เรื่อง มหาศึกห้าแผ่นดิน
ฮั่วเิเห็นี้าของุๆ คน ็หันไป้้าโจวั แล้ว่า่า
“ เจ้าคิดจะกลับคำพูดกับพวกเราอย่างนั้นรึ”
ฮั่วเิเ่พร้อมกับปลดปล่อยพลังปราณมหาเซียนของตนเองออกมา ทำใหุ้ๆ คน ต่างตัวสั่นลงไปคุกเข่ากับพื้นกันทันที
“ ไม่ใช่ ข้าไม่ได้กลับคำ แต่ผลึกสีฟ้าั่ พวกเราไม่เคยมีใครนำัออกมาได้เลย”
โจวัเ่อธิบาย
“ อ้าว แล้วเด็กเหล่านั้นเข้าไปทำอะไร ไม่ได้ช่วยกันขุดผลึกฟ้าหรอกรึ?”
ฮ้าวอี๋เ่อย่างั แต่ยังไม่สั่งให้ ฮั่วเิให้คลายพลัง
“ พวกเขาแค่เข้าไปขุด แต่ว่าผลึกสีฟ้าั่ ัก้อนใหญ่ เด็กๆ ของเราไม่อาจนำออกมาได้”
“ แต่เจ้า็ยังรับปากจะมอบให้ข้า เจ้าคิดหลอกข้าอย่างนั้นรึ?”
ฮ้าวอี้ ก้าวเท้าเข้ามาใกล้ว แล้วกระชากคอเสื้อของโจวัยกลอยขึ้นบนอากาศ
“ ข้าไม่ได้โกหก ถามพวกเด็กๆ ดู็ได้”
เด็กๆที่ยืนฟังอยู่็รีบพยักหน้ายืนยัน
ทำให้ฮ้าวอี๋ต้องปล่อยโจวัลง
“ ข้าจะเข้าไปข้างในนั้นเอง”
ฮ้าวอี๋ เ่ออกมา แล้วาศิษย์น้องทั้งสอง ก้าวเท้าเข้าไปในอุโมงค์ศักดิ์สิทธิ์ แม้โจวัจะร้องเตือนว่าอันตรายห้ามเข้า แต่ พวกเขาทั้งสาม็ไม่สนใจ ส่วนฝ่ายองค์หญิงเจ็ด พอเห็นพลังการต่อสู้ของทั้งสาม ็ไม่กล้าที่จะขัดด้วย จึงเดินตามไปดู
แต่พอสามคนั่จะเข้าไป ็ถูกม่านพลังงานบางอย่างขวางเอาไว้ ไม่ว่าทั้งสามคนจะรวมพลังปราณปล่อยออกไป แต่็ไม่อาจทำลายม่านพลังที่ขวางกั้นได้
“ ข้าไม่เชื่อว่าแดนมนุษย์จะสามารถต้านทานพลังของข้าได้”
ฮ้าวอี๋ นำกระบี่ของตนเองออกมา ใช้เรียกสายฟ้าฟาดเข้าไปในกำแพงม่านพลัง แต่ทว่า ัเหมือนกับสะท้อนพลังสายฟ้ากลับเข้าใส่ร่างของ ฮ้าวอี๋จนกระเด็นกลิ้งออกไป เสื้อผ้าถึงกับไหม้เกรียม ฮ้าวอี๋อับอายยิ่งนัก รีบหาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ทันที ทัวทัว กับฮั่วเิ็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน
ทันใดนั้น แผ่นดิน็เริ่มสะเทือนเลือนลั่น ุๆ คนรีบหันไปดู ็พบว่า มีเผ่าคนแคระมากันเกือบห้าร้อยคนโดยมีคนขี่ม้านำหน้าอยู่หนึ่งคน ซึ่งทั้งคนและม้าล้วนมีรูปร่างใหญ่กว่าม้าและมนุษย์ทั่วไป ถึง สามเท่า
“หัวหน้าเผ่าคนแคระมาแล้ว”
โจวัเ่อย่างหวาดกลัว ทั้งหมดหันไปมอง็ถึงกับแตกตื่นตกใจ ไม่คิดว่าจะพบม้าและคนที่มีร่างกายใหญ่โตขนาดนี้
ชายร่างยักษ์มองดูซากศพของเหล่าคนแคระที่กำลังถูกเผา ็กำหมัดแน่น หันไปมองกลุ่มขององค์หญิงเจ็ด และ ชาวบ้านที่ตอนนี้ต่างหวาดกลัว แข้งขาสั่นแทบจะยืนไม่อยู่
“ บังอาจนัก กล้าสังหารคนของข้า วันนี้ข้าจะให้พวกเจ้ามาเป็นทาสรับใช้ของข้าตลอดไป”
หัวหน้าคนแคระ ยกมือส่งสัญญาณออกไป เหล่าคนแคระคราวนี้ถือมีอาวุธธนูในมือ แล้วเริ่มยิงใส่กลุ่มชาวบ้านและเหล่าองครักษ์ทันที
“ คุ้มครององค์หญิง” แม่ชีเมี่ยวซุนตะโกนสั่งองครักษ์ ที่เข้ามายืนด้านหน้าปกป้ององค์หญิงเอาไว้ แต่ฮ้าวอี๋กับศิษย์น้องทั้งสอง กลับยืนอยู่ด้านหน้า แล้วยกมือขึ้นปล่อยพลังปราณ ลูกธนูที่มากันราว-่าฝนกลับหยุดยั้งกลางอากาศ แล้วร่วงหล่นต่อหน้าุๆ คน
“ หืม..พลังปราณมหาเซียน?”
