เรื่อง ชู่ว์... พระชายา ท่านซ่อนสิ่งใดไว้บนคาน! [แปลจบแล้ว]
ท่ามกลางาีอันืิ เม็ดฝนค่อยๆ โปรยลงมาจากท้องฟ้า ผู้คนเดินขวักไขว่สวนกันอยู่บนถนนล้วนรีบร้อนก้าวเท้าอย่างว่องไว เมื่อมองดูท้องฟ้าที่มืดดำ เกรงว่าอีกสักประเดี๋ยวฝนคงตกลงมา-่าใหญ่เป็นแน่
ใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิทนั้นกลับมีหญิงคนหนึ่งเดินอยู่ท่ามกลางพายุฝน เธอไม่กางร่ม บรรยากาศนั้นเงียบขรึม ท่าทางของเธอดูไม่แยแสและแทบจะไม่มีอาการร้อนรนใดๆ เลยสักนิด หากมองอย่างถี่ถ้วนก็จะเห็นว่าที่ข้อมือของเธอมีไข่มุกสีทองเปล่งประกายล้อแสง มันทอแสงสว่างราับม่านที่กั้นกลางระหว่างสายฝน
ในขณะนั้น ชายชุดดำคนหนึ่งเดินผ่านร่างของหญิงสาวไปและไหล่ของทั้งสองคนก็กระทบกัน คล้ายกับว่าเขาไม่ได้ระวังจึงเดินชนกับหล่อนเข้า
เพียงชั่วเวลาเดียับที่หญิงสาะพริบตา สายฟ้าก็ฟาดผ่าลงมาพลัน เธอคว้าแขนผู้ชายชุดดำคนนั้นไว้
ครืน ครืน
ท้องฟ้าคำรามลั่นครืนใหญ่
“ทำอะไรน่ะ?”
ชายคนนั้นตะโกนถาม สายตาคู่นั้นจ้องมองที่เธอและท่าทางนั้นก็ดูเอาเรื่อง
“ขโมยของฉันไปแล้ว ก็จะจากไปดื้อๆ แบบนี้หรือ?”
หญิงสาวเปิดปากกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ห้วนและหยาบ ดวงตาที่ปรือนั้นคล้ายกับดวงตาของสุนัขจิ้งจอก เพียงพริบตาเดีย็สามารถพลิกร่างเหยียบเขาให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าได้ หล่อนปรายตามองเขา
“พูดอะไร ฟังไม่เข้าใจเลยสักนิด ผู้หญิงบ้านี่ ปล่อยนะโว้ย! ”
ชายชุดดำดิ้นรนขัดขืนไม่หยุดพลางจ้องเขม็งไปที่หญิงสาว น้ำเสียงของเขาโกรธแค้นพร้อมกับด่าทอดังลั่น
ยิ่งฟังถ้อยคำผรุสวาทของชายหนุ่ม ใบหน้าของหญิงสา็ยิ่งเคร่งขรึม เธอกดน้ำหนักลงที่เท้าให้แรงขึ้น ได้ยินเพียงเสียงปริหักคล้ายกับเสียงกระดูกแตก กำปั้นของชายหนุ่มก็พลันคลายออก ไข่มุกสีทองจึงร่วงหล่นออกมาจากมือ
ชายหนุ่มร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เหงื่อเย็นไหลผุดทั่าย เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความทรมาน
“คุณผู้หญิง ได้โปรดไว้ชีวิต...”
ชายหนุ่มใช้เรี่ยวแรงในการร้องขอให้เธอยกโทษให้
หญิงสา้มตัวลงเก็บไข่มุกทองขึ้นมา สายตาเย็นชาหยุดมองที่ร่างของเขา จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “มีความสามารถเพียงน้อยนิด ยังเลือกเรียนเป็นขโมยอีกหรือ? มิหนำซ้ำยังขโมยของติดตัวของฉันคนนี้ แกนี่ช่างมีความสามารถเสียจริงนะ”
เมื่อชายหนุ่มถูกดูถูกก็โกรธจนใบหน้าเป็นสีแดงเข้ม หลังจากที่ฟังคำพูดของหญิงสาวจบ เขาก็หอบสั่นด้วยความรุนแรง พลางพูดอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “เธอ เธอเป็นใคร?”
