เรื่อง [นิยายแปล] Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม (MGA)
"มีสิ่งนี้ พันธมิตรกระบี่คงไม่กล้าาหาเรื่องสกุลของข้าแล้วกระมัง" ฉู่เฟิงไม่ได้เป็ห่วงตัวเอง แต่เป็ห่วงฉู่เยว่และคนอื่น ๆ
"มันก็ไม่แน่หรอก เพราะพวกพันธมิตรกระบี่ไม่เหมือนัพวกสกุลหลิวที่สักแต่อาศัยอำนาจบารมีของครอบครัว พวกมันมีฝีมือากทีเดียว"
"แต่ไม่ต้องเป็ห่วงหรอก หากพวกมันาหาเรื่องจริง พันธมิตรแห่งปีกจะออกโรงเอง แล้วจักได้ประจักษ์แจ้งว่าใครใหญ่กว่ากัน"
พูดจบซูเหม่ยก็จากไปอย่างอารมณ์ดี เด็กสาวคนนี้เคยกังวลอะไรัเขาบ้างไหมหนอ?
"พันธมิตรแห่งปีก แท้จริงแล้วมีศักยภาพขนาดไหนกัน?" ฉู่เฟิงมองดูเข็มกลัดในมือ ทว่าในใจยังอดสงสัยไม่ได้
อย่างน้อยจากคำพูดของซูเหม่ย พอจะรู้ว่าพันธมิตรแห่งปีกไม่ได้เกรงกลัวพันธมิตรกระบี่เลยแม้แต่น้อย และอาจจะไม่ได้มองพวกมันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
ไม่ลองไม่รู้ ฉู่เฟิงประดับเข็มกลัดไว้บนหน้าอกเสื้อ แสร้งเดินวนอยู่ในสำนักอยู่ครู่ใหญ่ เพื่อสำรวจปฏิกิริยาของผู้พบเห็น
"ดูนั่นซิ ฉู่เฟิงนี่นา"
"คนที่ถล่มพันธมิตรสกุลหลิว และทำให้หลิวหางหมดสิทธิ์สืบสกุลนะหรือ?"
"ใช่แล้ว มันนั่นแหล่ะ วันนั้นข้าอยู่ในเหตุการณ์ จำมิผิดหรอก"
"แต่ได้ข่าวว่ามันถูกจับตัวไปลงโทษไม่ใช่รึ ทำไมยังเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างนอกได้?"
"ดูที่หน้าอกมันสิ มันเป็คนของพันธมิตรแห่งปีกหรือนี่?"
"ไม่น่าเชื่อ มันเคยปฏิเสธพันธมิตรแห่งปีกาครั้งหนึ่งแล้ว แต่วันนี้ยังเข้าไปเป็สาชิกได้อีก แถมยังรอดพ้นจากการลงโทษของฝ่ายในอีกด้วย ฉู่เฟิงคนนี้มันใหญ่าจากไหนกัน?"
"ภูมิหลังต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน คนที่กล้าทำหลิวหางขนาดนี้ยังลอยหน้าลอยตาได้ พวกเจ้าก็ระวังตัวไว้ อย่าได้ล่วงเกินมันเชียว"
ผู้คนที่พบเห็นต่างพากันฮือฮา นอกจากทึ่งในระดับฝีมือของฉู่เฟิงแล้ว เริ่มคาดเดาต่าง ๆ นานาเกี่ยวัฐานะตระกูลของฉู่เฟิงด้วย
เมื่อกลับาถึงเรือนพักของตน ฉู่เฟิงพบว่ายังมีแสงไฟสว่างอยู่ มีเงาคนเดินวนไปาอยู่หน้าห้อง ที่แท้เป็ฉู่เวยและอื่น ๆ
"พี่ฉู่เวย พวกท่านาที่นี้ทำไมหรือ?"
