได้เอ่ยอะไร แต่สีหน้าของเลี่ยเทากลับเปลี่ยนไป
"นั่นมัน... หานเตียน!?"
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??