ทันใดนั้นเอง ฮั่วเิ็วาร์ปร่างของตนเข้ามาใกล้หัวหน้าของคนแคระ พร้อมกับปราณกระบี่นับร้อย กำลังแทงใส่ร่างของหัวหน้าคนแคระ
“ ตายเสียเถอะเจ้ายักษ์” ฮั่วเิเ่อกมาอย่างมั่นใจ
“ บังอาจ” หัวหน้าคนแคระ เ่เสียงเหี้ยม แล้วใช้หมัดของตนปล่อยพลังออกไปทีเดียว
โครม!!
เงาปราณกระบี่นับร้อยแตกกระจาย ร่างของฮั่วเิถึงกับปลิวละลิ่ว ราวกับว่าวถูกตัดลงมาสลบต่อหน้าฮ้าวอี๋กับทัวทัว
“ ศิษย์น้อง”
“ ศิษย์พี่รอง”
ทั้งสองคนต่างแตกตื่นตกใจ หัวหน้าคนแคระขยับม้าเข้ามาอย่างช้าๆ เสียงม้าที่ก้าวย่าง พื้นดินถึงกับยุบตัวลงไป สร้างความแตกตื่นให้กับุๆ คนยิ่งนัก
ทัวทัวเขวี้ยงดาบวงพระจันทร์ออกไป เพื่อตัดขาม้า แต่ทว่าม้ายักษ์ตัวนั้น กลับใช้ขาของัตบดาบวงพระจันทร์ลงไปกับพื้น ไม่อาจทำอะไรัได้
หัวหน้าคนแคระยกมือขึ้นปล่อยพลังหมัดของตนออกไปกระแทกใส่ร่างของทัวทัว แม้นว่าทัวทัว จะเรียกพลังของตนมาสร้างเกราะป้องกัน แต่ไม่อาจต้านพลังนี้ได้ ถูกกระแทกจนสลบไป
ฮ้าวอี๋ ชักกระบี่ยกขึ้นไปบนฟ้า เรียกสายฟ้าลงมา แล้วฟาดใส่ร่างของหัวหน้าคนแคระ
เปรี้ยง!!