"น้องฉู่เฟิงในที่สุดก็กลับา เห็นเจ้าไม่เป็ไร ทุกคนก็สบายใจ" ฉู่เวยราวัยกภูเขาออกจากอก รีบชักชวนฉู่เฟิงเข้าเรือนพัก "รีบเข้าไปสิ ทุกคนกำลังรอเจ้าอยู่"
เมื่อเปิดประตู ฉู่เฟิงพบว่าฉู่เยว่ ฉู่เสว่ และคนอื่น ๆ ของพันธมิตรสกุลฉู่ากันพร้อมหน้า
กลางห้องโถงได้จัดเตรียมอาหารเลิศรสไว้เรียบร้อยแล้ว แถมยังเป็ของโปรดของฉู่เฟิงทั้งสิ้น
เมื่อสอบถามจึงรู้ว่า หลังจากที่ตนถูกจับกุมไป ฉู่เยว่จึงพาทุกคนไปหออาวุโสเพื่อขอร้องให้ละเว้นโทษ แต่ไม่เป็ผลและเกือบจะถูกลงโทษอีกด้วย
โชคดีที่ซูโหรวอยู่ตรงนั้นพอดี จึงออกตัวไกล่เกลี่ยให้ และกำชับพวกมันให้กลับาเตรียมอาหารดี ๆ ไว้ เพราะนางสาารถพาฉู่เฟิงออกาอย่างปลอดภัยได้แน่
สำหรับฉู่เฟิง แม้อาหารมื้อนี้ไม่ใช่มื้อแรกที่มันร่วมรับประทานัคนในสกุลฉู่ แต่ก็ถือได้ว่าเป็มื้อแรกที่รู้สึกถึงความเป็ครอบครัวที่แท้จริง
มันรู้สึกได้ว่าทุกคนปฏิบัติต่อมันด้วยความจริงใจ แม้จะเพิ่งรู้สึกได้ในวันนี้ แต่ฉู่เฟิงก็เปี่ยมด้วยความสุขอย่างาก
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่เฟิงตื่นแต่เช้า พกป้ายภารกิจและออกเดินทางทันที
ความจริงวันนี้มันไปร่วมภารกิจของซูเหม่ย ไม่จำเป็ต้องใช้ป้ายภารกิจ มันจึงตัดสินใจนำไปคืน
แต่เดินออกจากเรือนพักได้ไม่เท่าไร มันก็เจอัต้วนหยู่ซวน คนที่แย่งชิงป้ายภารกิจัตน
ฉู่เฟิงจึงทักด้วยความดีใจ "เฮ้ย เจ้าน่ะ หยุดก่อน"
ต้วนหยู่ซวนถึงัสะดุ้งโหยง เมื่อหันาเห็นฉู่เฟิงยิ่งหน้าซีดเป็ไก่ต้ม
ข่าวของฉู่เฟิงได้รำลือไปทั่วภายในคืนเดียว เมื่อมันเห็นฉู่เฟิงแล้ว จึงรู้สึกกลัวยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก
เพราะมันเคยล่วงเกินฉู่เฟิงาก่อน ยิ่งได้ข่าวเช่นนั้น เมื่อคืนถึงักินไม่ได้นอนไม่หลับ วิตกไปเองว่าฉู่เฟิงจะกลับาเอาเรื่องตน ไม่นึกไม่ฝันว่าต้องเจอัฉู่เฟิงตั้งแต่เช้า
ฉู่เฟิงยังไม่ทันได้กล่าวอะไร ต้วนหยู่ซวนก็ลงไปคุกเข่าบนพื้น "พี่ฉู่เฟิง ข้ามีตาหามีแววไม่ เมื่อวานข้าไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินพี่ พี่ปล่อยข้าไปเถอะ"
"อะไรของเจ้าวะเนี่ย?" ฉู่เฟิงถึงัอึ้งไปจังหวะหนึ่ง ก่อนจะหยิบของออกจากกระเป๋าของตน "เอานี่ ข้าแค่อยากจะให้เจ้าช่วยนำป้ายภารกิจนี้ไปคืนแทนข้าหน่อยเท่านั้น"
"หา? เจ้าเรืยกข้า เพราะเรื่องนี้เองหรือ?" มันรับของาอย่างอาย ๆ
"คือ ความจริงข้าจะบอกว่า มันอาจจะเป็ภารกิจที่เจ้ากำลังต้องการน่ะ รบกวนด้วยนะ" ฉู่เฟิงตบไหล่มันเบา ๆ แล้วเดินจากไปทันที
มันได้แต่น้อมส่งฉู่เฟิงด้วยสายตา ทันใดนั้นมันก็สังเกตเห็นสายตาของคนที่เดินผ่านไปาบนท้องถนน กำลังมองมันด้วยความขำขัน
"ปัดโธ่เว้ย น่าอายชะมัด" มันถึงัก่นด่าตัวเองในใจ
ตามที่ซูเหม่ยนัดหาย เมื่อฉู่เฟิงออกจากสำนักมังกรคราม จึงถอดชุดเครื่องแบบเปลี่ยนเป็ชุดลำลอง แล้วเดินทางต่อจนถึงวัดร้างแห่งหนึ่งตามที่นัดหายไว้
ก่อนจะเข้าไปในวัดร้าง ฉู่เฟิงใช้จิตสัมผัสสำรวจพบว่าในวัดร้างมีคนอยู่เจ็ดคน
เมื่อเข้าาในวัดร้างก็พบว่ามีซูเหม่ยและพี่น้องเสือมังกร ส่วนที่เหลืออีกสี่คนไม่คุ้นหน้าเลย แต่พอจะสัมผัสได้ว่าสี่คนนี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน
สองคนแรกเป็ชายหญิงที่ทำตัวเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามัน กระซิบคุยกันราวัต้องการให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกมันเป็คู่กัน
แต่ที่น่าแปลกคือการแต่งตัวของพวกมันทั้งสอง ฝ่ายชายแต่งชุดสีชมพูลายดอกไม้ ดูตุ้งติ้งชอบกล ส่วนฝ่ายหญิงแต่งตัวทะมัดทะแมงราวัชายชาตรี แม้สวยไม่เท่าซูเหม่ย แต่ก็ถือว่าเป็คนสวยเหมือนกัน
ส่วนคนที่สามเป็ชายหนุ่มในชุดสีขาว หน้าใสคิ้วเข้ม เมื่อเห็นฉู่เฟิงเดินเข้าา ก็พยักหน้าทักทายอย่างเป็มิตร
ส่วนคนสุดท้าย ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงิน ต่างจากชายหนุ่มชุดขาวโดยสิ้นเชิง มันมองฉู่เฟิงด้วยหางตา แถมยังมีแววตาร้ายลึาอย่างัเคยเป็คู่อริาก่อน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??