หญิงสาวเลิกคิ้ว นัยน์ตาเป็นประกาย พลันแสงชั่วร้ายฉายในแววตาครู่หนึ่ง เธอเขยิบมาอยู่ด้านหน้าของชายหนุ่ม พลางกระซิบเสียงเบา “คุณหนูเจ็ดตระกูลฮวา ชื่อพยางค์เดียวตัว‘เหยียน’เคยได้ยินหรือไม่?”
หล่อนตอบ
ชายหนุ่มชะงักไปชั่วขณะ ทันใดนั้นหัวสมองพลันขาวโพลน ลมหายใจเย็นพรมรดหลังต้นคอเขา สองตาเบิกโพลง “เธอ เธอคือจอมโจรฮวาเหยียน? ”
ตระกูลฮวาเป็นตระกูลสุดยอดหัวขโมยที่เลื่องชื่อโจษจันระดับโลก ทว่าในบรรดาพเขา ฮวาเหยียนคุณหนูลำดับที่เจ็ดเป็นเด็กสาวมากพรสวรรค์และมีชื่อเสียงขจรไกล ทั้งองค์กรสว่างและองค์กรมืด ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ เธอเป็นตำนานแห่งหัวขโมยระดับโลก
คนอื่นล้วนพูดถึงเธอว่า เหตุสมบัติยังเหลืออยู่บนโลกนี้ นั่นเป็นเพราะว่าเธอไม่อยากขโมยมัน ไม่มีสมบัติใดที่เธอไม่สามารถขโมยได้
เขาสูดหายใจเอาลมหายใจเย็นๆ เข้าปอดเฮือกนึง แววตานั้นยังมีความประหลาดใจแฝงอยู่ เมื่อเหลือบมองไข่มุกทองบนมือของเธอ จู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เนื้อตัวสั่นเทิ้มพูดออกไปว่า “นี่คือสมบัติล้ำค่าของเมือง Z ไข่มุกทองมังกรคะนองน้ำ?! ”
น้ำเสียงมั่นใจกล่าวตอบ
“ก็ใช่น่ะสิ”
ฮวาเหยียนพยักหน้า พลางหรี่ตามองและคิดว่าคนคนนี้รู้อะไรๆ เยอะเลยทีเดียว
เป็นเวลานั้นเอง ชายหนุ่มพลันรู้สึกเย็นวาบที่หลังคอและดวงตาก็พร่าเบลอ
ไข่มุกทองมังกรคะนองเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศ Z ที่ถูกขโมยไป กษัตริย์เสนอรางวัลค่าหัวหนึ่งพันล้านดอลลาร์เพื่อตามจับผู้กระทำผิด ตามข่าวลือแล้ว ไข่มุกทองคำนี้เป็นไข่มุกของมังกรคะนองน้ำอายุพันปี ของสิ่งนี้รวมอำนาจฟ้าดินอยู่ภายในและซ่อนพลังลึกลับเอาไว้ หากใช้งานได้ก็จะสามารถเรียกลม เรียกฝน หรือแม้กระทั่งเหินฟ้าหรือดำดิน
แม้ฟังแล้วจะรู้สึกเหลือเชื่อ แต่เงินรางวัลพันล้านก็ทำให้ผู้คนบ้าคลั่งแล้ว
คิดไม่ถึงว่าจะมาโผล่มาอยู่ที่นี่ได้
เขาเพียงแค่บังเอิญเดินผ่านมา เหลือบเห็นไข่มุกที่ดูแปลกตา ตามนิสัยส่วนตั็เลยเดินตามเธอไป คาดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้ และยิ่งคาดไม่ถึงไปอีกว่าหญิงสาวหน้าสวยเบื้องหน้าจะเป็นถึงหัวขโมยผู้เลื่องชื่อที่มีนามว่าฮวาเหยียน