หัวหน้าคนแคระกลับไม่สะทกสะท้าน สายฟ้าที่ฟาดลงมาไม่อาจระคายผิวของัไม่
“ สายฟ้ากระจอกของเจ้า ใช้กับข้าไม่ได้หรอก เจ้าโง่”
หัวหน้าคนแคระกระโดดตัวลอยลงมาจากหลังม้า เสียงเท้าของักระทบพื้น ทำเอาแผ่นดินถึงกับสะเทือน
ฮ้าวอี๋ พุ่งกระบี่ที่มีสายฟ้าบนตัวกระบี่ แทงใส่ร่างของหัวหน้าคนแคระอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าร่างของหัวหน้าคนแคระกลับกลายเป็นเ็สีเงินไปทั้งร่าง หัวหน้าคนแคระจับตัวกระบี่ด้วยมือเปล่า แล้วบิดเป็นเกลียว จากนั้น็ใช้เท้าถีบเข้ากลางอกของ ฮ้าวอี๋จนกระเด็นปลิวลิ่วไปนอนกับพื้นกระอักเลือดออกมา แล้วสิ้นสติไป
ทหารองครักษ์เห็นหัวหน้าคนแคระเดินเข้ามา ็ระดมยิงธนูหน้าไม้เข้าใส่ แต่็ไม่อาจระคายผิวที่เป็นเ็กล้าได้ กระเด็นกระดอนออกไป หัวหน้าคนแคระกระทืบเท้าออกไปบนพื้นทีเดียว มีพลังงานบางอย่างพุ่งกระแทกใส่เหล่าองครักษ์ จนกระเด็นกระดอนออกไป ไม่อาจต้านทานได้ จั่วหลงไป๋กับลูกน้อง ทั้งสี่ชักกระบี่ออกมาคิดจะต่อสู้ แต่็ถูกพลังของหัวหน้าคนแคระ ฟาดด้วยฝ่ามือกระเด็นสลบไปกองกับพื้นเรียบแม่ชีเมี่ยวซุนเห็นท่าไม่ดี จึงใช้ลูกประคำที่คล้องคอ ขว้างเข้าใส่หัวหน้าคนแคระ
ตูม ๆ ๆ ๆ!!!
ที่แท้ลูกประคำนั้นคือบรรจุดินระเบิดเอาไว้ แต่หัวหน้าคนแคระหาได้เป็นอะไรไม่ร่างกายของัแข็งแกร่งดั่งเพชร ยังคงเดินหน้าต่อ แม่ชีเมี่ยวซุน จับมือองค์หญิงเจ็ดเพื่อหนีเอาตัวรอด แต่ช้าไปแล้ว หัวหน้าคนแคระอ้าปากร้องออกมา มีคลื่นพลังงานออกมาพุ่งเข้ากระแทกใส่ร่างของแม่ชีเมี่ยวซุน จนกระเด็นสลบกลางอากาศ หัวหน้าคนแคระมองหน้าองค์หญิงอย่างหื่นกระหาย
โตว้เจี้ยนเต๋อกับโต้วเหลียนฮัว เข้ามาซัด ระเบิดยาสลบเข้าใส่หัวหน้าคนแคระแต่ัหาได้เป็นอะไรไม่ ใช้ฝ่ามือสะบัดออกไปเป็นแรงลม กระแทกใส่ร่างของทั้งสองจนสลบไป
ตอนนี้เหลือเพียงชาวบ้านที่คุกเข่ากับพื้น มีองค์หญิงเจ็ดที่ยืนเชิดหน้า พร้อมชักกระบี่ออกมา
“ อย่าเข้ามานะ” องค์หญิงเจ็ดชี่กระบี่ไปที่เจ้ายักษ์หัวหน้าคนแคระ มือถือกระบี่สั่นระริกๆ
“ ช่างงามจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นสตรีที่งดงามเช่นนี้มาก่อน หากเจ้ายินยอมเป็นภรรยาของข้า ข้ารับปากจะไม่สังหารพวกั แล้วจะไว้ชีวิตคนในหมู่บ้านนี้ทั้งหมด”
องค์หญิงเจ็ดตอนนี้คิดแต่เพียงฆ่าตัวตายเพื่อรักษาเกียรติของตัวเอง แต่พอถูกเจ้ายักษ์บ้ากามนี่ นำคนของตนเองและชาวบ้านนับร้อยมาขู่เช่นนี้ ถึงกับพูดไม่ออก ตัดสินใจไม่ถูก หัวหน้าคนแคระผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ สามารถนำเหล่าชีวิตคนเหล่านี้มาต่อรองกับ องค์หญิงเจ็ดได้
ระหว่างนั้นราเชน็ค่อยๆ เดินเข้ามา พร้อมกับไม้เท้าคู่ใจของตน มายืนด้านหน้าองค์หญิง แล้วเผชิญหน้ากับหัวหน้าคนแคระ
“ ไสหัวไปซะ ข้าไม่อยากฆ่าเจ้า”ราเชนเ่ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ในมือถือไม้เท้าหักครึ่งท่อนเอาไว้ และตอนนี้ัมีโลหิตของเขาไหลซึมเข้าไปในไม้เท้าแล้ว
องค์หญิงเจ็ดถึงกับอ้าปากค้าง หัวหน้าคนแคระ็ถึงกับุิ่มองชายหนุ่มตาบอดไร้ปราณยุทธ์ผู้นี้ กองทัพคนแคระห้าร้อยคน ถึงกับหัวเราะออกมา ที่มีคนบ้ากล้าพูดเช่นนี้กับหัวหน้าคนแคระ
“ เจ้าบอด รู้ไหมเจ้าพูดอยู่กับใคร นี่คือ ราชันเ็ไหล หนึ่งในห้าราชันแห่งอาณาจักรพฤษาแห่งนี้ เมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้า็จะส่งเสริมเจ้าเอง”
คนแคระคนสนิทคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้าง ลอยตัวเข้ามา พร้อมกับฟาดกระบองที่ใหญ่กว่าร่างของตนเสียอีก หมายที่จะแยกหัวของเขาออกจากกัน
โครม!!
