Dream ฝันค้างบนทางรัก yuri
Dream ฝันค้างบนทางรัก
ผู้แต่ง : ทอถักอักษรา
สัจจะเอ๋ยขอตั้งจิตอธิษฐาน
ฟ้าเป็นพยานใจมั่นไม่หวั่นไหว
จะขอรักภักดีทุกชาติไป
แม้สิ้นลมหายใจ.....ไม่สิ้นรัก
ความรักของเจ้าหญิงนลินยุพาและเจ้าหญิงมณีจันทร์เจ้าหญิงต่างเมืองที่ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ หากแต่ความรักของทั้งคู่มีอุปสรรคมากมาย
ทั้งสองต้องหนีไปสุดหล้าเพราะเจ้าชายอติรัณณ์พี่ชายของเจ้าหญิงมณีจันทร์ รักและต้องการอภิเษกกับเจ้าหญิงนลินยุพา เธอทั้งสองจะหนีพ้นหรือไม่!
จวบจนชาติปัจจุบันเพราะคำอธิษฐานในชาติก่อน ชาตินี้เธอทั้งคู่จึงกลับชาติมาเกิดเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน เธอต้องทำต้องทุกวิธีเพื่อหาหนทาง ย้อนอดีตไปถอนคำสาบาน!
..............................................................
ดึกสงัดท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นของงานอภิเษกสมรสเจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงบรรทมนิ่งบนพระแท่นบรรจถรณ์น้ำพระเนตรไหลอาบพระพักตร์ด้วยความขมขื่นพระทัย... เพลานี้พระนางอันเป็นที่รักคงกำลังสุขสมกับพระเชษฐา ทรงลืมพระองค์จนสิ้นแล้ว
“น้องหญิง น้องหญิง...” พระสุรเสียงหวานบนเศร้าดังมาจากพระแกล๑เจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงพระดำเนินไปถอดดาลที่ลั่นไว้
“เจ้าพี่ เจ้าพี่ทรงมาได้เยี่ยงไร แล้วเสด็จพี่อติรัณณ์เล่าเพคะ” ตรัสถามด้วยพระสุรเสียงสั่น เมื่อคนที่พระนางกำลังทรงคิดถึงเสด็จมาอยู่ตรงหน้าพระพักตร์ พระวรกายของพระนางทรงชุดฉลองพระองค์เยี่ยงบุรุษเพศสีดำสนิท
“เสด็จพี่อติรัณณ์ทรงกำลังดื่มน้ำจัณฑ์อย่างสำราญกับพระสหาย มณีจันทร์...พี่จักหนี เจ้าจักหนีไปกับพี่ฤๅไม่...”
“เจ้าพี่....”
“เจ้าไม่ไปใช่หรือไม่ เจ้าหมดรักพี่แล้วฤๅ...” เจ้าหญิงนลินยุพาตรัสด้วยพระสุรเสียงตัดพ้อ อย่างทรงน้อยพระทัย
“หม่อมฉันยินดีไปกับเจ้าพี่เพคะ ต่อให้จะต้องหนีไปสุดหล้า หรือหม่อมฉันจะต้องตาย หม่อมฉันก็จักหนีเพคะ...” เจ้าหญิงมณีจันทร์ตรัสพร้อมกับทรงเก็บข้าวของส่วนพระองค์ใส่ห่อพระภูษา
“เจ้าพี่ทรงรับหม่อมฉันด้วยนะเพคะ” ตรัสพร้อมกับทรงปืนพระแกล ทิ้งพระวรกายอยู่เบื้องล่างที่มีเจ้าหญิงนลินยุพาทรงรอรับอยู่
เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์ทรงโอบกอดพระวรกายของกันและกันอย่างแสนเสน่หา หากต้องมีพระชนชีพโดยปราศจากกันและกันแล้ว พระองค์จะทรงมีพระชนชีพต่อไปเพื่ออันใด...
“พี่ว่าเรารีบไปกันเถิด... ก่อนที่คนอื่นจักมาเห็น”
“เพคะ...”
เจ้าหญิงนลินยุพาทรงยกพระวรกายบอบบางของเจ้าหญิงมณีจันทร์ไว้บนหลังอินทรอาชา ม้าทรงตัวโปรดของพระองค์ ก่อนจะทรงขึ้นมาประทับด้านหลังนางอันเป็นที่รักและควบม้าออกไปอย่างรวดเร็วและเงียบกริบ...
เจ้าหญิงนลินยุพาและเจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงม้ามาถึงชายป่า รอยต่อระหว่างเมืองต่างๆ ทรงผินพระพักตร์ไปยังนครพินทุปุระ ทั้งสององค์ทรงทอดพระเนตรพบว่าทั่วทั้งนครสว่างไสวด้วยแสงไฟ เสียงฝีเท้าของอาชาไนยดังทั่วทั้งนคร
“เจ้าพี่...เราจะไปทางไหนดีเพคะ ป่านนี้เสด็จพี่อติรัณณ์คงจะทรงทราบแล้วว่าเราหนีมา...น้องกลัวเพคะเจ้าพี่” เจ้าหญิงมณีจันทร์ตรัสด้วยพระสุระเสียงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“ไม่ต้องกลัวไปหรอกน้องหญิง...พี่จะปกป้องเจ้าด้วยชีวิต....” ตรัสพร้อมกระชับเรือนร่างบอบบางของนางอันเป็นที่รักไว้ในวงพระกรก่อนจะควบม้าไปทางด้านหนึ่งของชายป่า
เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์ทรงม้ามาจนถึงผาน้ำตกแห่งหนึ่ง ที่คล้ายม่านน้ำขนาดมหึมา สายน้ำไหลจากที่สูงสาดกระเซ็นกระทบหินแตกเป็นละอองพราวระยับสวยงาม เสียงน้ำปริมาณมหาศาลที่โถมกระแกก้อนหินใหญ่น้อยเคล้าเสียงนกน้อยขับขานช่วยให้ผืนป่าเขียวขจีดูมีชีวิตชีวา
เสียงควบอาชาไนยดังแว่วมาแต่ไกลและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เจ้าหญิงทั้งสององค์ทรงได้สติขึ้นมา... ทั้งสององค์ต่างโอบกอดกันกันและกันเอาไว้
“น้องหญิงเราไม่มีทางเลือกแล้วเจ้าจะว่ากระไร”
“เจ้าพี่จะกระโดดลงไป ฤๅเพคะ”
“ใช่”
“หม่อมฉันยินดีตามเจ้าพี่ไปทุกหนทุกแห่งเพคะ...”
เจ้าหญิงมณีจันทร์และเจ้าหญิงนลินยุพาเสด็จพระราชดำเนินไปริมผาน้ำตก โอบกอดพระวรกายของกันและกันไว้ก่อนตัดสินพระทัยกระโดดลงไปเบื้องล่าง
พระวรกายบอบบางหมุนคว้างก่อนจมดิ่งลงไปในห้วงวารี...
สารบัญ
CONTENT
รายการรีวิว
REVIEW
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??