ที่คิดไม่ถึงที่สุดก็คือ ไข่มุกที่อยากได้เม็ดนั้นจะกลายเป็นไข่มุกมังกรคะนองน้ำที่ทุกคนพลิกแผ่นดินตามหาอยู่
ชายชุดดำหวาดกลัวอยู่ตรงนั้น ร่างกายของเขาสั่นเทา แม้คำพูดสักคำก็ยังพูดไม่ออก ชั่วขณะนั้นเขาพลันรู้สึกหมดหวังและแทบจะคาดเดาจุดจบของตัวเองได้
“ไว้... ไว้ชีวิตผมเถอะ ผมผิดไปแล้ว ผมช่างขลาดเขลานักที่ไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร [1] คุณผู้หญิงไว้ชีวิตด้วย ผมสาบาน จะไม่มีวันพูดเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ได้โปรดปล่อยผมไป…”
ชายหนุ่มคุกเข่าแล้วใช้หน้าผากโขกพื้นไม่หยุด ชั่วขณะนั้นความกลัวอยู่เหนือสติสัมปชัญญะทั้งปวง เขาได้ค้นพบความลับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ดังนั้นหัวขโมยฮวาเหยียนย่อมไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่
จอมโจรระดับพระกาฬ มีผู้ใดไม่รู้จักบ้าง คุณหนูเจ็ดฮวาเหยียน เริ่มหัดขโมยตอนอายุห้าขวบและมีชื่อเสียงตอนอายุสิบขวบ เด็กสาวผู้เพียบพร้อมไปด้วยพรสวรรค์ รู้ผิดรู้ชอบ หากใครไม่ทำร้ายเธอก่อน เธอก็ไม่ทำร้ายใครก่อนเช่นกัน แต่เธอมีนิสัยเลือดเย็น เมื่อมีแค้นก็ย่อมต้องชำระ
ทำไมเขาถึงซวยขนาดนี้ที่มายั่วโมโหฮวาเหยียนผู้นี้ได้
ฮวาเหยียนเห็นชายชุดดำหวาดกลัวขนาดนี้ หล่อนก็ยิ้มเยาะพร้อมกับกรอกตาในใจ ตำหนิคนขี้ขลาด
เห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนร่วมทางกัน ไม่จำเป็นต้องรีบสังหาร เพียงแต่คนคนนี้ไม่คุยกันด้วยเหตุผล ซ้ำยังยั่วยุเธอ ไม่อาจที่จะปล่อยไปได้ เพียงพริบตาเดียว เสียงเรียบเย็นก็เอ่ยขึ้น “เรื่องปล่อยไปนั้น คงเป็นไปไม่ได้แน่ แกรู้จักตัวตนของฉันแล้ว หากแพร่งพรายออกไปจะทำเช่นไร? เหตุใดแกถึงไม่ปลิดชีพตัวเองดูเล่า? ”
“ไม่ ไม่เอา…”
หลังจากที่ชายหนุ่มฟังคำพูดของเธอจบ ร่างกายพลันอ่อนยวบลง น้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาไร้แววเพราะรู้ว่านี่คงเป็นโชคชะตาที่ไม่อาจเลี่ยงได้ [2]
“หรือจะรอให้ฉันลงมือ?”