ร่างของคนแคระที่ลอยตัวเข้ามาถูก ไม้เท้าอสูรโลหิตของราเชนที่ลอยออกจากมือ พุ่งเข้ากระแทกใส่จนร่างของัลอยลิ่วหายไปจากสายตาของุๆ คนในทันที งานนี้ไปไม่กลับอย่างแน่นอน
ไม้เท้าอสูรโลหิตบินกลับเข้ามาในมือของราเชน หัวหน้าคนแคระถึงกับขมวดคิ้วมองราเชนกับไม้เท้าอย่างั
“ ข้าไม่เชื่อว่า เจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้”
ราชันเ็ไหล ก้าวเท้าเข้ามาหาราเชน แต่ถูกไม้เท้าอสูรโลหิต ที่ตอนนี้กลายเป็นไม้เท้ายาว พุ่งเข้ากระแทกใส่ร่างเ็ไหล จนต้องถอยหลังไปหลายก้าว
“ ไม้เท้าของเจ้า มีปัญญาเพียงเท่านี้เร๊อะ?”
ราชันเ็ไหลยิ้มอย่างมั่นใจ แต่ทว่า ไม้เท้าอสูรโลหิตในมือของราเชนตอนนี้แปรสภาพเปลี่ยนเป็นไม้พลองสีเงินขนาดใหญ่ ฟาดเข้าใส่ใบหน้าของัจนเซถลาหัวทิ่มไปกับพื้น
ราชันเ็ไหลโมโหยิ่งนัก รีบลุกขึ้นจากพื้น ถ่มเลือดที่กระอักออกมาจากปาก
“ มนุษย์อย่างเจ้า กล้าทำให้เลือดเทพอย่างข้าไหลออกมาได้ ข้าจะให้เจ้าตายด้วยพลังเทพของข้า”
ราชันเ็ไหล ยื่นมือออกมา มือของัแปรสภาพเป็นดาบใหญ่ แล้วตวัดเข้าใส่ร่างของราเชนทันที แต่ราเชน็ใส่ไม้เท้าอสูรโลหิตที่ยาวกว่าแทงสวนกลับไป
โครม!!
ไม้เท้าอสูรโลหิตกระแทกใส่ร่างของราชันเ็ไหล จนปลิวกระเด็นไปอีกครั้ง
แล้วราเชน็ไม่รอให้ัโจมตีอีก ใช้ไม้เท้า็ระดมฟาดเข้าใส่ร่างของราชันเ็ไหล จนราชันเ็ไหลต้องเจ็บปวดตัวงอกับพื้น จนกระทั่งไม้อสูรโลหิตแปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นไม้ขนาดใหญ่เท่าท่อนซุง ฟาดเข้าไปใส่ร่างราชันเ็ไหล จนจมี ร่างของัถึงกับุิ่ไม่ไหวติง เหล่าคนแคระทั้งห้าร้อยอ้าปากตาค้าง
“ ฆ่าั” คนแคระที่เหลือเห็นลูกพี่เป็นเช่นนี้ ็สั่งระดมยิงธนูใส่ราเชนแล้วชาวบ้านทันที
ไม่ทันที่ราเชนคิดจะป้องกันตัวอย่างไรดี กำไลพระอรหันต์ ็ส่องแสงประกายออกมาเป็นวงแหวน ปกป้องุๆ คนจากลูกธนูที่พุ่งเข้ามานับร้อย ไม่สามารถผ่านเข้ามาทำอันตรายชาวบ้านได้
“ วิเศษถึงเพียงนี้เชียว” ราเชนรู้สึกดีที่เห็นอิทธิฤทธิ์ของกำไลพรอรหันต์นี้
ราเชนเห็นชาวบ้านปลอดภัย ็จะจัดการกับกองทัพคนแคระ เขาใช้ไม้เท้าอสูรโลหิต เขวี้ยงออกไป กลายเป็นกระบอกยักษ์ไล่ฟาดใส่กองทัพคนแคระทั้งห้าร้อยจนต้องหนีกันกระเจิดกระเจิง
แล้วไม้เท้าอสูรโลหิต็กลับเข้ามาสู่มือของราเชนกลายเป็นไม้เท้าหักๆ อันหนึ่งเหมือนเดิม
องค์หญิงและชาวบ้านุๆ คนต่างตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ ขอบคุณ คุณชายโฮว่ที่ช่วยชีวิต” องค์หญิงเจ็ดเ่กับราเชนอย่างจริงใจ
“ กระหม่อมแค่อยากช่วยเหลือชาวบ้านเท่านั้น”
“ ข้าไม่คิดเลย ว่าคุณชายโฮ่วจะมีของวิเศษเช่นนี้”
สายตาองค์หญิงมองไปที่ไม้เท้าหักของราเชน แต่ไม่ทันที่ราเชนจะเ่อะไรขึ้นมา
ร่างของราชันเ็ไหล ็ผุดขึ้นจากพื้นดิน ร้องคำรามอย่างโมโห กระโดดตัวลอยเข้ามาด้านหลังของราเชน องค์หญิงเจ็ด และชาวบ้างต่างกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ
ราเชนหมุนตัว แล้วใช้ไม้เท้าหัก ฟาดออกไปอย่างเต็มแรง ไม้เท้าอสูรโลหิตกลายเป็นไม้พลองเ็กล้า ฟาดเข้ากลางลำตัวของ ราเชนเ็ไหล จนปลิวหายลับไปจากสายตาของุๆ คน
“ หวังว่าัคงไม่กลับมาอีกนะ” ราเชนเ่อย่างไม่แน่ใจ แต่ดูจากภาพแล้ว ร่างหักพับขนาดนั้น ไม่ตาย็คงบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเร็ววัน
ชาวบ้านต่างคุกเข่าคำนับราเชน พร้อมกับกล่าวขอบคุณ
“ ลุกขึ้นเถอะ เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
ราเชนบอกใหุ้ๆ คนลุกขึ้น ทำให้องค์หญิงเจ็ดั
“ คุณชายโฮว่ นี่ท่านตาบอดจริงหรือไม่ ทำไมท่านเห็นด้วยหรือว่าพวกเขากำลังคุกเข่าอยู่”
“ ตาข้ามองไม่เห็น แต่ข้าใช้จิตสัมผัสได้” ราเชนไม่ยอมบอกว่าเขามีดวงตาที่สามสามารถเห็นได้แจ่มชัด
“ คุณชายโฮ่ว ข้ามีเรื่องสำคัญขอคุยกับท่านเป็นการส่วนตัว” โจวัเ่ขึ้นพร้อมกับาราเชนเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งในนั้นมีหญิงชรานั่งรออยู่แล้ว
“ ท่านแม่เฒ่า ข้าาคนที่ช่วยพวกเรามาแล้ว ท่านลองดูซิว่า เขาคือ ผู้ปลดปล่อยคนนั้นใช่หรือไม่” โจวัเ่ขึ้นมาทันที
หญิงชรามองหน้าราเชน แล้วใช้มือลูบใบหน้าและแขนของเขา ตรวจดูอย่างละเอียด และนำกล่องไม้โบราณออกมา แล้วเปิดต่อหน้าราเชน ด้านในมีอำพันสีเหลืองด้านในมีหยดเลือดสีทองติดอยู่ ทันใดนั้นเอง อำพันสีเหลือง็เกิดแตกร้าวโลหิตสีทองส่องแสงสว่างวาบขึ้น แล้วั็พุ่งเข้าไปที่หน้าผากของราเชน แล้วหลอมรวมเข้าไปอยู่ในร่างกายเขาทันที โดยที่ราเชนเองนั้น็ยืนมึนงง ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น
“ ในที่สุด พวกเรา็ได้พบกับผู้ปลดปล่อยแล้ว รีบาเขาไปที่้ำศักดิ์สิทธิ์เร็ว”
แม่เฒ่ากล่าวอย่างตื่นเต้น ุๆ คนต่างจับมือ กอดคอกันอย่างดีใจ น้ำตาไหล
โจวัรีบาราเชนไปที่้ำศักดิ์สิทธิ์ั่ทันี......
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??