ฮวาเหยียนหรี่ตา ลมหายใจเยือกเย็นไหลผ่านออกมา
ชายหนุ่มส่ายหัวสู้เพื่อขอชีวิต น้ำหูน้ำตาไหลพราก มองแล้วช่างน่าเวทนายิ่งนัก
“เฮอะ”
เสียงเรียบของหล่อนดังขึ้น ในใจนึกสบถด่าคนขี้ขลาดตาขาว ชั่วนาทีต่อมาเธอก็ยกมือโบกเล็งไปทางหัวของชายผู้นั้น
“อ๊าก…”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น ชายหนุ่มตาเหลือกเบิกโพลงทั้งสองข้าง หัวของเขากระแทกลงกับพื้นและสลบเหมือดไปทันที
“หึ เจ้าคนขี้ขลาด”
ฮวาเหยียนปรายตามองชายที่สลบอยู่บนพื้นแล้วด่าไปหนหนึ่งทันที เธอยักไหล่ ผละเดินจากไป ที่จริงเธอไม่ติดที่จะฆ่าเขาอยู่แล้วเพราะโทษนั้นไม่ร้ายแรงถึงตาย เพียงแค่อยากให้เขาตกใจก็เท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเขาจะไม่เอาไหนขนาดนี้
หยาดฝนโรยริน สายหมอกลอยพริ้ว ความืิยามาีค่อยๆ โปรยลงมา ฮวาเหยียนเดินอยู่บนทางที่เฉอะแฉะผ่านร่างชายหนุ่มไปราับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอเหลือบตามองไข่มุกมังกรคะนองน้ำในมือ
อืม... พันล้านดอลลาร์ ช่างคุ้มค่าเสียจริง
เพียงแต่ไม่รู้ว่าพลังงานลึกลับในตำนานจะมีจริงหรือไม่?
ฝนยิ่งตกยิ่งหนักขึ้น
สายฟ้าผ่าวาบสว่างทั่วทั้งท้องนภาราับเป็นเวลากลางวันทำเอาผู้คนตกใจ สายฟ้านี้ราับหั่นแหท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน ฮวาเหยียนขมวดคิ้ว เมื่อมีฟ้าผ่าย่อมต้องมีฟ้าร้อง
ทันใดนั้น เพียงชั่ววินาทีเสียงฟ้าร้องก็ดังอึกทึกขึ้นพร้อมแสงสีทองจ้าแสบตา ท้องฟ้าคล้ายกับถูกกรีดเปิดเป็นช่องว่าง ทันใดนั้นสายฟ้าสีทองก็ผ่าลงมา คาดไม่ถึงว่าจะผ่าลงมาที่ฮวาเหยียนพอดี
“ฉันไปทำอะไรให้หรือ? มารดามันเถอะ”
ฮวาเหยียนตกใจ เธอพลิกกายกลางอากาศหลบสายฟ้านั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความระมัดระวังก่อนจะยกเท้าและวิ่งหนีทันที ชั่วอึดใจเดียว เธอก็ละทิ้งความเชื่องช้าเอาไว้ด้านหลังทันที
ทว่าสายฟ้าสีทองราับต้องการตามล่าตัวเธอ เพราะมันติดตามเธอมาติดๆ
ไม่ว่าฮวาเหยียนจะวิ่งไปที่ใด สายฟ้าที่ตามหลังเธอก็เป็นเหมือนกับตาดวงกลมโตที่ไม่หยุดระเบิดตามหลังเสียที
“ให้ตายเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันไม่ได้แค่ขโมยไข่มุกแตกๆ มาลูกหนึ่งหรือ? ผิดถึงขนาดต้องถูกฟ้าผ่าเลยหรือ? ”
ฮวาเหยียนก่นด่า แววตานั้นช่างเยือกเย็นยิ่งนัก
เธอยกมือขึ้นมา อยากโยนไข่มุกทองคำมังกรคะนองน้ำในมือทิ้ง ทว่าในเวลานั้นเอง-
ครืนๆ
ครืนๆๆ
สายฟ้าสีทองสว่างวาบ เสียงดังสะเทือนเลือนลั่น ระเบิดกลางศีรษะฮวาเหยียนทันที
เธอเงยหน้าขึ้นตามจิตใต้สำนึก พลันพบภาพวิมานบนสวรรค์ที่ถูกแสงสีทองฉีกกระชากเป็นช่องโหว่ราับมีน้ำวนขนาดใหญ่หมุนวนไปมา จากนั้นร่างเธอก็ถูกยกจนลอยขึ้นไปบนอากาศ ดวงตาพลันมืดสนิททันที…
หิมะไม่มีสิ้นสุด เสียงลมหนาวคำราม หิมะโปรยปรายบนท้องฟ้า มันถูกลมหนาวพัดปลิวพริ้วลอยละล่อง
หุบเขาที่เงียบสงบ ถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน บางครั้งกลางหุบเขาก็มีเสียงสะท้อนดังคล้ายหุบเขา Devil May Cry[3]
เวลานี้เป็นเวลาใกล้พลบค่ำแล้ว แสงแห่งความมืดคืบคลานคล้อยดับลง ฉาบทุกอย่างให้กลายเป็นสีแดง
“ลูกรัก มิต้องกลัว มารดาจะปกป้องเจ้าเอง! ”
หิมะยังท่วมไม่ถึงข้อเท้านาง กลางพื้นหิมะ สตรีสวมชุดคลุมสีชมพูวิ่งไปมาด้วยความสับสน ลมหายใจหอบหนักถูกซ่อนไว้ท่ามกลางสายลมหวีดหวิว ทุกที่ที่นางวิ่งผ่านไป ตลอดเส้นทางคดเคี้ยวปรากฏเลือดสีแดงสดอยู่ด้านหลัง เมื่อมองดูอย่างละเอียดจึงพบว่าที่หน้าอกของนางมีลูกศรหักๆ เสียบคาไว้อยู่ นั่นเป็นตำแหน่งที่ใกล้หัวใจยิ่งนัก ซึ่งเป็นบาดแผลที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต ทว่าในอ้อมกอดของนางกลับอุ้มทารกน้อยไม่คลาย
ใบหน้าซีดขาวแทบไม่มีสีเลือดแต่เท้านั้นก็ก้าวต่อไปไม่หยุด นางใช้แรงทั้งหมดรุดวิ่งไปข้างหน้า ทว่าจู่ๆ ก็เหยียบถูกอะไรบางอย่างจนสะดุดล้มลงกับพื้น ทำให้ร่างกายกระแทกและเลือดไหลกบปากทันที นางพยายามจะลุกขึ้นแต่กลับไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
หญิงสาวรู้ดีว่า วันนี้นางอาจจะต้องตายอยู่ใต้หิมะ ช่างน่าเสียดาย บุตรชายของนาง
ใต้เท้าของนางมีการสั่นสะเทือนขึ้นเล็กน้อย มันเกิดจากแรงวิ่งของม้า สีหน้าของหญิงสาวยิ่งซีดเซียว คนที่ตามหลังมาใกล้จะตามมาถึงแล้ว
ตัวเองตายไม่เสียดาย แต่จะยอมให้ลูกของนางตกอยู่ในมือของคนเช่นนั้นได้อย่างไร?
ชายผู้นั้นฐานะสูงส่งแต่เย็นชาและโหดร้ายยิ่ง ไม่มีทางที่เด็กจะอยู่ด้วยได้
หยาดน้ำตาค่อยๆ หยดลงพื้นทีละหยด หญิงสาอดเด็กในอ้อมกอดไว้แน่น ตัวสั่นเทิ้มนางควักของที่อยู่ในอกออกมา แม้ว่าจะถูกย้อมไปด้วยเลือดแต่มันก็ยังคงเปล่งแสงสีแดงเข้ม หากมองให้ถี่ถ้วนก็จะพบว่านั่นคือจี้หยกเรืองแสง
“พี่จิน ข้าจะตายแล้ว แต่ว่าท่านอยู่ที่ไหนกัน? ฮึก ฮึก…”
เสียงร้องครวญครางของหญิงสาวถูกพัดลอยหายไปกับสายลม เสียงร้องไห้แสนโศกเศร้าที่ถูกสะกดไว้ฟังแล้วช่างแสนขื่นขมยิ่งนัก...
ในเวลานั้นเอง ฟ้าสลัลับมีแสงสีขาวสว่างวาบเป็นทาง แสบตาจนหญิงสาวไม่อาจลืมตาได้ นางยกมือขวาขึ้นบังแสงตามจิตใต้สำนึกและหรี่ตามองเห็นท้องฟ้าที่ราับว่าถูกคนใช้มีดสีเงินผ่าตรงกลาง ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของคนๆ หนึ่งร่วงหล่นลงมา
ดวงตาของหญิงสาวเบิกโพลง หายใจติดขัดในลำคอ
ตู้ม!
เกิดเสียงวัตถุขนาดใหญ่ตกลงพื้น แสงสีขาวบนท้องฟ้าพลันหายไป รอยแตกประกบกันจนสนิท ราับทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาที่นางสร้างขึ้นมาเอง หลังจากที่หญิงสาวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นคนที่ตกลงมาตรงหน้า ราับเพิ่งนึกขึ้นมาได้ นางตัวสั่นร้องเรียก “ท่านเทพธิดา…! ”
“ร้องเป็นแมวไปได้ เกิดอะไรขึ้น?”
หัวของฮวาเหยียนยังรู้สึกวิงเวียนอยู่เล็กน้อย เพียงแค่รู้สึกว่าฟ้าผ่าลงมา แล้วเธอก็ถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ
ก้นที่กระแทกนั้นรู้สึกเจ็บยิ่งนัก เธอถูบั้นท้ายเบาๆ ฝ่ามือสัมผัสหิมะเย็นยะเยือก ก่อนจะสะบัดหัวไล่อาการวิงเวียนนั้น เธอมองไปรอบๆ เห็นภาพตรงหน้าล้วนเป็นสีขาวโพลน ที่นี่คือที่ใดกัน?
“ท่านเทพธิดา…! ”
เสียงร้องเบาๆ ดังกระทบหู
มีคนอยู่ด้วย
ฮวาเหยียนหันมองไปรอบๆ สองตาก็สบกับสตรีนางนั้นทันที
ทั้งสองต่างตกใจ ต่อจากนั้นก็เบิกตาโพลงทั้งคู่
ผู้หญิงตรงหน้าเธอสวมเสื้อคลุมสีชมพูตัวใหญ่ รอบคอมีขนสุนัขจิ้งจอกพันรอบขาวราับหิมะ เมื่อมองที่เท้าของผู้หญิงคนนนั้นก็พบรองเท้าสีเดียันคู่หนึ่ง ซึ่งการแต่งกายนี้เป็นชุดโบราณอย่างชัดเจน
เมื่อมองดูใบหน้าแล้ว ผู้หญิงตรงหน้าช่างงดงามหาผู้ใดเปรียบ คิ้วโค้งโก่งได้รูป ดวงตารูปหยดน้ำ อารมณ์ลุ่มลึก บรรยากาศในตอนนี้ช่างสงบนิ่งและสง่างาม
แต่สิ่งที่เธอกำลังบรรยายถึง มันเหมือนกับบรรยายตัวเธอเอง เหมือนราับพิมพ์เดียัน…
คล้ายกับกำลังส่องกระจกอยู่เพียงแต่เธอมัดหางม้า ใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้เป็นใครกัน?
ฮวาเหยียนไม่มีทางรู้ว่าเธอคือพี่สาวหรือน้องสาวของตัวเองที่พลัดพรากจากไปหลายสิบปี
“เธอ….”
เชิงอรรถ
[1]有眼不识泰山มีตาแต่กลับไม่รู้จักเขาไท่ซาน เป็นการอุปมาถึงการที่ไม่รู้จักคนสำคัญหรือคนที่มากความสามารถ
[2]在劫难逃ดวงถึงคราวเคราะห์
[3] 鬼泣 Devil May Cry เป็นเกมแอ็กชันผจญภัยปี 2001 ที่พัฒนาโดย Capcom Production Studio 4
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??